หากเบื่อบทความยืดยาว สามารถอ่านสรุปและทำตามได้ดังนี้
7 นิสัยง่าย ๆ แต่ทำแล้วเปลี่ยนชีวิตได้ 80% คือ
• มีกิจวัตรยามเช้า
• ลด ละ เลิก โซเชียลมีเดีย
• อย่าต่อลองกับตัวเอง ให้เริ่มทำ
• กล้าปฏิเสธ กล้าช่างมัน
• พักผ่อนให้เพียงพอ
• เลือกทำสิ่งเล็ก ๆ ที่ให้ผลตอบแทนอันยิ่งใหญ่
• วางแผนชีวิตเพื่อกำหนดอนาคต
1. มีกิจวัตรยามเช้า
คำว่า "ตื่นเช้า" แค่นึกก็ง่วงแล้ว นี่ยังต้องมาทำนู่นนี่นั่นอีก ข้าน้อยขอตัวไปนอนต่อดีกว่า…ช้าก่อน ! รู้หรือไม่ว่าการมีกิจวัตรยามเช้าเป็นจุดเริ่มต้นของสิ่งดี ๆ มากมายในชีวิต เพราะการทำสิ่งเดิม ๆ ซ้ำกันทุกเช้าจะช่วยให้ชีวิตมีระเบียบ มีเป้าหมายที่ชัดเจน และที่สำคัญที่สุดคือ ทำให้เรารู้สึกว่าสามารถกำหนดชะตาชีวิตของตัวเองได้ แต่กิจวัตรนั้น ๆ ก็ต้องเป็นสิ่งที่ดีเช่น การพับที่นอน ใส่บาตร วิ่งในสวน หรือสิ่งง่าย ๆ อย่างการดื่มน้ำสักแก้ว
ตรงกันข้าม หากเราไม่มีอะไรที่แน่นอนทำเลยในช่วงเช้า หรือเริ่มจากการทำสิ่งแย่ ๆ เช่นการเล่นโทรศัพท์ การนอนต่อจนถึงเที่ยงวัน หรือคิดแต่เรื่องกลุ้มใจ วันนั้นของเราก็มีแนวโน้วที่จะเสียไปโดยเปล่าประโยชน์
2. ลด ละ เลิก โซเชียลมีเดีย
มีคนคนหนึ่งสามารถทำเงินได้ถึง 3,700 เหรียญต่อวินาทีหรือราว 122,000 บาทจากการที่เราเลื่อนฟีดไปอย่างไร้จุดหมายบน Facebook ซึ่งเขาคนนั้นก็คือ Mark Zuckerberg ชายผู้เป็นเจ้าของ Facebook นั่นเอง จะเห็นได้ว่า คนสองคนใช้โซเชียลมีเดียเหมือนกัน แต่คนหนึ่งใช้อย่างไร้จุดหมาย และอีกคนใช้เพื่อเปลี่ยนแปลงโลก ผลลัพธ์ที่ได้จึงออกมาต่างกันอย่างสุดขั้วคือ คนที่ใช้โซเชียลมีเดียแบบไร้จุดหมาย
ก็จะกลายเป็นเครื่องผลิตเงินให้กับใครบางคนไปโดยไม่รู้ตัว ดังนั้น ลด ละ เลิก การเล่นโซเชียลมีเดียอย่างไร้จุดหมายไปวัน ๆ มีทริคแนะนำคือ ก่อนที่จะเริ่มใช้งานสื่อโซเชียล ให้เรานึกเป้าหมายก่อนว่าเราทำไปเพื่ออะไร เช่น เพื่อเสพข่าว เสพดราม่า ส่องเพื่อน หรือเลือกซื้อของ แล้วให้ทำตามเป้าหมายนั้นเพียงอย่างเดียว เมื่อพอใจแล้วก็เลิกเล่นแล้วไปทำอย่างอื่น การมีเป้าหมายชัดเจนในขณะเล่นโซเชียลมีเดียจะทำให้เราไม่เสียเวลาไปกับทุก ๆ เรื่องบนโลกอินเตอร์เน็ต
3. อย่าต่อลองกับตัวเอง ให้เริ่มทำ
ความหมายของข้อนี้ก็คือ หยุดอ้างที่จะไม่ทำได้แล้ว ! ถ้าเรามีงานที่ได้รับมอบหมายมาจากที่ทำงาน หรือสิ่งที่เราอยากทำแต่ผลัดวันประกันพรุ่งไปเรื่อย ๆ ให้เราหยุดหาข้ออ้างที่จะไม่ทำและเริ่มลงมือทำทันที สังเกตไหมว่าเราสามารถทำงานที่อาจารย์สั่งไว้ตั้งแต่เปิดเทอมให้เสร็จได้ภายในหนึ่งสัปดาห์ก่อนส่ง หลายคนเรียกปรากฏการณ์นี้ว่า One night miracle แต่ปาฏิหาริย์นี้จะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อเราเลิกอ้างกับตัวเองและเริ่มลงมือทำ ถึงแม้จะแค่หนึ่งวันหรือหนึ่งสัปดาห์ก่อนเส้นตายก็ตาม
4. กล้าปฏิเสธ กล้าช่างมัน
ข้อนี้เป็นวิธีที่ใช้จัดการกับเรื่องหยุมหยิมหนักใจได้ดีที่สุด ชีวิตคนเราต้องมีสักครั้งแหละที่เผลอรับปากกับใครไปแล้วต้องมาเสียใจทีหลัง ผู้เขียนเองก็เคยประสบปัญหาเช่นนี้อยู่ครั้งหนึ่งเพราะบังเอิญไปรับปากว่าจะไปช่วยทำกิจกรรมอาสาที่โรงเรียนในวันหยุด พอมาชั่งใจดู อ้าวเรามีงานค้างที่ต้องทำส่งวันจันทร์นี่นา คราวนี้จะโทรไปยกเลิกก็กลัวอาจารย์ท่านเสียใจ ได้แต่นอนกลุ้มใจอยู่นานแต่สุดท้ายก็ฝืนใจโทรไปบอกยกเลิกพร้อมเหตุผลนานับประการ อาจารย์ท่านตอบมาคำเดียว "OK จ่ะ" …บางทีการปฏิเสธก็ทำให้อะไรง่ายขึ้นเยอะ
5. พักผ่อนให้เพียงพอ
การฝึกฝนเพียงอย่างเดียวไม่สามารถทำให้ประสบความสำเร็จได้ เพราะการฝึกฝนต้องควบคู่ไปกับการนอนหลับพักผ่อนที่เพียงพอจึงจะนำไปสู่ความสำเร็จ ขนาดไมเคิล เฟลป์สที่ได้ชื่อว่าเป็นนักว่ายน้ำที่เก่งที่สุดในโลก ยังใช้เวลาในสระว่ายน้ำน้อยกว่าที่เขาใช้บนที่นอนของเขาเสียอีก ดังนั้น เราจึงต้องพักผ่อนให้เพียงพอเพื่อสภาพร่างกายและจิตใจที่ดีอยู่เสมอ
6. เลือกทำสิ่งเล็ก ๆ ที่ให้ผลตอบแทนอันยิ่งใหญ่
สิ่งเล็ก ๆ ที่ให้ผลตอบแทนอันยิ่งใหญ่นั้นมีอยู่ถมถืดแต่คนส่วนใหญ่มักมองไม่เห็นหรือไม่มีความรู้มากพอ ตัวอย่างหนึ่งที่ใคร ๆ ก็ทำได้เช่น การเลือกออมเงินแบบ DCA (Dollar-Cost Averaging) ซึ่งเป็นการลงทุนด้วยจำนวนเงินลงทุนที่เท่ากันทุกงวด โดยไม่สนว่าราคาของสินทรัพย์ลงทุน ณ ขณะนั้นจะเป็นเท่าไหร่ หากอยากตัดภาระก็สามารถขอให้ธนาคารตัดเงินเดือนของเราเอาไปลงทุนได้โดยอัตโนมัติตามจำนวนที่เรากำหนด การกระทำนี้
เป็นการสร้างนิสัยการออมเล็ก ๆ ที่อาจช่วยให้เรามีเงินล้านไว้ใช้ในยามเกษียณได้แบบสบาย ๆ โดยที่เราแทบไม่ต้องออกแรง
7. วางแผนชีวิตเพื่อกำหนดอนาคต
ชีวิตของเราในอนาคตมีตัวแปรมากมายที่ทำให้ไม่สามารถคาดการณ์อะไรแน่นอนได้ ถึงอย่างนั้น การวางแผนชีวิตก็เป็นวิธีลดความเสี่ยงอย่างหนึ่งที่ช่วยให้เรากุมบังเหียนชีวิตของตัวเองได้แน่นขึ้น ซึ่งการวางแผนชีวิตแบ่งเป็นระยะสั้นและระยะยาว ในระยะยาวเราอาจวางแผนคร่าว ๆ ว่าชีวิตของเราควรเดินไปในทิศทางไหน เช่น เกษียณแล้วจะทำอะไรดี มีเงินเก็บเท่านี้พอหรือยัง หรือควรทำประกันชีวิตแบบไหนที่เหมาะสมกับเราที่สุด
ส่วนการวางแผนในระยะสั้นก็สามารถเริ่มได้เดี๋ยวนี้เลยโดยอาจเริ่มจาก หลังตื่นนอนฉันจะ… กินข้าวเช้าเสร็จแล้วฉันจะ… หรือก่อนนอนฉันจะ… เมื่อทำทุกอย่างได้ตามแผนแล้วเราจะรู้สึกได้เลยว่านาฬิกาชีวิตของเราเดินช้าลง