โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

การเมือง

ศาลยกฟ้องคดี "ธนาธร" ฟ้องหมิ่น "หมอวรงค์" พาดพิงหนุนล้มการปกครอง ชี้ เป็นการใช้สิทธิตามกฎหมาย

PPTV HD 36

อัพเดต 12 มี.ค. เวลา 03.58 น. • เผยแพร่ 12 มี.ค. เวลา 03.39 น.
ศาลยกฟ้องคดี
ศาลอาญายกฟ้องคดี

เมื่อวันที่ 12 มี.ค. ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลอ่านคำพิพากษาคดี คดีดำ อ.280/2564นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า เป็นโจทก์ฟ้อง นพ.วรงค์ เดชวิกรมกิจ ประธานพรรคไทยภักดี ในความผิดฐานหมิ่นประมาทผู้อื่นโดยการโฆษณา พร้อมเรียกค่าเสียหาย 24,062,475 บาท เกี่ยวกับกรณีที่ นพ.วรงค์นั้นได้ไลฟ์สดกล่าวหาทำนองว่านายธนาธรสนับสนุนเกี่ยวข้องกับปฏิรูปสถาบัน อันเป็นการล้มล้างการปกครอง จากการเเถลงข่าวจัดตั้งพรรคไทยภักดี เเละไลฟ์สดเฟซบุ๊ก เหตุเกิดช่วงวันที่ 20 ม.ค.- 4 ก.พ. 2564

วันนี้ นพ.วรงค์ เดินทางมาศาลอาญาพร้อมมีมวลชนมาให้กำลังใจ ส่วนนายธนาธรไม่ได้เดินทางมาศาล นพ.วรงค์ ให้สัมภาษณ์ก่อนเข้าฟังคำพิพากษา ระบุว่า คดีดังกล่าวมีที่มาที่ไป จากการที่ตนเองประกาศตั้งพรรคไทยภักดี เพื่อมีเป้าหมายในการต่อสู้กับพรรคก้าวไกล รวมถึงต่อสู้กับคณะก้าวหน้า และม็อบ 3 นิ้ว ที่มีการพาดพิงถึงขบวนการล้มล้างการปกครอง นำไปสู่การฟ้องร้องถึง 2 คดี โดยคดีแรกเป็นกรณีที่นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล และพรรคก้าวไกล เป็นผู้ฟ้องร้องตนเอง ในข้อหาหมิ่นประมาท ส่วนคดีนี้คือคดีที่นายธนาธร ฟ้องตนเองในข้อหาหมิ่นประมาทเช่นกัน เนื่องจากคดีนี้มาจากเหตุการณ์เดียวกันแต่มีการแยกฟ้องคดี

สำหรับคดีที่นายพิธา หรือพรรคก้าวไกล ผู้ฟ้องร้องตน ศาลได้พิพากษายกฟ้องว่าตนเองว่าไม่ได้มีการหมิ่นประมาท โดยทราบภายหลังว่าพรรคก้าวไกลได้ยื่นอุทธรณ์ ซึ่งไม่ว่าจะมีคำวินิจฉัยหรือคำพิพากษาจากศาลอย่างไร ยืนยันว่า ในการต่อสู้ที่ผ่านมา เป็นการต่อสู้ในข้อเท็จจริง และจากประสบการณ์ที่ผ่านมา ทราบว่าศาลได้ยกคำร้องในหลายประเด็น โดยเฉพาะเรื่องการสนับสนุนการล้มล้างการปกครองเป็นประเด็นที่ใหญ่ ที่มีการสืบพยานมาอย่างยาวนาน และมีความเชื่อมโยงไปถึงพรรคก้าวไกล ซึ่งตนชนะคดี และศาลตัดคดีส่วนตัวที่เกี่ยวกับนายธนาธรศาลตัดออก จึงเหลือประเด็นแค่ที่ตนเองกล่าวหาว่านายธนาธรจะถูกดำเนินคดีมาตรา 112

นพ.วรงค์ เผยว่า ตนเองเชื่อมั่นในข้อมูลและพยานหลักฐานต่างๆ เพราะทุกคำพูดตนเอามาจากสื่อทั้งสิ้น ไม่ใช่สร้างหรือมโนขึ้นมาเอง ตนก็ได้ชี้ให้ศาลเห็นว่า การดำเนินคดีมาตรา 112 เกิดขึ้นจริง และตนได้เป็นพยานในการเบิกความด้วย แต่ศาลจะตัดสินอย่างไร อีกไม่นานก็คงรู้คำตอบ

เมื่อถามว่าหากยกฟ้องจะมีการฟ้องร้องกลับหรือไม่ นพ.วรงค์ กล่าวว่า ส่วนตัวไม่ชอบมีคดีความ ชีวิตทางการเมืองก็เคยฟ้องร้องแค่หนึ่งคดี และชนะด้วย เล็กๆ น้อยๆ ถือว่าเป็นการทำบุญ ซึ่งพวกเราเป็นนักการเมือง และบอกว่าเป็นนักประชาธิปไตย จะต้องรับฟัง โดยตนเองก็รับฟังเขามาตลอด อะไรที่ไม่ถูกต้องตนก็ได้ชี้แจง แต่เวลาที่ตนเองแสดงความคิดเห็นบนหลักการ ก็ขอให้รับฟังตนบ้าง ไม่ใช่ฟ้อง

นพ.วรงค์ ยังฝากถึงสังคมด้วยว่า การฟ้องร้องของนายธนาธรได้เรียกค่าเสียหาย 24,062,475 บาท ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของวันเปลี่ยนแปลงการปกครองทั้งสิ้น และมีนัยยะทางการเมือง ฉะนั้นหากจะอ้างว่าเป็นนักประชาธิปไตยที่แท้จริง ก็ต้องรับฟังพวกเรา อะไรที่ถูกหรือผิดก็ต้องไตร่ตรองไม่ใช่การฟ้องกลับ และคนที่มีความเห็นที่ขัดแย้งก็ถูกเขาฟ้องร้องเยอะมาก และเมื่อมีการฟ้องจะต้องมีการวางเงินไม่น้อยกว่า 200,000 บาท ที่ไม่รวมค่าทนาย ซึ่งเขาสูญเสียเงินเยอะมากในการปิดปากประชาชน และถือว่าไม่ใช่ของจริง

ทั้งนี้ ศาลพิเคราะห์แล้ว เห็นว่าข้อความที่จำเลยโพสต์จึงเป็นการแจ้งล่วงหน้าให้ทราบว่าจำเลยจะไปแจ้งความต่อเจ้าพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีกับโจทก์ในความผิดมาตรา 112 ในภายหน้าอันเป็นการใช้สิทธิตามกฎหมายไม่ทำให้ผู้ที่ได้อ่านหรือประชาชนทั่วไปซึ่งเป็นบุคคลที่เข้าใจไปได้ว่า โจทก์กระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 อันจะทำให้โจทก์เสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น หรือถูกเกลียดชังแต่อย่างใด ข้อความดังกล่าวจึงมิได้มีเนื้อหาหมิ่นประมาทโจทก์การกระทำของจำเลยจึงไม่เป็นความผิดความฐานหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา พิพากษายกฟ้อง

หลังทราบผลการยกฟ้อง นพ.วรงค์ เปิดเผยว่า วันนี้นายธนาธรไม่ได้เดินทางมาที่ศาล มีเพียงผู้รับมอบอำนาจเดินทางมาเท่านั้น ซึ่งตนชนะคดีหลังจากที่เขาฟ้องเป็นครั้งที่ 3 ซึ่งตนอยากบอกว่าการที่พวกคนฟ้องคนอื่น หรือฟ้องประชาชนพร่ำเพรื่อ นอกจากจะเสียเงินเยอะแต่ละคดี และเรียกค่าเสียหาย 24,062,475 บาท คนพวกนี้อ่อนประสบการณ์ วันใดที่บริหารประเทศด้วยการอ่อนประสบการณ์แบบนี้จะทำให้ประเทศเสียหายและล่มจม

วันนี้แม้จะเป็นคำพิพากษาศาลชั้นต้น เขามีสิทธิที่จะอุทธรณ์ แต่ตนจะต่อสู้ด้วยข้อเท็จจริงมีพยานหลักฐานไม่ใช่มีเพียงแค่พยานบุคคล และตนถูกฝึกให้พูดความจริง เวลาตนโพสต์ข้อมูลผ่านโซเชียลมีเดียจะมีเอกสารอ้างอิงหมด ซึ่งตนไม่เคยกลัวเพียงแต่เรื่องนี้ทำให้เสียเวลา นอกจากนี้ขอให้มาพูดคุยกันอย่างลูกผู้ชายไม่ว่าจะผ่านเวทีไหนก็ได้ โดยเฉพาะเรื่องมาตรา 112 พร้อมฝากไปถึงประชาชน ช่วงนี้มีบางพรรคการเมืองปล่อยคลิปวิดีโอรณรงค์เชิญชวนเข้าแคมป์ สร้างเจตนารมณ์ก่อนจะให้มีการไปสมัครวุฒิสภา ซึ่งเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ ต้องการให้เป็นกลาง ไม่ควรมีพรรคการเมืองเข้าไปยุ่งหรือเชิญชวนเข้าแคมป์ดังกล่าว เพราะมองว่าเป็นการฝักใฝ่และทำให้เจตนารมณ์ของ สว.มีปัญหา

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

"หมอวรงค์"ลุ้น! ศาลนัดชี้ชะตาคดีหมิ่น “ธนาธร”

“สนธิญา-ธีรยุทธ” ยื่นป.ป.ช.สอบจริยธรรม 44 สส. ก้าวไกล ลงชื่อแก้ ม.112

0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0