กรมควบคุมโรค ต้อนรับผู้เเทนศูนย์ความร่วมมือไทย-สหรัฐ ด้านสาธารณสุขหารือยุทธศาสตร์ใหม่ “CDC-Thailand Research Hub” ของศูนย์ป้องกันควบคุมโรคแห่งสหรัฐอเมริกา เล็งยกระดับการป้องกันโรคในประเทศไทย และเตรียมวางแผนกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป เมื่อวันที่ (31 มีนาคม 2565) ที่กรมควบคุมโรค นายเเพทย์โอภาส การน์กวินพงษ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค พร้อมด้วยนายเเพทย์โสภณ เอี่ยมศิริถาวร รองอธิบดีกรมควบคุมโรค ร่วมต้อนรับ และประชุมกับ Dr.James Heffelfinger ผู้อำนวยการ Mr.Todd Mercer รองผู้อำนวยการ เเละ Dr.Andrey Borisov ผู้อำนวยการโครงการ CDC-DHP จากศูนย์ความร่วมมือไทย-สหรัฐ ด้านสาธารณสุข เพื่อหารือยุทธศาสตร์ CDC-Thailand Research Hub ซึ่งเป็นยุทธศาสตร์ใหม่ของศูนย์ป้องกันควบคุมโรคแห่งสหรัฐอเมริกา โดยมีสัตวเเพทย์หญิงเสาวพักตร์ ฮิ้นจ้อย ผู้อำนวยการสำนักงานความร่วมมือระหว่างประเทศ นายแพทย์ไผท สิงห์คำ ผู้อำนวยการกองนวัตกรรมและวิจัย เเละ Dr.John MacArthur ผู้อำนวยการสำนักงานภาคพื้นเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เข้าร่วมด้วย นายเเพทย์โอภาส กล่าวว่า กรมควบคุมโรคมีภารกิจสำคัญในการศึกษา วิจัยเกี่ยวกับโรคเเละภัยสุขภาพเพื่อพัฒนาขีดความสามารถของการป้องกันควบคุมโรคของประเทศให้เป็นที่หนึ่งของเอเชีย เเละทำให้ประชาชนได้รับการป้องกันโรคเเละภัยสุขภาพตามมาตรฐานสากล การประชุมกับผู้เเทนศูนย์ความร่วมมือไทย-สหรัฐ ด้านสาธารณสุขครั้งนี้ ถือเป็นการเตรียมพร้อมยกระดับการวิจัยของกรมควบคุมโรคให้สามารถนำงานวิจัยที่มีอยู่เดิมเเละที่จะทำร่วมกันใหม่มาต่อยอด เเละขยายผลไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เเละภูมิภาคอื่นๆ เพื่อใช้ประโยชน์ต่อไป นายเเพทย์โอภาส กล่าวเพิ่มเติมว่า นอกจากประเทศไทยเเล้ว ยังมีประเทศอินโดนีเซียเเละประเทศเวียดนาม รวมถึงประเทศอื่นๆ ในภูมิภาค ที่เห็นชอบกับยุทธศาสตร์นี้ และกำลังเตรียมปรับเปลี่ยนกลไกการดำเนินงานให้สอดคล้องกับข้อตกลงของแนวคิดศูนย์กลางการวิจัยด้านการป้องกันควบคุมโรค ซึ่งไทยเองเห็นชอบในหลักการเเละวางแผนกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อหารือและพัฒนา CDC-Thailand Research Hub ต่อไป ประเทศไทยมีความก้าวหน้าและมีจุดแข็งในงานวิจัยด้านโรคเอดส์และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ กรมควบคุมโรคมีศูนย์ความเป็นเลิศทางด้านโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ บางรัก กองโรคติดต่อทั่วไป เเละกองวิชาการอีกมากที่พัฒนาองค์ความรู้เรื่องการป้องกัน ควบคุมโรค เเละภัยสุขภาพที่จะสามารถรองรับการดำเนินงานระยะ 3 ปีแรกของ CDC-Thailand Research Hub
ความเห็น 0