โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

สังคม

ราคาน้ำมัน เงินเฟ้อฉุดดัชนีเชื่อมั่นอุตสาหกรรม เม.ย. ร่วงเหลือ 86.2

ฐานเศรษฐกิจ

อัพเดต 18 พ.ค. 2565 เวลา 05.35 น. • เผยแพร่ 18 พ.ค. 2565 เวลา 05.13 น.

ราคาน้ำมัน เงินเฟ้อฉุดดัชนีเชื่อมั่นอุตสาหกรรม เม.ย. ร่วงเหลือ 86.2 ระบุปรับตัวลดลงทุกองค์ประกอบ แนะรัฐตรึงดีเซลไว้ที่ 35 บาทต่อลิตร 3 เดือน ออกโครงการคนละครึ่งเฟส 5

นายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยผลการสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมในเดือนเมษายน 2565 ว่า อยู่ที่ระดับ 86.2 ปรับตัวลดลงจากระดับ 89.2 ในเดือนมีนาคม โดยองค์ประกอบดัชนีฯ ปรับตัวลดลงทุกองค์ประกอบ ได้แก่ คำสั่งซื้อโดยรวม ยอดขายโดยรวม ปริมาณการผลิต ต้นทุนประกอบการ และผลกระกอบการ

สำหรับปัจจัยที่ส่งผลลบต่อความเชื่อมั่นผู้ประกอบการภาคอุตสาหกรรม ได้แก่ ความกังวลเกี่ยวกับต้นทุนการผลิตที่ปรับตัวสูงขึ้นทั้งจากราคาวัตถุดิบ ราคาพลังงานรวมถึงค่าขนส่ง ขณะที่กำลังซื้อในประเทศชะลอตัวจากปัญหาเงินเฟ้อและหนี้ครัวเรือน ส่งผลให้ประชาชนระมัดระวังการใช้จ่ายและอุปสงค์ในประเทศชะลอตัวลง

นอกจากนี้วันหยุดในช่วงเทศกาลสงกรานต์ทำให้การผลิตลดลง ในด้านการส่งออกสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างรัสเซีย-ยูเครนทวีความรุนแรงขึ้น ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจการค้าโลก รวมทั้งกระทบต่อราคาสินค้านำเข้าประเภทวัตถุดิบอาหารสัตว์ ปุ๋ยเคมี สินค้ากลุ่มโลหะ เป็นต้น

อย่างไรก็ตามปัญหาขาดแคลนตู้คอนเทนเนอร์ที่ยังไม่คลี่คลาย และ Space บนเรือไม่เพียงพอต่อความต้องการส่งออกสินค้า รวมทั้งความล่าช้าของเรือขนส่งยังเป็นปัจจัยกดดันต่อภาคการส่งออก อีกทั้งปัจจัยค่าเงินบาทที่อ่อนค่าสุดในรอบ 5 ปี แม้จะช่วยเพิ่มความสามารถในการแข่งขันให้ผู้ส่งออกก็ตาม

แต่สิ่งที่น่ากังวลคือเงินบาทที่อ่อนจะส่งผลให้ต้นทุนการนำเข้าสินค้าและวัตถุดิบต่างๆ โดยเฉพาะสินค้าน้ำมันที่เพิ่มสูงขึ้นจนอาจยิ่งเร่งให้เงินเฟ้อปรับตัวสูงขึ้นอีกได้

ราคาน้ำมัน เงินเฟ้อฉุดดัชนีเชื่อมั่นอุตสาหกรรม
ราคาน้ำมัน เงินเฟ้อฉุดดัชนีเชื่อมั่นอุตสาหกรรม

จากการสำรวจผู้ประกอบการ 1,320 ราย ครอบคลุม 45 กลุ่มอุตสาหกรรมของสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยในเดือนเมษายน 2565 พบว่า ปัจจัยที่ผู้ประกอบการมีความกังวลเพิ่มขึ้นได้แก่

  • ราคาน้ำมัน 80.4%
  • สถานการณ์ระบาดของโควิด-19 (Covid-19) 68%
  • สภาวะเศรษฐกิจโลก 60.2%
  • และเศรษฐกิจในประเทศ 55.2%

ปัจจัยที่มีความกังวล ลดลง ได้แก่

  • อัตราแลกเปลี่ยน (มุมมองผู้ส่งออก) โดยอัตราแลกเปลี่ยนอ้างอิงค่าเงินบาทเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ 40.1%
  • สถานการณ์การเมืองในประเทศ 38.5%
  • อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ 37.6%

ทั้งนี้ ดัชนีฯคาดการณ์ 3 เดือนข้างหน้า อยู่ที่ระดับ 95.9 ปรับตัวลดลงจาก 99.6 ในเดือนมีนาคม เนื่องจากผู้ประกอบการมีความกังวลเกี่ยวกับราคาน้ำมันดีเซลที่ปรับตัวสูงขึ้นภายหลังจากภาครัฐลดการอุดหนุนราคาโดยจะปรับขึ้นแบบขั้นบันไดจนถึง 35 บาท ต่อลิตร

รวมถึงมาตรการคว่ำบาตรรัสเซียของชาติตะวันตกจะทำให้ราคาพลังงานในตลาดโลกปรับตัวสูงขึ้นซึ่งจะกระทบต้นทุนการผลิตและค่าขนส่ง ขณะที่สถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างรัสเซีย-ยูเครน ที่ยังคงยืดเยื้ออาจส่งผลกระทบให้เศรษฐกิจโลกชะลอตัวลง นอกจากนี้นโยบายปิดเมืองของจีนเพื่อควบคุมการระบาดของไวรัสโควิด-19

ส่งผลให้การขนส่งสินค้ามีความล่าช้า รวมถึงเกิดปัญหาขาดแคลนวัตถุดิบและส่งผลกระทบต่อ Supply Chain ในตลาดโลก แต่อย่างไรก็ตามการยกเลิกระบบ Test & Go เพื่อเปิดประเทศเต็มรูปแบบในวันที่ 1 พฤษภาคม 2565 จะสนับสนุนให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าประเทศมากขึ้นและช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศในระยะต่อไป

ข้อเสนอแนะต่อภาครัฐ ประกอบด้วย

  • ตรึงราคาน้ำมันดีเซลไม่เกิน 35 บาท/ลิตร เป็นเวลา 3 เดือน เพื่อบรรเทาผลกระทบด้านต้นทุนการ ผลิตให้แก่ผู้ประกอบการ
  • ออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อช่วยลดภาระค่าครองชีพประชาชนอาทิ โครงการคนละครึ่งเฟส 5 และขยายจำนวนสิทธิ์โครงการเราเที่ยวด้วยกัน
  • สนับสนุนและส่งเสริมการลงทุนในอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคงด้านห่วงโซ่อุปทาน (Supply Chain Security) ที่มีความสำคัญกับเศรษฐกิจ เช่น อุตสาหกรรมเครื่องปรับอากาศ อุตสาหกรรมชิ้นส่วนยานยนต์ไฟฟ้า เพื่อลดการพึ่งพาการนำเข้าวัตถุดิบจากต่างประเทศ
  • ดูแลเสถียรภาพค่าเงินบาทไม่ให้ผันผวนจนเกินไปและให้สอดคล้องกับประเทศ อื่นในภูมิภาคเพื่อให้สามารถแข่งขันได้
  • ออกมาตรการส่งเสริมการท่องเที่ยวและอำนวยความสะดวกให้แก่นักท่องเที่ยวต่างชาติ เพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจภายหลังการเปิดประเทศ
0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0