โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

หุ้น การลงทุน

‘ดาวโจนส์’ ปิดบวก 124.75 จุด ขายรับแรงซื้อ ‘หุ้นเทคโนโลยี’

The Bangkok Insight

อัพเดต 12 ก.ย เวลา 02.11 น. • เผยแพร่ 12 ก.ย เวลา 01.21 น. • The Bangkok Insight
‘ดาวโจนส์’ ปิดบวก 124.75 จุด ขายรับแรงซื้อ ‘หุ้นเทคโนโลยี’

ตลาดหุ้นนิวยอร์ก ของสหรัฐ ปิดซื้อขายวานนี้ (11 ก.ย.) ตามเวลาท้องถิ่น โดยที่ "ดาวโจนส์" เพิ่มขึ้น 124.75 จุด แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี ซึ่งช่วยบดบังปัจจัยลบจากดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของสหรัฐ ที่ออกมาสูงเกินคาด และทำให้นักลงทุนลดความคาดหวังที่ธนาคารกลางสหรัฐ จะลดดอกเบี้ย 0.50% ในการประชุมสัปดาห์หน้า

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 40,861.71 จุด เพิ่มขึ้น 124.75 จุด หรือ +0.31% ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 5,554.13 จุด เพิ่มขึ้น 58.61 จุด หรือ +1.07% และดัชนีแนสแด็กปิดที่ 17,395.53 จุด เพิ่มขึ้น 369.65 จุด หรือ +2.17%

ดาวโจนส์
ดาวโจนส์

หุ้น 6 ใน 11 กลุ่มที่คำนวณในดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดในแดนบวก นำโดยดัชนีหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีพุ่งขึ้นแข็งแกร่งถึง 3.25% ตามด้วยดัชนีหุ้นกลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือยปรับตัวขึ้น 1.32%

ส่วนดัชนีหุ้นกลุ่มพลังงานปรับตัวลงมากที่สุด โดยลดลง 0.93% ตามด้วยด้วยดัชนีหุ้นกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภคปรับตัวลง 0.88%

หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีพุ่งขึ้นนำตลาด โดยหุ้นเอ็นวิเดีย ทะยานขึ้น 8% หลังจากเว็บไซต์ข่าวเซมาฟอร์ (Semafor) รายงานว่า รัฐบาลสหรัฐกำลังพิจารณาเปิดทางให้บริษัท ซึ่งเป็นผู้ผลิตชิปปัญญาประดิษฐ์ (AI) รายใหญ่ของสหรัฐ สามารถส่งออกชิปที่ทันสมัยให้กับซาอุดีอาระเบีย

นอกจากนี้ บรรยากาศการซื้อขายในตลาดยังได้แรงหนุนจากผลการดีเบตชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐ โดยผลสำรวจของสำนักข่าวซีเอ็นเอ็นระบุว่า คามาลา แฮร์ริส ตัวแทนจากพรรคเดโมแครตสามารถคว้าชัยชนะเหนือโดนัลด์ ทรัมป์ ตัวแทนจากพรรครีพับลิกัน ด้วยคะแนน 63% ต่อ 37% เมื่อเทียบกับคะแนน 50% ต่อ 50% ก่อนการดีเบต

ขณะที่ PredictIt ซึ่งเป็นเว็บไซต์พนันการเมืองระบุว่า หลังจากการดีเบตจบลง แฮร์ริสเป็นตัวเต็งชนะศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 5 พฤศจิกายนนี้ โดยมีอัตราต่อรองอยู่ที่ 57 เซนต์ เพิ่มขึ้นจาก 53 เซนต์ก่อนการดีเบต ขณะที่อัตราต่อรองของทรัมป์อยู่ที่ 48 เซนต์ ลดลงจาก 52 เซนต์ก่อนการดีเบต

ดาวโจนส์
ดาวโจนส์

กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค ประจำเดือนสิงหาคมในวันนี้ โดยพบว่า ดัชนี CPI ทั่วไป (Headline CPI) ซึ่งรวมหมวดอาหารและพลังงาน ปรับตัวขึ้น 2.5% ในเดือนสิงหาคม เมื่อเทียบรายปี ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 2.6% และเมื่อเทียบรายเดือนปรับขึ้น 0.2% สอดคล้องตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์

ส่วนดัชนี CPI พื้นฐาน (Core CPI) ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน ปรับตัวขึ้น 3.2% เมื่อเทียบรายปี สอดคล้องตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ และเมื่อเทียบรายเดือนปรับขึ้น 0.3% สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 0.2%

ข้อมูลดังกล่าวทำให้นักลงทุนลดความคาดหวังที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะลดอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในการประชุมเดือนกันยายนนี้

ล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 85% ที่เฟดจะลดดอกเบี้ยเพียง 0.25% มาอยู่ที่ระดับ 5.00-5.25% ในการประชุมวันที่ 18 กันยายน หลังจากให้น้ำหนัก 66.0% เมื่อวานนี้ และให้น้ำหนัก 15% ที่จะลดดอกเบี้ย 0.50%

อ่านข่าวเพิ่มเติม

ติดตามเราได้ที่

เว็บไซต์: https://www.thebangkokinsight.com/
Facebook: https://www.facebook.com/TheBangkokInsight
X (Twitter):https://twitter.com/BangkokInsight
Instagram: https://www.instagram.com/thebangkokinsight/
Youtube:https://www.youtube.com/channel/UCYmFfMznVRzgh5ntwCz2Yxg

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0

ความเห็น 0

ยังไม่มีความเห็น