เจ้าหน้าที่ญี่ปุ่นเรียกร้องจังหวัดยามานาชิ เร่งใช้มาตรการคุมจำนวนนักท่องเที่ยว รวมถึง จำกัดการเข้าพื้นที่ ช่วงฤดูปีนภูเขาไฟฟูจิ หลังปริมาณความต้องการห้องพักเพิ่มขึ้นอย่างมาก
สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า เจ้าหน้าที่ท้องถิ่น และสมาคมท่องเที่ยวที่อยู่ใกล้กับภูเขาไฟฟูจิ ที่มีชี่อเสียง และเป็นสัญลักษณ์ของประเทศญี่ปุ่น เตือนว่า จำนวนประชาชนที่มหาศาลแบบไม่เคยปรากฏมาก่อน จะมาเที่ยวพิชิตความสูงชองภูเขาไฟฟูจิในปีนี้
เจ้าหน้าที่เหล่านี้ได้หยิบยกข้อกังวลเรื่องความปลอดภัยแจ้งในคำร้องที่ส่งไปยังผู้ว่าการจังหวัดยามานาชิ ซึ่งเป็นที่ตั้งของภูเขา ที่ได้รับความนิยมสำหรับการเดินขึ้นเขามากที่สุดในญี่ปุ่น
ข้อเรียกร้องดังกล่าว มีขึ้นหลังมีการคาดการณ์ว่า จะมีนักท่องเที่ยวมายังภูเขาไฟฟูจิจำนวนมากกว่าปกติ เนื่องจากรัฐบาลได้ผ่อนคลายมาตการคุมเข้มโควิด-19 และการที่นักท่องเที่ยวต่างประเทศกลับเข้ามาเที่ยวประเทศญี่ปุ่นอีกครั้ง
นอกจากนี้ ปี 2566 ยังเป็นวาระครบรอบ 10 ปี ที่ฟูจิได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากองค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (ยูเนสโก) ด้วย
ทั้ง ภูเขาไฟฟูจิ ซึ่งเป็นภูเขาที่สูงที่สุดของญี่ปุ่น และมีหิมะปกคลุมที่ยอดเขาตลอดทั้งปี จะเปิดให้นักปีนเขาได้เข้ามาระหว่างเดือนกรกฎาคม-กันยายน ซึ่งตามปกติจะมีนักท่องเที่ยวหลายแสนคนมาปีนเขา และมักจะเริ่มการปืนเขาในตอนกลางคืน เพื่อชมดวงอาทิตย์ขึ้นจากขอบฟ้าในตอนเช้า
ผู้ที่ไม่สามารถจองที่พักบนภูเขาได้ ก็อาจจะปีนตรงไปยังยอดเขาโดยไม่พัก ซึ่งอาจจะเพิ่มความเสี่ยง ที่จะเกิดภาวะแพ้ที่สูง ร่างกายไม่สามารถปรับตัวได้ในภาวะที่มีออกซิเจนน้อย หรือ สภาวะที่ร่างกายมีอุณหภูมิต่ำเกินไป หากจำนวนนักท่องเที่ยวมากเกินไป ก็ควรจะจำกัดการเดินทางมายังภูเขาฟูจิ ทั้งการที่เส้นทางเดินมีคนมากกินไปก็ทำให้มีความเสี่ยงที่หินจะหล่นลงมาด้วย
อ่านข่าวเพิ่มเติม