โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

สธ.อัพเดตคำแนะนำโควิดสำหรับ ปชช. เลิก "เวิร์กฟรอมโฮม-ไทยชนะ"

MATICHON ONLINE

อัพเดต 29 ก.ย 2565 เวลา 10.13 น. • เผยแพร่ 29 ก.ย 2565 เวลา 10.13 น.
ann_3623_0_0_0
สธ.อัพเดตคำแนะนำโควิดสำหรับ ปชช. เลิก “เวิร์กฟรอมโฮม-ไทยชนะ”

วันนี้ (29 กันยายน 2565) นพ.จักรรัฐ พิทยาวงศ์อานนท์ ผู้อำนวยการกองระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวภายในการอบรมออนไลน์เตรียมความพร้อมสำหรับช่วงระยะหลังการระบาดของโควิด-19 (Post Pandemic) ซึ่งจัดโดยกองวิชาการแพทย์ กรมการแพทย์ สธ.ว่า ศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุข (EOC) กรณีโรคโควิด-19 ของ สธ. ได้จบภารกิจไปแล้ว และตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2565 เป็นต้นไป จะเหลือแต่ของกรมควบคุมโรคเท่านั้น ซึ่งจะมีการอัพเดตสถานการณ์ทุกสัปดาห์ผ่านแดชบอร์ดของกรมควบคุมโรค และ นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัด สธ. จะตั้งคณะกรรมการเพื่อติดตามสถานการณ์ และมาตรการต่างๆ รวมถึงผลที่อาจเกิดขึ้นหลังจากโควิดเป็นโรคติดต่อเฝ้าระวัง โดยจะประชุมอย่างน้อยเดือนละ 1 ครั้ง ติดตามกันยาวๆ ไปก่อน

นพ.จักรรัฐ กล่าวว่า สำหรับการรายงานข้อมูลการติดเชื้อโควิด-19 ภายในสัปดาห์หน้าจะรายงานปรับเป็นรายสัปดาห์ โดยข้อมูลวันที่ 29 กันยายน 2565 มีผู้ป่วยรายใหม่ 637 ราย เฉลี่ย 600-1,000 รายต่อวัน จากทั้งประเทศ ส่วนติดเชื้อรายสัปดาห์ (สัปดาห์ที่ 38 วันที่ 18-24 กันยายน 2565) อยู่ที่ประมาณ 4,787 ราย ลดลงจากสัปดาห์ก่อนๆ เสียชีวิตก็ลดลง ส่วนเรื่องอัตราการครองเตียงระดับ 2 และระดับ 3 นั้น

“ในสัปดาห์หน้า จะไม่มีการรายงานอัตราการครองเตียงแล้ว โดยขณะนี้อยู่ที่ ร้อยละ 7.4 ของเตียงทั้งหมด สำหรับผู้ป่วยติดเชื้อ จะยังมีรายงานในส่วนของสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) คือ OPSI และการรักษาที่บ้าน ซึ่งรวมกันเหลือประมาณ 81,258 ราย ลดลงต่อเนื่อง แต่ลงไม่เร็ว เพราะหลายจังหวัดมีการติดเชื้อเรื่อยๆ แต่ขณะนี้ เรามีภูมิคุ้มกันเกินร้อยละ 92 จาก 17 จังหวัด ตรวจหาภูมิคุ้มกันประมาณเกือบ 2 หมื่นคน” นพ.จักรรัฐ กล่าว

ผู้อำนวยการกองระบาดวิทยา กล่าวว่า ส่วนผู้เสียชีวิต 89 ราย เกือบทั้งหมดเป็นกลุ่ม 607 อายุ 60 ปีขึ้นไป และ 7 กลุ่มโรคเรื้อรัง ส่วนหญิงตั้งครรภ์ไม่ได้มีรายงานเข้ามาหลายเดือนแล้ว ทั้งนี้ พบว่าประมาณร้อยละ 50 ฉีดเข็มเดียว หรือไม่ได้ฉีดเลย อย่างไรก็ตาม ข้อมูลผู้ป่วยนอนรักษาในโรงพยาบาล พบว่า หลายจังหวัดมีเพียง 1-2 คนต่อวัน ถือว่าน้อยมาก ซึ่งจะติดตามเรื่อยๆ และจากการคาดการณ์การระบาดปี 2566 สถานการณ์โควิด-19 จะคล้ายโรคไข้หวัดใหญ่ และโควิด-19 หากไม่เปลี่ยนสายพันธุ์มาก ก็จะมีผู้ป่วยไม่มาก

“ทั้งนี้ คาดการณ์ได้ 2 ฉากทัศน์ ซึ่ง สธ.ไม่ได้แนะนำว่า ต้องถอดหรือสวมหน้ากาก แต่ขึ้นกับดุลยพินิจส่วนบุคคล สิ่งสำคัญคือ หากป่วยต้องสวมหน้ากากเพื่อป้องกันการแพร่เชื้อ โดยหลักต้องปฏิบัติตาม DMHT ส่วนการตรวจ ATK ขอให้ตรวจเมื่อมีอาการ ซึ่งหากปฏิบัติตามนี้สถานการณ์ก็จะอยู่ในเส้นสีเขียว คือ ติดเชื้อไม่มาก แต่หากไม่ทำ และถอดหน้ากากกันมาก ก็จะมีการติดเชื้อเพิ่มขึ้น ส่วนการเสียชีวิตนั้น ตัวเลขก็จะล้อตามกันไป” นพ.จักรรัฐ กล่าวและว่า สำหรับระดับการเตือนภัย เมื่อเป็นโรคโควิด-19 ที่ต้องเฝ้าระวัง เราจะปรับเป็นระดับที่ 1 คือ ระดับปกติ อย่างไรก็ตาม คาดการณ์ปี 2566 อาจพบการระบาดในลักษณะที่เพิ่มขึ้นและลดลงตามฤดูกาล โดยเสนอให้ รพ.ทุกแห่ง รายงานผู้ป่วยรักษาใน รพ. และผู้ป่วยเสียชีวิตจากโควิด-19 ผ่านระบบ API และปรับเพิ่มในระบบรายงานโรคติดต่อที่ต้องเฝ้าระวังต่อไป โดยจังหวัด และเขตสุขภาพ ตรวจสอบข้อมูลและตรวจับการระบาดของโรคด้วย สิ่งสำคัญ ผู้ป่วยใส่เครื่องช่วยหายใจ และปอดอักเสบ ยังจำเป็นต้องรายงานในระบบ Co-Ward

นพ.จักรรัฐ กล่าวว่า จากนี้ เมื่อเป็นการเฝ้าระวังกรณีเป็นคลัสเตอร์ ก็จะมีการสอบสวนโรค ส่วนจะควบคุมโรคนั้น ไม่มีอำนาจในการให้แยกกัก แต่จะขอความร่วมมือแต่ละพื้นที่ ซึ่งหากพบระบาดหนักในพื้นที่ให้อำนาจคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด/กรุงเทพมหานคร (กทม.) พิจารณาระบาดเฉพาะพื้นที่ได้ นอกจากนี้ การลดระดับมาตรการป้องกันควบคุมโรค มอบให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องปรับแก้ข้อสั่งการ รวบรวมและจัดทำแนวปฏิบัติสำหรับเจ้าหน้าที่ และคำแนะนำสำหรับประชาชนให้เป็นปัจจุบัน เช่น การยกเลิกใช้แอพพลิเคชั่น “ไทยชนะ” การสวมชุดป้องกันส่วนบุคคล (PPE) การออกใบรับรองแพทย์ การทำงานจากที่บ้าน (WFH) รวมถึงแนวปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ในสถานที่ผู้คนแออัด หรือพื้นที่ปิดอากาศไม่ถ่ายเท เป็นต้น

“นอกจากนี้ ยังเสนอให้คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด/กทม. พิจารณาปรับมาตรการป้องกันควบคุมโรค ทบทวนคำสั่งจังหวัด รวมทั้งเน้นให้มีการดำเนินการฉีดวัคซีนได้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งขอให้มีการสื่อสารประชาสัมพันธ์ในพื้นที่” นพ.จักรรัฐ กล่าว

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0