วันที่ 4 เมษายน 2566 ที่อาคารไอราวัตพัฒนา ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร เขตดินแดง นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์หลังจากจับหมายเลขพรรคก้าวไกล ได้เบอร์ 31 ว่า ตนพอใจ แต่อยากให้ประชาชนจำพรรคโลโก้ของพรรคมากกว่า เพราะบริบทการเลือกตั้งในครั้งนี้ คือ 2 ใบ 2 หมายเลข อาจทำให้ประชาชนสับสนได้ ดังนั้น การหาเสียงของเรา เพื่อไม่ให้เป็นภาระของประชาชน จะหาเสียงว่า กาก้าวไกล และบอกเบอร์ของ ส.ส.เขตเท่านั้น หากประชาชนกังวลว่าจะกาผิดสีผิดเบอร์ก็เลือกแค่พรรคก้าวไกล เห็นโลโก้พรรค เห็นชื่อพรรคก็พอ และจำแค่เลขของ ส.ส.เขต
เมื่อถามว่ากังวลหรือไม่? ว่าลำดับอาจเลื่อนขึ้นหากมีพรรคที่ไม่ผ่านการตรวจสอบ นายพิธา กล่าวว่า ไม่ซีเรียส และเข้าใจว่าต้องรอให้ครบวันที่ 7 เมษายนนี้ ก่อน ตนจึงเดินออกมาไม่ได้ชูนิ้วชูเบอร์ แต่ชูเพียงโลโก้ของพรรค
นายพิธา ยังกล่าวถึงกรณีพรรคใหญ่ได้เบอร์ที่จำยาก ว่า เบอร์ไม่ได้มีผลอะไร ส่วนกลยุทธ์การหาเสียงหลังจากนี้ ภายใน 2-3 วันต้องสร้างภาพจำให้กับประชาชนที่เชื่อในวิธีการทำงานของพรรคก้าวไกล ต้องลงเขตและบอกเลขให้ชัดๆ เรื่องนี้น่าจะเป็นเรื่องต้น ๆ ส่วนที่เหลือจะกลับไปหาเสียงแบบดาวกระจายเหมือนปกติ ตนคิดว่าต้องรีบทำงานแล้วเอาบัญชีรายชื่อไปเพิ่มพลังให้ ส.ส.เขตให้มากที่สุด
นอกจากนี้นายพิธา ตอบคำถามเรื่องอยากชวนพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรครวมไทยสร้างชาติ และพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ มาร่วมดีเบตด้วยหรือไม่ ? ว่า อยากให้หัวหน้าพรรคและแคนดิเดตนายกฯ ได้แสดงวิสัยทัศน์ในสิ่งที่เป็นความเดือดร้อนของประชาชน ให้ประชาชนฟังก่อนที่เขาจะให้คำตอบกับพวกเรา ฉะนั้นการเมืองเป็นเรื่อง 2 ทาง ต้องให้ประชาชนตั้งคำถาม และพรรคต้องมีคำตอบให้