โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไลฟ์สไตล์

“ม่อนแจ่ม” จากยุคสุดบูมมีที่พักตระกูล “ม่อน” ผุดเป็นดอกเห็ด สู่ยุคจัดระเบียบครั้งใหญ่

Manager Online

เผยแพร่ 29 ม.ค. 2563 เวลา 09.14 น. • MGR Online

“ม่อนแจ่ม” เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวเลื่องชื่อของเมืองไทย ที่แจ้งเกิดและโด่งดังอย่างรวดเร็วในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา

อย่างไรก็ดีแรงเหวี่ยงจากการท่องเที่ยวที่บูมสุด ๆ ของม่อนแจ่มและพื้นที่ใกล้เคียง ได้ก่อให้เกิดปัญหาต่าง ๆ ตามมาไม่น้อย ส่งผลให้วันนี้ม่อนแจ่มจำเป็นต้องมีการจัดระเบียบครั้งใหญ่

นับเป็นอีกหนึ่งทางแยกครั้งสำคัญของม่อนแจ่มที่น่าสนใจ และน่าติดตามเป็นอย่างยิ่ง

“กิ่วเสือ” มีมาก่อนม่อนแจ่ม

ม่อนแจ่ม หรือ ดอยม่อนแจ่ม ตั้งอยู่ที่ ต.แม่แรม อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ มีลักษณะเป็นพื้นที่บนสันเขา มียอดสูงราว 1,350 เมตร

เดิมดอยแห่งนี้มีชื่อเรียกว่า “กิ่วเสือ” ในอดีตมีสภาพเป็นป่ารกร้าง ก่อนที่ชาวบ้านจะเข้ามาแผ้วถางเพื่อปลูกฝิ่นและทำไร่เลื่อนลอย จนกลายเป็นป่าเสื่อมโทรม เขาหัวโล้นโล่งเตียน

กระทั่งในปี พ.ศ. 2527 ได้มีการจัดตั้ง “ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงหนองหอย” ขึ้น ตามแนวพระราชดำริ “ช่วยชาวเขา ช่วยชาวเรา ช่วยชาวโลก” ของในหลวงรัชกาลที่ ๙ เพื่อส่งเสริมการปลูกพืชผักเมืองหนาวแทนการปลูกฝิ่น ควบคู่ไปกับการพัฒนาส่งเสริมคุณภาพชีวิตของชาวบ้าน ตลอดจนการพื้นฟูและอนุรักษ์สภาพแวดล้อม เนื่องจากบริเวณนี้เป็นเขตพื้นที่ลุ่มน้ำชั้นที่ 1 ซึ่งเป็นแหล่งกำเนิดต้นน้ำลำธาร แต่ที่ผ่านมาได้ถูกบุกรุกทำลายเพื่อปลูกฝิ่นและทำไร่เลื่อนลอย

หลังพลิกฟื้นเขาหัวโล้นและป่าเสื่อมโทรม ให้กลายเป็นแหล่งเพาะปลูกพืชผักเมืองหนาวแทนการปลูกฝิ่น ช่วยให้คุณภาพชีวิตของชาวบ้านดีขึ้น โครงการหลวงก็ได้เดินหน้าส่งเสริม “การท่องเที่ยว” เป็นลำดับต่อไป เพื่อให้ชาวบ้านมีรายได้เสริม โดยได้เข้าไปพัฒนาพื้นที่ของกิ่วเสือที่มีศักยภาพและมีภูมิประเทศสวยงาม ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่

กำเนิดม่อนแจ่ม

“คุณแจ่ม-แจ่มจรัส สุชีวะ” (หลานของ ม.จ. ภีศเดช รัชนี ประธานมูลนิธิโครงการหลวงในขณะนั้น) ผู้ซึ่งเข้ามาพัฒนาพื้นที่บริเวณกิ่วเสือ (เดิม) ให้กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวน้องใหม่ตั้งแต่เมื่อช่วงปลายปี 2552 จนกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวชื่อดังมาจนถึงทุกวันนี้ ได้ (เคย) ให้สัมภาษณ์กับ นสพ.ผู้จัดการ (คอลัมน์ตะลอนเที่ยว ฉบับวันศุกร์ที่ 26 ก.พ. 2553) ว่า

“เดิมที่แห่งนี้เป็นขุนเขาว่างเปล่า ถูกทิ้งร้างให้มีหญ้าคาขึ้นเต็มไปหมด น้องสาว (คุณภดารี สุชีวะ) ที่ขึ้นมาเที่ยวที่นี่ก่อนผม เธอบอกว่าสวย น่าจะทำประโยชน์ได้บ้าง จนผมได้มีโอกาสถวายงานกษัตริย์สวีเดนที่เสด็จประพาสป่าแถวนี้ เมื่อขึ้นมาบนนี้แล้วเห็นว่าสวยจริง เลยคุยกับหัวหน้าศูนย์ฯโครงการหลวงที่นี่ว่า อยากจะพัฒนาพื้นที่แห่งนี้จากที่รกร้างว่างเปล่าให้เกิดประโยชน์ โดยยึดหลักความพอเพียงเป็นที่ตั้ง”

เมื่อลงมือพัฒนาพื้นที่แล้ว คุณแจ่มกับทีมงานเห็นตรงกันว่าควรตั้งชื่อยอดเขาลูกนี้ใหม่ จึงมีการตั้งชื่อ “ม่อนแจ่ม” ขึ้นมา

ชื่อม่อนแจ่ม หลาย ๆ คนฟังแล้วอาจคิดว่ามาจากชื่อของคุณแจ่ม แต่จริง ๆ แล้ว มาจากการโหวตของทีมงานคุณแจ่มจรัส ซึ่งต่างให้ความเห็นว่า เป็นชื่อที่ฟังไพเราะ ติดหูง่าย สอดรับกับชื่อ “ม่อนล่อง” จุดสูงสุดของอำเภอแม่ริม (1,450 เมตร) ที่ตั้งอยู่ใกล้ ๆ กัน (มีทางขึ้นเส้นทางเดียวกัน)

ม่อนแจ่ม ม่วนใจ๋

ม่อนแจ่ม หรือ “ดอยม่อนแจ่ม” ในยุคที่เริ่มเปิดตัวเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร มีจุดเด่นคือ ตั้งอยู่บนพื้นที่ที่มีอากาศเย็นสบาย มีอาหารเพื่อสุขภาพเน้นวัตถุดิบจากโครงการหลวงไว้บริการ มีแปลงดอกไม้ให้ถ่ายรูป มีการตกแต่งภูมิทัศน์อย่างกิ๊บเก๋ ดึงดูดให้คนมาถ่ายรูป

ที่สำคัญคือบนนี้มีวิวทิวทัศน์สวยงาม วันไหนที่ฟ้าเปิดสามารถมองเห็นดอยหลวงเชียงดาวตั้งตระหง่านได้อย่างชัดเจน หรือหากเป็นในวันที่มีเมฆหมอกเป็นใจก็ถือว่าเป็นอีกหนึ่งจุดชมทะเลหมอกมีความสวยงามไม่เป็นรองใคร

และที่พิเศษยิ่งกว่านั่นก็คือ ย่ำยามราตรีในคืนเดือนมืด เมื่อแหงนหน้ามองฟ้าที่นี่จะงดงามไปด้วยทะเลดาวส่องแสงสกาวพราวพรั่งเต็มฟากฟ้า ส่วนเมื่อก้มมองลงไปยังเบื้องล่างจะเห็นแสงไฟที่ส่องสว่างจากทั้งสองอำเภอ ดูประดุจดังดาราแต้มดินที่วิบวับหลากสี

นอกจากนี้ที่ม่อนแจ่ม (ยุคแรกเริ่ม) ยังมีการจัดทำที่พักในลักษณะ “แคมปิ้ง รีสอร์ท” นองกางเต็นท์ ดูดาวท่ามกลางธรรมชาติแวดล้อม แต่ภายในเต็นท์มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน จนหลาย ๆ คนเรียกว่าเป็น “เต็นท์วีไอพี” (V.I.P.) หรือเต็นท์ไฮโซ ซึ่งม่อนแจ่มถือเป็นแห่งแรก ๆ ในเชียงใหม่ที่มีบริการที่พักในลักษณะเต็นท์อันหรูหราแบบนี้

ม่อนแจ่มดังเพียงชั่วข้ามคืน

ม่อนแจ่มในยุคแรกเริ่ม ยังตีวงแคบเฉพาะส่วนของพื้นที่ บริเวณกิ่วเสือเดิม ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการหลวงหนองหอย

แต่หลังจากม่อนแจ่มเปิดตัวได้ไม่นาน ด้วยความที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวน้องใหม่ที่มุ่งตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนเมือง บริเวณนั้นมีสถานที่ท่องเที่ยวเชื่อมโยงหลากหลาย

ที่สำคัญคือม่อนแจ่มตั้งอยู่ใกล้ตัวเมืองเชียงใหม่ ทำให้ชื่อเสียงของที่นี่โด่งดังเพียงชั่วข้ามคืน มีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติเดินทางขึ้นไปเที่ยวที่ม่อนแจ่มเป็นจำนวนมาก

หลังจากนั้นชื่อของม่อนแจ่มก็ฮอตฮิต ม่อนแจ่มเติบโตแบบก้าวกระโดด มีที่พัก-ร้านอาหาร มากมายเกิดขึ้นรายรอบดอยม่อนแจ่ม ทั้งใน ต.แม่แรม และ ต.โป่งแยง อ.แม่ริม ชื่อของม่อนแจ่มจึงกลายเป็นชื่อที่เรียกรวมดอยม่อนแจ่ม และพื้นที่ใกล้เคียงเข้าไว้ด้วยกัน

ที่พักตระกูลม่อน

หลังกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดฮิต นอกจากวิวทิวทัศน์อันงดงามแล้ว ม่อนแจ่มยังโดดเด่นในเรื่องของชื่อที่พัก ตระกูล “ม่อน” ซึ่งที่พักหลายต่อหลายแห่งมักจะมีคำว่า “ม่อน” นำหน้า (ให้ล้อกับชื่อม่อนแจ่ม)

สำหรับที่พักตระกูลม่อนในยุคบุกเบิกแรกเริ่มของม่อนแจ่มนั้นก็นำโดย “บ้านม่อนม่วน” หรือ “ม่อนม่วน” ที่หมายถึงดอยแห่งความสนุก (ม่อน หมายถึงดอย, ม่วน หมายถึงสนุก)

หลังจากนั้นก็มีที่พักตระกูลม่อนเกิดขึ้นมากมายที่ม่อนแจ่ม ไม่ว่าจะเป็น ม่อนเมฆ ม่อนวิวงาม ม่อนม้ง ม่อนสายลม ม่อนตะวัน ม่อนแดนอิงดอย และม่อนไอดิน เป็นต้น

นอกจากที่พักตระกูลม่อนแล้ว ที่ม่อนแจ่มยังมีที่พักอีกหลากหลายทั้งรีสอร์ท โฮมสเตย์ สถานที่กางเต็นท์ โดยมีทั้งผู้ประกอบการที่เป็นชาวบ้าน นายทุนคนไทยต่างถิ่น รวมไปถึงนายทุนใหญ่จากต่างชาติ ที่เข้ามาร่วมทึ้งกินเค้กม่อนแจ่มด้วย

จัดระเบียบม่อนแจ่ม

หลังม่อนแจ่มบูมสุด ๆ แรงเหวี่ยงจากการท่องเที่ยวแบบไทย ๆ ที่มุ่งเน้นกอบโกย ขาดการวางแผนรองรับ ทำให้ม่อนแจ่มประสบปัญหาต่าง ๆ ตามมา ไม่ว่าจะเป็น การบุกรุกทำลายป่า ปัญหาด้านสิ่งแวดล้อม มีขยะตกค้างส่งกลิ่นเหม็นไปทั่ว

ขณะที่ชาวบ้านหลายคนก็เปลี่ยนวิถีไป เลิกหรือลดการปลูกพืชผักที่เป็นอาชีพดังเดิม หันมาเปิดที่พัก รีสอร์ท โฮมเสตย์ ทำร้านอาหาร หรือทำธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับการท่องเที่ยวแทน

สำหรับปัญหาใหญ่ของม่อนแจ่มในขณะนี้ก็คือ ในบรรดาที่พักมากมาย ที่ผุดขึ้นมาราวกับดอกเห็ด เพื่อหวังรองรับการท่องเที่ยวม่อนแจ่มที่บูมสุด ๆ นั้น มันมีทั้งในส่วนของที่พักที่ “ถูกกฎหมาย” และ “ผิดกฎหมาย” !?!

นั่นจึงนำไปสู่การจัดระเบียบม่อนแจ่มครั้งใหญ่ในช่วงต้นปี 2563 ซึ่งทางภาครัฐนำโดยกรมป่าไม้ ได้ให้ระยะเวลา 3 เดือนในการจัดระเบียบม่อนแจ่ม

ขณะที่ชาวบ้านส่วนหนึ่งนั้นก็เดินหน้าออกมาคัดค้าน ซึ่งเรื่องนี้คงต้องตามดูกันว่า ทั้ง 2 ฝ่าย จะหาจุดลงตัวกันอย่างไร ที่ไม่ทำผิดกฎหมายบ้านเมือง ซึ่งก็คงต้องตามดูกันว่าปฏิบัติการจัดระเบียบม่อนแจ่มจะสำเร็จหรือไม่ ?

และม่อนแจ่มในอนาคตจะเป็นเช่นไร?

จะเป็นเดินหน้าเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ยั่งยืน หรือเป็นแหล่งท่องเที่ยวเสื่อมโทรมที่รอวันล่มสลาย

คนในพื้นที่ม่อนแจ่มถือเป็นปัจจัยสำคัญที่จะกำหนดชะตาของตัวเอง

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0