โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

บันเทิง

'อ๊อฟ ชนะพล' เล่าเรื่องรัก 'ฮาน่า ลีวิส' ที่รู้อยู่แก่ใจและไม่ได้เล่นขายของในชีวิตคู่

MATICHON ONLINE

อัพเดต 06 ก.ย 2566 เวลา 12.31 น. • เผยแพร่ 06 ก.ย 2566 เวลา 12.09 น.
S__34594830_0web

‘อ๊อฟ ชนะพล’ เล่าเรื่องรัก ‘ฮาน่า ลีวิส’ ที่รู้อยู่แก่ใจและไม่ได้เล่นขายของในชีวิตคู่

“แฮปปี้ครับ มีความสุข” เขาบอก

“ยังคงให้กำลังใจกัน เป็นกำลังใจให้กันเสมอ” อ๊อฟ ชนะพล ที่จะครบรอบ 3 ปีที่คบกันกับ ฮาน่า ลีวิส ในวันที่ 1 พฤศจิกายนนี้บอก แล้วว่าเรื่องอนาคตก็คิดๆไว้

“มองอยู่ครับ แต่ถ้ามันยังไม่ถึงวาระและเวลาก็อย่าเพิ่ง ตอนนี้มันค่อยๆ เป็นไปตามธรรมชาติ และความพร้อมมันจะค่อยๆ โผล่ขึ้นมาเรื่อยๆ”

“ตอนนี้ก็พร้อมครับ แต่สองคนถ้าตอบว่าพร้อม พร้อมๆ กันก็จะดีกว่า”

เล่าด้วยว่าที่ผ่านมาเพื่อนๆจะถาม จะแซวตลอดว่าเมื่อไหร่
“แซวว่าไม่อยากมีน้องเหรอ ไม่อยากมีครอบครัวเหรอ ไม่อยากแต่งงานเหรอ ทุกคนอยากหมดแหละครับ พอมีความสุขในเรื่องของความรักแล้ว เราก็อยากให้มีวันข้างหน้า ที่เราจะมีความสุขต่อไปเรื่อยๆ”

แสดงว่าตอนนี้พร้อมแบบไม่พร้อมกัน?
“ใช่ครับ ก็ยังคุยกันเล่นๆ ว่ายังไงดี อย่างผมละครตอนนี้เริ่มเบาแล้ว และเรื่องใหม่กำลังจะเปิด ก็รอดูว่าน้องจะยังไง เพราะเขาเรียนปริญญาโทอีก ก็รอพร้อมกับเขาจริงๆ ดีกว่า แต่ที่ไม่พร้อมจริงๆ เลยน่าจะเป็นเรื่องงานมากกว่า เพราะอยู่ถ้าในช่วงที่เราทำงานหนักๆ เราไม่มีเวลาคิดเรื่องงานของเรา เรื่องแพลนชีวิตของเรา มันอาจจะขาดตกบกพร่องในเรื่องการวางแผนชีวิต ต้องมีเวลาในการวางแผนในการใช้ชีวิตคู่กันจริงๆ ให้ละเอียดพอสมควร เพราะก็อยากจะมีงานครั้งเดียว เป็นครอบครัวเดียว อยากจะทำให้ดีที่สุดครับ พยายามมองให้ละเอียดที่สุดในการใช้ชีวิตคู่”

ทั้งนี้อ๊อฟบอกด้วยว่า ในความรู้สึกของเขา ฮาน่าคือคนที่ใช่
“ณ วันนี้ ณ เวลานี้คือใช่เลยครับ และผมยังมองว่าในอนาคตก็คนนี้ เพราะตั้งแต่รู้จักกันมา ตกลงเป็นแฟนกัน มันมีแต่ความสุข ไม่เคยมีคำว่าติดขัด ไม่เคยมีคำว่าระแคะระคาย ไม่เคยมีคำว่าทำไม โชคดีที่ผมเจอฮาน่าที่เป็นผู้หญิงนิสัยคล้ายผม เราพูดกันตรงๆ อะไรที่ไม่ดีเราก็พูดกัน อะไรที่ดีเราก็จะได้หาอะไรที่มันดีเพิ่มขึ้นอีก ทุกวันนี้เลยไม่ได้ทะเลาะกันเลย มีแต่ให้กำลังใจ ก็ต้องขอบคุณน้องฮาน่าด้วยที่มาเติมเต็มในสิ่งที่ผมขาดไปในหลายๆ เรื่อง”

“บางทีเรื่องเสื้อผ้าหน้าผม ที่ผมอาจจะมองข้ามไป ไม่ได้สนใจ แต่ทุกวันนี้เขาทำให้ผมดูเด็กลงทุกวันๆ ก็รู้สึกว่าเขามาเติมเต็มชีวิต เรื่องการแต่งตัว เรื่องการใช้ชีวิต แล้วก็ให้กำลังใจกัน”

ในส่วนครอบครัวทั้ง 2 ฝ่ายก็ไม่ได้กดดันอะไรกับเรื่องนี้

“ทุกคนก็โอเคครับ ผมได้เจอคุณแม่ เจอพี่สาว และเขาก็เจอคุณแม่ผม เขาก็โอเค คุณแม่ผมบอกว่าเมื่อไหร่ก็เมื่อนั้นแหละ เป็นเรื่องของคนสองคน ไม่ว่าหนูจะรักกัน เลิกกัน หรือจะยังไงกัน แม่ก็ไปขีดเส้นไว้ไม่ได้หรอก เพราะหนูรู้กันแค่สองคนว่าหนูรู้สึกสนิทใจกันมากแค่ไหน รักกันมาแค่ไหน ก็เลยเป็นการตัดสินใจระหว่างสองคน”

สำหรับเรื่องที่ฮาน่าเคยพูดถึงมุมมองความรัก ชีวิตคู่ เรื่องการอยู่ก่อนแต่งเพื่อศึกษากัน อ๊อฟบอก “ปกติครับ ขอโทษนะครับ ใช้คำว่ามีน้องก่อนแต่งก็ยังมี ในมุมมองสังคมปัจจุบันนี้ ซึ่งมันเป็นความน่ารักมาก เพราะบางทีในเรื่องความพร้อมที่เขาบอกว่ายังไม่อยากแต่งงาน แต่อยากมีน้องก่อน ผมก็โอเคนะ เพราะว่าหลายๆ คู่ รุ่นพี่เรา เพื่อนเราหลายๆ คน พอมีน้องแล้ว แทบจะไม่ต้องมีงานแต่งเลย เขาก็มีความสุขมากแล้ว เราไม่เห็นจะต้องไปประกาศให้ใครรู้ว่าแต่งงาน แต่เราเป็นครอบครัวที่ดีมากๆ เป็นครอบครัวที่มีความสุข ผมเลยมองว่าเรื่องพวกนี้มันเป็นเรื่องปกติ มันไม่ใช่กรอบดารา ไม่ใช่กรอบนักแสดง คนที่ใช้ชีวิตปกติทุกวันนี้ เขาก็เป็นกัน ผมรู้สึกว่าสบาย เรียบง่าย ไม่เห็นต้องมากดดันอะไร แล้วมันมีความสุขด้วย ทุกวันนี้อยู่ด้วยกันแบบให้กำลังใจกัน ไม่ว่าจะชนชั้นไหนหรืออาชีพไหน ผมมองว่ามันน่ารักดี แฮปปี้”

ส่วนเมื่อถามว่าคู่เขามีแพลนแบบนั้นด้วยไหม?

อ๊อฟ ในวัย 35 ปี บอก “ได้หมดเลยครับ เราคุยกันแบบนั้นอยู่แล้ว เพราะเราวัยขนาดนี้แล้ว มันไม่ใช่เรื่องที่จะต้องมานั่งปิดบัง ต้องปกปิด มันไม่ใช่เด็ก เราคุยกันแบบผู้ใหญ่ คุยกันถึงขั้นไปอนาคตที่มั่นคงแล้ว ตอนนี้ทุกคนอยู่กันแฮปปี้ และผมโชคดีอย่างนึงที่เรื่องการทำงานผู้ใหญ่ก็เอ็นดูคู่ของเราด้วย ก็ขอบคุณมากครับ ขอบคุณผู้ใหญ่ของการทำงานของผมด้วย ของฮาน่าด้วย ที่ทำให้รู้สึกว่าคู่เราเป็นคู่ที่น่าติดตามอีกคู่นึง และเป็นคู่ขวัญของช่อง7 ที่หลายๆ คนอยากจะเอาเป็นแบบของน้องๆ ว่าคู่พี่น่ารักมากเลย ก็เลือกในสิ่งที่ดีไปใช้ครับ”

ทั้งนี้หากจะมีบางคนที่มองไม่เหมาะสม อ๊อฟบอก คงห้ามความคิดคนไม่ได้ แต่เรารู้ใจตัวเอง และเรามีความสุข

“คนอื่นไม่ได้รู้สึกกับเราด้วยหรอกครับ เราต้องรู้ใจตัวเองก่อน ว่าเราทำแล้วมีความสุขไหม เราจะไปบอกให้คนที่คิดไม่ดีกับเรา ว่าคุณต้องมีความสุขกับผม มันเป็นไปไม่ได้ แต่ถ้าเรารู้สึกว่าเรามีความสุข คู่ของเรามีความสุข หรือว่ารอบข้างเรามีความสุข ผมว่าตรงนี้โอเคแล้ว”

“เราไม่สามารถบอกได้ว่าคุณต้องคิดเหมือนผมนะ มันแล้วแต่แนวคิดของแต่ละคน ผมเลยเอาความคิดของเราดีกว่า เพราะความสุขของเรา เรารู้อยู่แก่ใจอยู่แล้ว ไม่สามารถบอกใครได้ ไม่อยากเอาเรื่องคนอื่นที่ทำให้เราเป็นทุกข์ เอามาใส่ตัว ใส่ใจ มันเป็นทุกข์เปล่าๆ ผมอยู่วงการมาจะ 20 ปี ผ่านอะไรมาเยอะ ผมรู้สึกว่าถ้าเราแคร์ มันจะทุกข์ทันที แต่ถ้าเราสุข แม้เขาจะใส่ทุกข์มา เราก็จะสุขใส่เขา”

“ผมบอกตัวเองเสมอว่าเรามองแบบผู้ใหญ่ ไม่ได้มองแบบเด็ก เราไม่ได้เล่นขายของกันในการใช้ชีวิตคู่ เรามองว่าพรุ่งนี้เราจะต้องมีครอบครัว มีน้อง มีอะไรหลายๆ อย่าง ผมคิดไปหลายสเต็ปแล้ว คิดให้ละเอียดที่สุดเท่าที่เราจะทำได้ ปรึกษากันสองคน ถ้าเราปรึกษาไม่ได้ ก็ปรึกษาคนที่มีประสบการณ์ ซึ่งตอนนี้ไม่ว่าจะคนในวงการ นอกวงการก็มีให้เห็นอยู่แล้ว และคนรอบตัวเราก็มีให้เห็น มันเป็นเรื่องปกติครับ เพราะผมมั่นใจในความรักของผมครับ”

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0

ความเห็น 0

ยังไม่มีความเห็น