โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

หุ้น การลงทุน

สิ่งที่ควรรู้เกี่ยวกับเส้นอัตราผลตอบแทน (Yield curve)

ประชาชาติธุรกิจ

อัพเดต 26 พ.ค. 2566 เวลา 07.41 น. • เผยแพร่ 28 พ.ค. 2566 เวลา 05.31 น.
กองทุน ตราสารหนี้

บทความโดย : สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย (ThaiBMA)

สิ่งที่นักลงทุนต้องรู้เกี่ยวกับเส้นอัตราผลตอบแทน (Yield curve)

เส้นอัตราผลตอบแnน (Yield curve) คือ เส้นที่แสตงถึงอัตราผลตอบแทนตราสารหนี้ในช่วงอายุต่างๆ โดยทั่วไปอัตราผลตอบแทนของตราสารหนี้ที่อายุยาวจะให้ผลตอบแทนสูงกว่าตราสารหนี้ที่มีอายุสั้น เนื่องจากนักลงทุนต้องการอัตราผลตอบแทนสูงขึ้นเพื่อชดเซยความเสี่ยงที่ถือตราสารหนี้เป็นเวลานานขึ้น ดังนั้นเส้นอัตราผลตอบแทนจะมีค่าความชั้นเป็นบวก

รูปร่างของ Yield curve มักใช้เป็นตัวบ่งชี้ภาวะเศรษฐกิจ

เส้นอัตราผลตอบแทนปกติ (Normal yield curve)

คือ เส้นอัตราผลตอบแทนที่มีความชันเป็นบวก มีลักษณะเส้นลาดชันขึ้นจากช้ายไปขวา โดยพันธบัตรที่มีอายุคงเหลือสั่นจะให้ผลตอบแทนที่ต่ำกว่าพันธบัตรที่มีอายุคงเหลือยาว

เส้นอัตราผลตอบแทนกลับด้าน (Inverted yield curve)

คือ เส้นอัตราผลตอบแทนที่มีความชันเป็นลม ซึ่งกลับด้านจากสถานการณ์ปกติ โดยพันธบัตรที่มีอายุคงเหลือสั่น จะให้ผลตอบแกนที่สูงกว่าพันธบัตรที่มีอายุคงเหลือยาว แสดงให้เห็นว่านักลงทุนกังวลเกี่ยวกับความเสี่ยงในระยะสั้นมากกว่าความเสี่ยงในระยะยาว ลักษณะเส้นอัตราผลตอบแทนกลับด้านจึงเป็นสัญญาณบ่งขี้ถึงโอกาสการเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย

ปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อการเปลี่ยนแปลง Yield curve

เส้นอัตราผลตอบแทนสามารถเปลี่ยนแปลงได้ตามปัจจัยทางเศรษฐกิจที่อาจทำให้อัตราผลตอบแทนของรุ่นอายุต่างกันเปลี่ยนแปลงไม่เท่ากัน โดยอัตราผลตอบแทนระยะสั่นจะเปลี่ยนแปลงตามอัตราดอกเบี้ยนโยบายเป็นหลัก ส่วนอัตราผลตอบแทนระยะยาวจะขึ้นอยู่กับแนวโน้มทางเศรษฐกิจเป็นสำคัญ ทั้งนี้ เมื่ออัตราผลตอบแทนเปลี่ยนแปลง ราคาตราสารหนี้ย่อมเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางตรงกันข้าม

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0

ความเห็น 0

ยังไม่มีความเห็น