#THANI #ทันหุ้น -THANIไม่หวั่นโลวซีซัน-เข้าฤดูฝน มองดีมานด์ยังขยายตัวอย่างต่อเนื่อง อวดยอดปล่อยสินเชื่อใหม่ไตรมาส 3/65 ยังอยู่ในเกณฑ์เฉลี่ย 2 พันล้านบาทต่อเดือน จับตาไตรมาส 4/65 สินเชื่อใหม่พุ่ง มั่นใจสิ้นปีพอร์ตคงค้างทะลุ 5.3-5.5 หมื่นล้านบาท พร้อมคุม NPL ต่ำระดับ 4%
นายวิรัตน์ ชินประพินพร ประธานกรรมการ บริษัท ราชธานีลิสซิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ THANI เปิดเผยว่า แม้ว่าเดือนกรกฎาคม-กันยายน ของทุกปีจะเป็นช่วงโลวซีซันของธุรกิจ เนื่องจากอยู่ในช่วงฤดูฝนซึ่งเป็นอุปสรรคกับธุรกิจขนส่งและก่อสร้าง ทำให้ยอดจำหน่ายรถบรรทุกชะลอตัวลง แต่ด้วยดีมานด์ที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ทำให้ในช่วง 3เดือนดังกล่าวบริษัทมียอดปล่อยสินเชื่อใหม่ (New loan) เฉลี่ยยังอยู่ในเป้าหมายที่ 2,000 ล้านบาทต่อเดือน
มั่นใจโค้ง4พีค
ทั้งนี้ บริษัทคาดยอดการปล่อยสินเชื่อจะมีการขยายตัวอย่างมีนัยสำคัญในช่วงในไตรมาสที่ 4/2565เพราะมองว่าผู้ประกอบการรถบรรทุกจะมียอดขายทำสถิติสูงสุดใหม่ในปี 2565 นี้ หรือมีการเติบโตได้ราว 15% จากปีก่อน โดยปัจจัยหนุนมาจากการค้าชายแดนที่มีการเติบโต โดยเฉพาะในกลุ่ม สปป.ลาว, เมียนมา และ กัมพูชา รวมไปถึงด่านชายแดนมาเลเซีย ที่เปิดให้มีการเดินทางผ่านได้แล้ว
นอกจากนี้ สินเชื่อสำหรับกลุ่มรถ Luxury Cars คาดว่าจะมีการเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง หลังจากที่ปริมาณรถที่เข้ามายังประเทศไทยปรับตัวเพิ่มขึ้น และมียอดจองรถจำนวนมากขึ้น ขณะที่การปล่อยสินเชื่อจำนำทะเบียนนั้น ปัจจุบันได้เริ่มปล่อยสินเชื่อไปบ้างแล้ว แต่ยอดการให้สินเชื่อกลุ่มดังกล่าวอาจไม่สูงมากนัก เนื่องจากอยู่ในระหว่างของการปรับระบบไอที และคาดว่าจะเติบโตแบบก้าวกระโดดในปี 2566 เป็นต้นไป
สำหรับเป้าหมายการปล่อยสินเชื่อใหม่ในปี 2565 นี้ บริษัทได้มีการปรับเพิ่มขึ้นเป็น 28,000 ล้านบาท จากเดิมที่ 26,000 ล้านบาท โดยคาดว่าจะมีพอร์ตสินเชื่อคงค้าง ณ สิ้นปีเพิ่มขึ้นเป็นมากกว่า 53,000-55,000 ล้านบาท สูงกว่าเป้าหมายเดิมที่ 50,000 ล้านบาท หลังจากช่วงครึ่งปีแรกมีพอร์ตสินเชื่อคงค้าง แล้ว 50,791ล้านบาท ขณะที่ความสามารถควบคุมตัวเลขหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ปัจจุบันยังไม่เกินเกณฑ์ที่วางไว้ต่ำกว่าระดับ 4%
เพิ่มราคาพื้นฐาน5บ.
บริษัทหลักทรัพย์ ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ระบุว่า จากความต้องการรถบรรทุกเพื่อการพาณิชย์ยังคงมีอยู่ต่อเนื่อง ทำให้ยอดขายรถยังเติบโต ถึงแม้ว่าจะติดปัญหาเรื่องจำนวนการผลิตที่ยังไม่เพียงพอกับความต้องการก็ตาม แต่ก็ทำให้ตลาดรถบรรทุกมือ 2 คึกคัก ส่งผลดีต่อ THANI โดยตรง เนื่องจากพอร์ตสินเชื่อส่วนใหญ่ของ THANI เป็นสินเชื่อรถบรรทุกคิดเป็น 69%ของพอร์ตทั้งหมด
ซึ่งทำให้ยอดเบิกจ่ายสินเชื่อจากที่ตั้งเป้าไว้ 26.4 พันล้านบาท ครึ่งแรกปี 65 ทำได้แล้ว 14.4 พันล้านบาท สินเชื่อสุทธิตั้งเป้าสิ้นปีไว้ที่ประมาณ 50 พันล้านบาท ในตอนนี้ทำได้แล้ว 50.8 พันล้านบาท ระดับ NPL ตั้งเป้าไว้ไม่เกิน 4% ขณะนี้อยู่ที่ 2.53% สัดส่วนการตั้งสำรองตั้งไว้ไม่เกิน 1% ของสินเชื่อรวม ขณะนี้ต่ำเพียง 0.78% และ D/E ratio ตั้งเป้าไว้ไม่ให้เกิน 4 เท่า ขณะนี้อยู่ที่ 3.53 เท่า
ทำให้ THANI ได้มีการปรับเป้าการปล่อยสินเชื่อในปีนี้ขึ้้นจากเดิมที่ตั้งเป้าว่าจะปล่อยสินเชื่อเพิ่ม 10-15%เพิ่มขึ้นเป็น 20% และระดับ NPL อาจจะยังลดลงได้ต่อเนื่องอีก หลังจากมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบจากโควิดได้หมดไปในสิ้นปี 64 ทำให้ THANI ได้ดำเนินการจัดการ NPL อย่างจริงจัง โดยได้มีการเพิ่ม Incentive ให้กับการติดตามหนี้การเร่งจัดการทางด้านกฎหมาย
ส่งผลให้ค่าใช้จ่ายในไตรมาส 2/65 เพิ่มขึ้น 41.2% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันกับปีก่อน และ 14.8% จากไตรมาสก่อน แต่ก็ทำให้คุณภาพสินทรัพย์ของ THANI ดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดย NPL ลดลงจากไตรมาส 1/65ที่มีอยู่ 3.09%ลดลงเหลือ 2.53%ในไตรมาส 2/65และทำให้การตั้ง สำรองลดลงมากด้วยเพียง 0.56% ของสินเชื่อรวม จากไตรมาส 1/65 ที่มีการตั้งสำรอง 1.02% ของสินเชื่อรวม
และเป็นอีกเหตุผลสำคัญนอกเหนือจากรายได้ดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้นทำให้กำไรไตรมาส 2/65 THANI เพิ่มขึ้น 15.1%เมื่อเทียบช่วงเดียวกันกับปีก่อน และ 8.2% จากไตรมาสก่อน จากคุณภาพสินทรัพย์ที่ดีขึ้น ทำให้ THANI มีการตั้งสำรองน้อยกว่าที่คาด ทางฝ่ายจึงปรับประมาณการการตั้งสำรองในปี 65 ลง และประมาณการกำไรเพิ่มขึ้นเป็น 1.9 พันล้านบาท จากเดิมคาดไว้ 1.8 พันล้านบาท ปรับไปใช้ราคาพื้นฐานปี 66 ทำให้ราคาพื้นฐานปรับขึ้นเป็น 5 บาท แนะนำ "ซื้อ"
