วันนี้ (21 เม.ย.63) สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า นักวิจัยจากออสเตรเลียและจีนได้เผยแพร่บทความว่า อย่าประเมินการแพร่เชื้อทางอากาศของโรคไวรัสโคโรนา (SARS.CoV-2) ต่ำไป มีงานศึกษา พบว่ามี 1 ในสมาชิก 10 คน จาก 3 ครอบครัว ป่วยติดเชื้อโควิด ไปนั่งรับประทานอาหารในร้านเดียวกัน ในเมืองกวางโจวทางตอนใต้ของประเทศจีน โดย 2 ครอบครัว นั่งห่างจากครอบครัวแรกประมาณ 1 เมตรเท่านั้น และร้านดังกล่าวเปิดแอร์ ไม่มีการเปิดหน้าต่าง
ต่อมา ผู้ป่วยคนแรกออกอาการถัดมาอีก 2 สัปดาห์ คนในครอบครัวแรกก็ป่วยเพิ่มอีก 4 คน และครอบครัวที่ 2 อีก 3 คน จากนั้น ก็ครอบครัวที่ 3 อีก 2 คน เท่ากับป่วยครบ 10 คนใน 3 ครอบครัว
การศึกษาจึงพบว่า แอร์เป็นตัวนำพา “ละอองฝอย” ให้ลอยละล่องอยู่ในห้องที่อากาศปิด ระหว่างโต๊ะอาหารของพวกเขา โดยเฉพาะอย่างยิ่ง “ลมแอร์” ที่แรงยิ่งทำให้ละอองฝอยลอยไปไกล และจะกระจายตามทิศทางของเครื่องปรับอากาศ ทำให้ติดโรคโควิดทั้ง 10 คน
ผู้วิจัยจึงแนะนำสำหรับร้านอาหารให้เพิ่มระยะระหว่างโต๊ะ และหมั่นระบายอากาศในพื้นที่และทำความสะอาดร้าน รวมถึงลดจำนวนคน สวมหน้ากากอนามัย
ศาสตราจารย์ลิเดีย โมราฟสกา ของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีควีนส์แลนด์ ในออสเตรเลีย ชี้ว่า การระบาดของโควิด-19 ในกลุ่มคนจำนวนมากบนเรือสำราญรวมถึงเรือรบหลายลำ ส่วนใหญ่มาจากระบบระบายอากาศ แม้ว่าผู้โดยสารจะแยกกักกันในห้องโดยสารของตนเอง แต่ติดเชื้อเพิ่มจำนวนมาก
เช่น กรณีล่าสุด ทหารเรือบนเรือบรรทุกเครื่องบิน ชาร์ล เดอ โกล ของกองทัพฝรั่งเศส จำนวน 668 นาย หรือ 1 ใน 3 ของทหารเรือเกือบ 2,000 คน บนเรือลำดังกล่าว ได้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19
หรือ เรือบรรทุกเครื่องบินรบพลังงานนิวเคลียร์ ยูเอสเอส ธีโอดอร์ รูสเวลต์ สหรัฐ พบว่ามีลูกเรือติดเชื้อไวรัสโคโรนา เกือบ 600 นาย และ เสียชีวิต 1 นาย ซึ่งเจอเชื้อระบาดอย่างรวดเร็ว
ผู้เชี่ยวชาญแนะควรเร่งวิจัย และอย่าตัดความเป็นไปได้ ดังนั้น ควรดำเนินการวิจัยเรื่องการแพร่เชื้อทางอากาศทันที และควรป้องกันอย่างจริงจังโดยด่วนหากมีความเป็นไปได้ที่จะมีการแพร่เชื้อทางอากาศ
เกาะติดข่าวที่นี่
website: www.TNNThailand.com
facebook : TNNThailand
twitter : @TNNThailand
Line : @TNNThailand
Youtube Official : TNNThailand