“เจ เจตริน” เกิดทันท่าเต้นหมาเกาหู ของราชาเพลงแดนซ์ ยุค 90’s

*เมื่อประกายเพลงแร็ปถูกจุดให้ติด ความสนุกก็ลุกโชน เพลงเร็วสุดเจ๋ง เพลงช้าแสนซึ้งกินใจ  เจตริน วรรธนะสิน  ผู้สร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ จนวัยรุ่นไทยกรีดร้องสนั่นประเทศด้วยความฮิตระดับ A+ *

ก่อนจะเป็นวัฒนธรรมฮิปฮอป คนไทยเรียกเพลงที่พ่นคำพูดรัว ๆ ว่าเพลงแร็ป เราคิดกันว่ามันคงเป็นเพลงวัยรุ่นไร้สาระ ก่อนชายคนหนึ่ง จะทำให้มันดังระเบิด แถมฟังค์ชันท่าเต้นฮิตติดตา เนื้อเพลงไพเราะติดหู กับคอนเสิร์ตที่คนติดใจ  มาย้อนรอยกันไปชมเส้นทางแสนยาวไกลของราชาเพลงป็อปแดนซ์เมืองไทย

30 ปีก่อน เมื่อรายการสี่ทุ่มสแควร์ ( ดำเนินรายการโดย คุณวิทวัส สุนทรวิเนตร์ ) เปิดตัวทายาทคนดังวงการบันเทิงในรายการให้เป็นที่รู้จัก  หนึ่งในนั้นมีชายหนุ่มหน้าอ่อน บอกคนดูว่าชื่อ “เจ” เขามีรูปร่างสูงผอม หล่อระเบิด แสนขี้อาย ถามคำตอบคำ ได้แต่ส่งยิ้มโปรยเสน่ห์ให้คนดู  วันนั้นเขามาในฐานะ น้องชายของ โจ นูโว  ( จิรายุส วรรธนะสิน ) ผู้กำลังมีผลงานในนามวง นูโว  ร็อกแบนด์ที่ดังสุดขีด คุณวิทวัสถามว่า สนใจเข้าวงการบันเทิงไหม  เขาตอบว่า  กำลังจะมีผลงานกับ บริษัทแกรมมี่  หลังคืนนั้น คนดูก็ยังไม่พูดถึงเขาด้วยซ้ำ

อ๊ะ อ๊ะ อ๊ะ อ๊าว อะอาว    อะ อะ อะ อาว อะ อ๊าว..   ท่อนอินโทรของเพลงฝากเลี้ยงถูกปล่อยออกมาในช่วงกลางปี พ.ศ.2534 ปีที่มีศิลปินหน้าใหม่ล้นทีวี  และส่วนใหญ่จะเป็นเพลงป็อป และเพลงร็อก เป็นเจ้าของตลาดในขณะนั้น  เพลงฝากเลี้ยงมีกลิ่นดนตรีอันน่าสนใจ สะกิดให้วัยรุ่นไทยเริ่มพูดถึง

เจ ไม่จำเจ แล้วเพลงฝากเลี้ยงก็กลายเป็นเพลงฮิตระเบิด แม้เพลงจะไม่ใช่เพลงแร็ปชนิดเต็มรูปแบบ เป็นป็อปแดนซ์ซึ่งชวนให้ผู้คนขยับโยกตัวตาม ซิงเกิลถูกส่งให้ดีเจตามคลื่นวิทยุเปิดอยู่พักใหญ่ ผู้คนรอคอยว่า มิวสิกวีดีโอจะออกมาเป็นแบบไหน เจตรินคือใคร หรือ น้องชายของโจ นูโว ที่จะมาขายความหล่อแค่นั้นเหรอ

ขย่มบาร์ หมาเกาหู ดูแล้วต้องแอบทำตาม เสื้อซีทรูฝังคริสตัลระยิบระยับ แจ็คเก็ตหลวมโคร่ง กางเกงลายพร้อย เป็นเครื่องแต่งกายชาวแร็ปที่คนไทยยังไม่คุ้นชิน มิวสิกวีดีโอเปิดตัวแสนเรียบง่าย ใบหน้าของ มอริส เค ( นักแสดงผิวสีชื่อดังสมัยนั้น ละม้ายคล้าย รัศมีแข ในยุคปัจจุบัน ) โผล่มาฮัมท่อนอินโทร แล้ว เจตริน วรรธนะสิน  ดาวดวงล่าสุดก็ถูกเปิดเผยโฉม ใบหน้าทรงยาวขาวตี๋แต่ตาโต ยิ้มกว้างเห็นฟันบนเรียงเป็นแถว ออกมาเต้น เต้น แล้วก็เต้นตั้งแต่ต้นจนจบเพลง ส่งผลให้มี 3 ท่าเต้นกลายเป็นของฮิตในหมู่วัยรุ่น ได้แก่ ท่าขย่มบาร์ ตามมาด้วย หมาเกาหู และ ท่าฝากหัวใจ

https://www.youtube.com/watch?v=J4MmhuJDnhA

ฮิตทั้งม้วน  อัลบั้ม จ-เ-ะ-บ ( จอ-เอะ-บอ )  ทยอยปล่อยเพลงฮิตขึ้นชาร์ต โดยอัลบั้มชุดนี้ยังติด 1 ใน 30 อัลบั้มยอดขายสูงตลอดกาลของวงการเพลงไทย แถมยังมีเพลงซึ่งขึ้นทำเนียบเพลงคลาสสิก มีผู้คนหาฟังจวบจนทุกวันนี้ ได้แก่ เพลง ฝากเลี้ยง ,ไม่เช้าหรอก ,ไดโนเสาร์ ,หัวลำโพง ,บ๊ายบาย  ซึ่งเป็นเพลงฝั่งเต้นรำ ได้ถูกเปิดในเธคผับอยู่ทั้งปี  ในขณะที่เพลงช้าก็กลายเป็นจุดแข็งของอัลบั้มอย่างไม่น่าเชื่อ  3 เพลงดัง ขึ้นทำเนียบเพลงช้าฮิตที่สุดของยุค 90 ได้แก่เพลง กองไว้ ,เจ็บไปเจ็บมา (คอรัส โดย ก้อย ศรัณย่า สงเสริมสวัสดิ์ ) และ หยุดเลย ( คอรัส โดย โจ นูโว )

42 นาที 19 วินาที รวม 11 เพลง ทำให้ อัลบั้ม จ เ-ะ บ ได้ถูกจารึกให้กลายเป็นอัลบั้มเปิดตัวศิลปินทรงคุณค่าที่สุดอัลบั้มหนึ่งของประเทศ

ปรากฏการณ์-เจ  คอนเสิร์ต 2 รอบ กับภาพจดจำที่คนฟังเผลอลุกขึ้นยืนตั้งแต่เพลงแรกจนเพลงสุดท้ายอย่างไม่รู้ตัว เป็นสิ่งที่ไม่เคยได้พบเห็นมาก่อน  ไม่ว่าจะ โลกดนตรี หรือ เจ็ดสีคอนเสิร์ต มีสาวน้อยใหญ่ไปรอหน้าเวที วัยรุ่นชายก็ลุกขึ้นเต้นตลอด จนคอนเสิร์ตใหญ่เดี่ยว ทั้ง รีโมทคอนเสิร์ต อาการเจ  และ บวกลบคูณหาร อาการเจ ก็เป็นคอนเสิร์ตซึ่งสร้างรอยจารึกไว้ว่า ผู้ฟังมีอารมณ์ร่วมกับเพลงมากจนต้องเต้นตามตั้งแต่ดนตรีขึ้น อาจเพราะอัลบั้มนี้ มีเพลงฮิตมากมาย จนคนร้องตามกันได้หมด อีกทั้งผู้ชมเป็นวัยรุ่นวัยเรียน  สิ่งเหล่านี้เป็นองค์ประกอบที่ทำให้คอนเสิร์ตสนุกมาก และสร้างปรากฏการณ์บัตรหมดเกลี้ยงในทุกรอบ

ร้อยแปด พันเก้า ( 108-1009 )  2 ปีต่อมา อัลบั้มที่ 2 ตอกย้ำความสำเร็จ พร้อมพาเหรดเพลงดัง เช่น ยุ่งน่า ,ก็ใครมันจะไปรู้ละ ,ประมาณนี้หรือเปล่า หรือ เพลงช้าอย่าง อดทนไว้ ,เพิ่งเข้าใจ ก็ติดลมบนเฉกเช่นอัลบั้มก่อน  แต่ที่ฮิตจนต้องจำ คือเพลง คาใจ ซึ่งเป็นเพลงดังที่สุดของปี พ.ศ.2534  เพลงคาใจถูกเปิดในทุกค่ำคืนตามผับบาร์ แล้วผู้คนก็ร้องตามกันได้เพราะความกินใจในเนื้อหา

ปรากฏการณ์ท่าเต้น “โย่!”  ที่คนฟังพร้อมใจกัน รูดฝ่ามือจากหัวเข่า ไล้ตามขาสูงขึ้นมาถึงเอว ผ่านไปยังสีข้างลำตัว แล้วตวัดมือส่งออกไปยังเวที พร้อมร้องคำว่า “โย่”  อัลบั้ม ร้อยแปด พันเก้า มีกลิ่นไอความเป็นฮิปฮอปมากขึ้นจากเดิม และมีการใส่ท่อนแร็ปในเพลงมากขึ้น แม้กระทั่งในเพลงช้าเช่นเพลง เพิ่งเข้าใจ ซึ่งเป็นมิติใหม่แห่งวงการเพลงไทย

https://www.youtube.com/watch?v=J4mdxo4VPG4

ยามเมื่อลมพัดหวน  ละครที่ เจตริน วรรธนะสิน เล่นคู่กับ หมิว ลลิตา ปัญโญภาส นางเอกดังแห่งยุค ได้กลายเป็นละครดังแห่งปี จากค่ายละครเล็กในสมัยนั้นอย่าง เอ็กแซ็กท์ ( Exact ) สร้าง Thailand ’ Sweetheart คู่ใหม่ เปรียบได้กับ ณเดชน์-ญาญ่า ในสมัยนี้ก็ว่าได้  คู่ขวัญ เจ-หมิว ถูกเรียกให้ออกงานอีเว้นท์ และรายการโทรทัศน์ อันสืบเนื่องจากความนิยมของคู่พระนาง ละครได้ประสบความสำเร็จอย่างสูง ค่ายเอ็กแซ็กท์กลายเป็นค่ายละครซึ่งมีผลงานชิ้นโบว์แดงต่อเนื่องกัน  ( รักในรอยแค้น-วังน้ำวน-บัลลังก์เมฆ )

17 ปี ในช่วงออก สตูดิโอ อัลบั้ม  ( พ.ศ.2534-2551 ) เจตรินมีอัลบั้มเดี่ยวทั้งหมด 7 อัลบั้ม เฉลี่ยแล้ว ทุกสองปี จะได้ออกงานเพลง  ในประเทศไทย ยกเว้นพี่เบิร์ด ธงไชย แมคอินไตย์ ยังไม่มีนักร้องเพลงไทยสากลชายคนใดที่ทำได้  โดยจุดเด่นของเจตริน ไม่ได้อยู่แค่การเต้นเพียงอย่างเดียว แต่เขายังมีเพลงช้าที่กินใจคนฟัง และสามารถมีพื้นที่ในสื่ออยู่ตลอด  คอนเสิร์ตของเขาสร้างอารมณ์ร่วมให้คนฟัง ( 9 คอนเสิร์ตเดี่ยว )  แถมยัง มีละครให้ได้ดูอย่างต่อเนื่อง ( 8 เรื่อง ) เป็นความทรงจำที่นักร้องรุ่นหลังใฝ่ฝันอยากจะทำได้บ้าง  บทเพลงซึ่งดังค้างฟ้ากลายเป็นของขวัญจากเจตริน สู่คนฟัง ได้แก่ รฟร , แววตา , เก็บมันเอาไว้ , อยากให้รู้ว่าเหงา หรือจะเป็นเพลงแสนโรแมนติกอย่าง ค้นใจ

นักกีฬาสุดแซ่บ ช่วงปลายปี 90 เจตริน ได้เบนเข็มไปเอาดีทางด้านการเล่นกีฬา โดยสามารถไปคว้าแชมป์กีฬาเจ็ตสกีได้ในหลายรายการ จนก้าวไปสู่ระดับโลก รูปร่างผอมบางของเจตรินเปลี่ยนไป มัดกล้ามเน้นจนแทบทะลุเสื้อกล้ามตัวบางอันรัดติ้วถูกให้เห็นหน้าทีวีอยู่บ่อยครั้ง   และเจยังผลิตรายการโทรทัศน์อีกด้วย ( อาคันตุกะ / ฮันนีมูน ซีท และ เจเอนเตอร์เทนเมนท์ )  ซึ่งทำให้เวลาในการทำเพลงน้อยลง จนผู้คนคิดว่าเขาน่าจะหันหลังให้วงการเพลงแล้ว

แต่จนบัดนี้ เราก็จะได้เห็นแล้วว่าชายคนนี้ยังคงมีคอนเสิร์ตให้เราได้ชมในทุกยุค และผลตอบรับจากแฟนเพลงก็ยังดีงามทุกครั้ง ล่าสุดเมื่อปี พ.ศ.2560 คอนเสิร์ต JDNA และ JDNA X-TEAM รวม 4 รอบการแสดง บัตรเต็มทุกที่นั่ง ตอกย้ำว่า แม้เวลาผ่านไปเกือบ 30 ปีแล้ว แต่แฟนเพลงยังรัก และยังอยากมีส่วนร่วมกับราชาเพลงแดนซ์ในทุกรอบการแสดง

แม้อายุจะใกล้เข้าสู่เลข 5  แต่อย่าคิดได้ว่า กาลเวลาจะพรากความสนุกไปจากผู้ชายคนนี้ พลังอันมากล้น และหัวใจที่รักดนตรี จังหวะตัวโน๊ตอันแล่นพล่านอยู่ในเส้นเลือดใต้มัดกล้ามแน่นไปทั้งตัว มิได้ลดลงไปเลย แต่ประสบการณ์ใต้แสงไฟส่อง สิ่งเหล่านี้กลับเป็นรอยจารึกให้ทุกคนได้จดจำ ว่าเส้นทางของเจ้าชายแร็ป สู่ราชาเพลงแดนซ์ มันทิ้งรอยความหรรษาให้เราได้รำลึกถึงเสมอ..

picture credit  : Jetrin Fanclub

IG @jjetrin