โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไลฟ์สไตล์

โควิดจบแล้ว? อนามัยโลกประกาศโควิดไม่ใช่ ‘ภาวะฉุกเฉินทางสาธารณสุขระดับโลก’ อีกต่อไป

BrandThink

เผยแพร่ 10 พ.ค. 2566 เวลา 11.00 น.

โควิดจะจบเมื่อไร? คือสิ่งที่หลายคนไม่คิดจะถามแล้ว แต่จริงๆ สถานการณ์บ้านเราก็ดูจะงงๆ ตลอด เพราะเวลาไปเดินห้างหรือกระทั่งดูหนังคนก็เริ่มไม่ใส่หน้ากากอนามัยกันเกือบหมดแล้ว แต่เวลาขึ้นรถไฟฟ้าหรือรถเมล์คนส่วนใหญ่ยังคงใส่หน้ากากกันอยู่ ในขณะที่นักท่องเที่ยวต่างชาติก็ไม่ใส่หน้ากากจนเป็นเรื่องปกติ

บรรยากาศการใส่หน้ากากของคนไทยจำนวนไม่น้อยจึงดูราวกับว่ามันเป็นสิ่งที่จะดำเนินต่อไปอย่างต่อเนื่องไม่มีที่สิ้นสุด

อย่างไรก็ดี เลขาธิการองค์การอนามัยโลก (WHO) ก็ประกาศ ณ วันศุกร์ที่ 5 พฤษภาคม 2023 ว่า “โควิดไม่ใช่ภาวะฉุกเกิดด้านสาธารณสุขระดับโลก” อีกต่อไปแล้ว และเหตุผลคือตอนนี้คนทั่วโลกได้รับวัคซีนป้องกันโควิดมากพอ ระบบสาธารณสุขก็ไม่ล่มแล้ว และประเทศส่วนใหญ่ก็กลับไปมีชีวิตแบบก่อนช่วงโควิดได้อีกครั้ง และก็ไม่มีประโยชน์ที่จะมองโควิดเป็นโรคระบาดร้ายแรงระดับต้องใส่ใจเป็นพิเศษอีกต่อไป

แม้จะยังมีหมายเหตุอยู่เหมือนกันว่า ‘ไวรัสโควิดจะยังอยู่กับเรา มันยังสามารถทำให้คนเสียชีวิตได้ และยังจะกลายพันธุ์ไปอีกเรื่อยๆ’ แต่ประเทศต่างๆ ก็เห็นว่า ‘ไม่มีความจำเป็น’ ที่จะต้องจัดการกับโรคโควิดในโหมดภาวะฉุกเฉินอีกแล้ว และจัดการในแบบ ‘โรคระบาดปกติ’ ก็พอ

ทั้งนี้ ภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขที่ว่า ดำเนินมา 3 ปีกว่า ตั้งแต่การประกาศขององค์การอนามัยโลกในวันที่ 30 มกราคม 2020 และการประเมินยอดผู้เสียชีวิตตลอดการระบาดก็มีต่างกันไปตั้งแต่ 7-20 ล้านคน ทำให้มาถึงตอนนี้ หลายคนก็คงจะเริ่มรู้สึกแล้วว่าการพยายาม Flatten the Curve (การ ‘ลดความชัน’ ของกราฟแสดงผลผู้ติดเชื้อ) ให้ระบบสาธารณสุขไม่ล่ม การถกเถียงกันว่าวัคซีนชาติไหนดีกว่ากัน การล็อกดาวน์ที่ห้างสรรพสินค้าปิดกันถ้วนหน้า รวมไปจนถึงการแย่งกันฉีดวัคซีน เริ่มกลายเป็น ‘ความทรงจำอันไกลโพ้น’ เพราะในความเป็นจริงชีวิตเราส่วนใหญ่ก็ห่างไกลจากช่วงนั้นมาไกลแล้ว

และเราก็มาไกลจริงๆ เพราะใครจำได้บ้างว่าวันสุดท้ายที่เรายังสนใจว่าวันนี้มียอดผู้ติดเชื้อเพิ่มกี่คน? มีผู้เสียชีวิตกี่คน? คนฉีดวัคซีนได้เพิ่มกี่คน? คือเมื่อไร? น่าจะไม่มีใครจำได้ เพราะสุดท้ายในทางปฏิบัติประเทศต่างๆ ก็เริ่มทยอยหยุดรายงานตัวเลขพวกนี้จนฐานข้อมูลโควิดที่เราตามกันก็ค่อยๆ หยุดอัปเดตข้อมูลกัน เพราะมันไม่มีข้อมูลให้อัปเดตอีกแล้ว โดยทางศูนย์ข้อมูลผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตของ Johns Hopkins ที่เป็นศูนย์กลางของตัวเลขในช่วงแรกของการระบาดก็ได้หยุดอัปเดตข้อมูลไปเมื่อวันที่ 10 มีนาคม 2023 ซึ่งสัปดาห์สุดท้ายในการรายงานมีผู้ติดเชื้อทั้งโลกราวสัปดาห์ละ 1 ล้านคน และมีผู้เสียชีวิตจากโควิดทั้งโลกประมาณสัปดาห์ละ 7,000 คน

ส่วนฐานข้อมูลการฉีดวัคซีนโลกของ The New York Times ที่หลายคนใช้อัปเดตข้อมูลการฉีดวัคซีนก็ได้หยุดอัปเดตข้อมูลไปตั้งแต่วันที่ 13 มีนาคม 2023 โดยตัวเลขสุดท้ายคือคนทั้งโลกประมาณ 71 เปอร์เซ็นต์นั้นก็ได้วัคซีนไปเรียบร้อยแล้ว โดยเกร็ดเล็กน้อยคือ ณ วันที่ทั่วโลกไม่แคร์เรื่องฉีดวัคซีนกันแล้ว ประเทศแถบยุโรปตะวันออกยังฉีดวัคซีนเข็มแรกกันไม่ถึง 50 เปอร์เซ็นต์ของประชากรเลย และประเทศส่วนใหญ่ในแถบแอฟริกายังคงฉีดวัคซีนเข็มแรกกันได้ไม่ถึง 30 เปอร์เซ็นต์ของประชากร ขณะที่ในไทย คนที่ฉีดวัคซีนครบ ( 2 โดส) มีประมาณ 77 เปอร์เซ็นต์ของประชากร ซึ่งตัวเลขปัจจุบันก็คงไม่ต่างไปจากนี้เท่าไรแล้ว เพราะคนไม่ยอมฉีดก็คงไม่ฉีด และก็คงไม่มีใครเคี่ยวเข็ญให้ต้องไปฉีดอีก

ด้วยเหตุนี้ ‘ในภาพรวม’ ทั่วโลก ผู้คนในหลายประเทศก็ใช้ชีวิตราวกับโควิดไม่เคยดำรงอยู่กันแล้ว และท้ายที่สุดทางองค์การอนามัยโลกก็เลยประกาศว่า โควิดไม่ใช่เรื่องใหญ่ที่ชาวโลกต้องใส่ใจร่วมกันอีกแล้ว ดังที่ว่ามานี่แหละ

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0