ไม่โดนไม่ได้แล้ว! จัดหนักกับ "บุฟเฟ่ต์ชาบู" และ "กองทัพซูชิ" เมนูใหม่เอี่ยม! กินแบบไม่อั้นตลอด 1 ชม. 30 นาที ราคาเริ่มต้น 399 บ. ที่ร้าน Shabu de Bear เชียงใหม่
เวลาที่ร่างกายต้องการบุฟเฟ่ต์ชาบูเพื่อน ๆ จะคิดถึงร้านไหนกันบ้างครับ? แต่สำหรับผมแล้วร้าน Shabu de Bear เชียงใหม่ คือร้านลำดับต้น ๆ ที่โผล่มาในความคิดของผมเลยแหละ ส่วนเพราะอะไรน่ะเหรอ? ผมว่ามาดูรีวิวไปพร้อม ๆ กัน แล้วเพื่อน ๆ จะเข้าใจผมได้ด้วยตัวเองอย่างแน่นอนครับ
ถ้าใครที่ยังไม่เคยไปร้าน Shabu de Bear เชียงใหม่ ตามแผนที่มาได้ไม่ยากเลยนะ เพราะร้านนั้นอยู่ใน นิมมานเหมินท์ ซ.9 ถ้าเข้ามาจากถ.นิมมานเหมินท์ ก็ให้เลยสี่แยกกลางซอยไปประมาณ 50 ม. แล้วร้านจะอยู่ทางขวามือเลยครับ
สำหรับค่าเสียหายในการมากินบุฟเฟ่ต์ตลอดเวลา 1 ชั่วโมง 30 นาที ที่ร้านนี้ ก็จะมีให้เลือกทั้งแบบราคา 399 บาท และ 599 บาท ซึ่งจะต่างกันตรงที่ ชุดราคา 599 บาท จะมีเนื้อวากิวเจแปนเกรดพรีเมียม, เนื้อแกะออสเตรเลียน รวมถึงซูชิให้เลือกอลังการกว่านั่นเอง! เพื่อน ๆ ชอบกินแบบไหนก็ลองเลือกชั่งน้ำหนักใจกันดูก็แล้วกัน
แน่นอนว่าพระเอกของร้านนี้ก็คือ “บุฟเฟ่ต์ชาบู” ที่มีน้ำซุปต่าง ๆ ให้เลือกมากถึง 5 แบบด้วยกันทั้ง “ซุปต้นตำรับชาบูเดอแบร์” , “ซุปสุกี้ยากี้” , “ซุปต้มยำกุ้งน้ำข้น” , “ซุปใสสาหร่าย” และ “ซุปหม่าล่า” ให้เราได้เลือกมาจุ่มฟิน ๆ ไปกับเมนูต่าง ๆ ในร้านอาทิ หมูคุโรบูตะ, กุ้ง, หอยแมลงภู่นิวซีแลนด์, หมูเด้งชีส, เนื้อโคขุนใบพาย, เนื้อโคขุนสันคอ, เนื้อวากิวเจแปนเกรดพรีเมียม, เบคอน, เนื้อแกะ ฯลฯ กันแบบจุใจ
และอีกอย่างหนึ่งที่ขาดไม่ได้เลยในการกินบุฟเฟ่ต์ที่นี่ก็คือ การถล่มกินเหล่าอาหารญี่ปุ่นอย่าง ซูชิ, ข้าวปั้น, เทมปุระ, ข้าวห่อสาหร่าย แบบฟิน ๆ กันให้จุใจอีกด้วยส่วนจะมีตัวไหนที่น่ากินบ้างนั้น เดี๋ยวผมจะหยิบมารีวิวยั่วน้ำลายกันทีละอย่างก็แล้วกันครับ
เริ่มต้นกันที่ “ซูชิแซลมอนสด” ด้วยรสชาติหวานของเนื้อแซลมอน ที่ตัดกับรสเค็มของโชยุและวาซาบิแบบลงตัว จึงทำให้ซูชิตัวเบสิกสุด ๆ ชิ้นนี้เป็นที่ชื่นชอบของหลาย ๆ คน “ซูชิกุ้งหวาน” เองก็ไม่ต่างกันเพียงเปลี่ยนสัมผัสจากเนื้อแซลมอนนุ่ม ๆ มาเป็นเนื้อกุ้งหนึบ ๆ ที่มีรสชาติหวานมากกว่านิดหน่อย แค่นี้ก็ทำให้คนเลือกสั่งมาบ่อยไม่แพ้กันแล้ว
ถ้าชอบความเคี้ยวเด้งต้องไม่พลาด “ซูชิอิกะ” ตัวนี้เลย เพราะด้านบนจะเป็นเนื้อหมึกสดขาว ๆ แล่มาเป็นชิ้นบางกำลังดี แล้ววางไข่แซลมอนลงไปด้านบนอีกทีเพื่อเพิ่มความมันในตอนที่เคี้ยว คราวนี้มาดูตัวแปลก ๆ กันบ้าง “วากิวโรลต้มยำกุ้งไส้หนังปลาแซลมอนทอด” ตัวนี้แปลกดีครับเพราะทันที่มีกัดเข้าไป เราจะเจอรสชาติของเนื้อวากิวรสต้มยำกุ้งที่ห่อหุ้มทุกอย่างไว้ ก่อนที่จะเข้าไปเจอกับความกรุบกรอบของหนังปลาแซลมอนทอด และความสดชื่นจากแตงกวานั่นเอง
“ซูชิกุ้งแม่น้ำลนไฟ” ตัวนี้จัดเต็มจริง ๆ เพราะบนข้าวซูชินั้นจะมีกุ้งแม่น้ำตัวใหญ่ ๆ นอนพาดอยู่หนึ่งตัวเป็นหนึ่งคำ นั่นจึงทำให้เรากินเจ้าซูชินี้ด้วยความหอมมันกันแบบเต็มปากเต็มคำ พร้อมกับรสชาติของซีอิ๊วหวานที่ทาอยู่ด้านล่าง ปิดท้ายด้วย ซูชิลูกครึ่ง “ซูชิเนื้อบูลโกกิ” ที่เอาเนื้อวากิวมาเบิร์นจนสุก จากนั้นก็ทาด้วยซอสบูลโกกิสไตล์เกาหลี เรื่องรสชาตินี้คือกลมกล่อมลงตัวเลยแหละ
นอกจากซูชิแล้วผมก็ยังมีเมนูมันม่วงมาแนะนำด้วยนะกับ “กุ้งเทมปุระมันม่วง” และ “ข้าวห่อสาหร่ายไส้กุ้งเทมปุระมันม่วง” โดยทั้งสองเมนูนี้เพื่อน ๆ จะได้ลิ้มรสชาติของกุ้งเทมปุระทอดกรอบ ๆ พร้อมกับรสหวานของมันม่วงที่ผสมเข้ามาพร้อมกันในปากเลย
จริง ๆ แล้วที่ร้าน Shabu de Bear เชียงใหม่ ก็ยังมีเมนูอีกเยอะมากที่ผมไม่ได้พูดถึงเพราะ..ของดีไม่ต้องพูดมากให้เมื่อยปากไงล่ะ! (จริง ๆ คือหิวอยากกินบุฟเฟ่ต์ชาบูแล้วต่างหาก 555) เอาเป็นว่าแนะนำให้ไปลองกินกันดูด้วยตัวเองดีกว่าครับ แต่รับรองได้เลยว่าคุ้มค่ากับราคาที่จ่ายอย่างแน่นอน! สุดท้ายนี้ก่อนจากกันไปก็ฝากไว้เหมือนเดิมเลยครับ กับการกดไลก์แฟนเพจ น้าอ้วนชวนหิว by Wongnai และตั้งให้เห็นโพสต์ก่อน เท่านี้เพื่อน ๆ ก็จะไม่พลาดเรื่องราวของกินที่ชวนฟินจนน้ำลายไหล และ สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ ทั้งในเชียงใหม่ และจังหวัดใกล้เคียงแล้ว
ความเห็น 0