โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

‘พิธีกร’ ไล่ไทม์ไลน์งานแต่งอลเวง สร้างเรื่องน่าสงสาร-เบี้ยวค่าตัวคล้ายเคสช่างภาพ

เดลินิวส์

เผยแพร่ 5 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เดลินิวส์
‘พิธีกร’ ไล่ไทม์ไลน์งานแต่งอลเวง สร้างเรื่องน่าสงสาร-เบี้ยวค่าตัวคล้ายเคสช่างภาพ
โผล่อีกเคส

จากกรณีข่าวที่ "ช่างภาพ" ถูกจ้างให้ไปถ่ายภาพงานแต่งคู่บ่าวสาว สุดท้ายเบี้ยวไม่จ่าย มิหนำซ้ำยังถูกบล็อกเบอร์ ในความโชคร้ายยังมีความโชคดี ที่เจ้าตัวนั้นยังไม่ได้ส่งรูปให้ทางลูกค้า ต่อมาโพสต์ดังกล่าวกลายเป็นไวรัล ซึ่งชาวเน็ตต่างขุดวาร์ปบ่าวสาว พร้อมประณามขอให้รับผิดชอบผู้เสียหายอีกด้วย

ล่าสุดเมื่อวันที่ 1 มีนาคม 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บัญชีเฟซบุ๊กที่ใช้ชื่อบูล สีฟ้าได้ออกมาโพสต์เล่าเรื่องงานแต่งสุดอลเวง ที่ไม่เคยเจอที่ไหน แถมโดนเบี้ยวค่าตัว ถูกเจ้าบ่าวเจ้าสาวสับขาหลอก โดยระบุว่า "ฟังไทม์ไลน์ของช่างภาพแล้วคราวนี้ฟังไทม์ไลน์ของนายพิธีบ้างนะคะ"

1. คู่บ่าวสาวติดต่อมาก่อนเริ่มวันงานแค่ประมาณสองวันครึ่งค่ะ โดยเจ้าสาวติดต่อมาและใช้คำว่าพี่ว่างไหมคะช่วยหนูด้วยหนูโดนทางออแกไนซ์เทงานมา ซึ่งประเด็นนั้นเราไม่ได้สอบถามอะไรเพิ่มเติม คุยสรุปค่าจ้างงานเช้าจบอยู่ที่ 6,000 บาท ซึ่งบ่าวสาวมัดจำมาแล้ว 2,000 บาท ซึ่งเราคิดค่ามัดจำนี้เป็นปกติทุกงาน ปกติแล้วการคุยดิลงานกับคู่บ่าวสาวเราจะมีการคุยประชุมกันหลายครั้งให้บ่าวสาวกรอกเอกสารเกี่ยวกับข้อมูลส่วนตัวทุกอย่างเพื่อทำการออกสคริปต์หรือรายละเอียดเพิ่มเติม แต่บ่าวสาวคู่นี้ไม่ได้มีการกรอกเอกสารใด ๆ กลับมาและอ้างว่าหนูเตรียมงานไม่ทัน ซึ่งเราก็เห็นใจและเราบอกว่าไม่เป็นไรเดี๋ยวพี่ไปดูหน้างานให้ ซึ่งก็โดนสดกันหน้างานหมด ถาดข้าวพระพุทธเราก็เป็นคนเตรียม ช่อดอกไม้รับตัว เราก็เป็นคนทำช่อดอกไม้หน้างาน ด้วยการไปดึงดอกไม้จากแบ๊กดร็อปมาทำให้

2. ข้อสงสัยแรกคือในการ์ดของคู่บ่าวสาวโลเคชั่นของงานไปอยู่ที่จังหวัดราชบุรี ซึ่งจริง ๆ แล้วงานของคู่บ่าวสาวอยู่ที่จังหวัดแห่งหนึ่งอักษรย่อ อ ย ธ ย เมื่อไปถึงหน้างาน นายพิธีทำหน้าที่ให้เต็มที่ทุกอย่าง ข้อสงสัยที่สองคือกรณีที่เจ้าสาวแจ้งว่าโดนเทงานมา ปรากฏว่าพอไปถึงในงาน เราเดินไปคุยกับพี่สาวแล้วแจ้งว่าสงสารน้องจังเลยโดนเทมาออแกไนซ์ไหนคะ พี่สาวกลับทำงง ๆ เหมือนไม่เข้าใจ ไม่ว่าจะเป็นการเตรียมลำดับพิธีทั้งหมด ช่วยดูแลญาติคู่บ่าวสาวและอีกอย่างหนึ่งที่เสียใจคือญาติของเจ้าบ่าวเดินทางมาจากจังหวัดหนึ่ง ทางภาคอีสาน เราก็มองว่าญาติผู้ใหญ่ถือเป็นปู่ย่าตายายเรา เราดูแลอย่างเต็มที่ ซื้อขนมเลี้ยงหลานเขาด้วยนะประมาณ 50 บาทพี่จำได้เพราะร้านค้าเขายอมให้โอนเมื่อซื้อ 50 บาทขึ้น

3. ไทม์ไลน์การทวงเป็นไทม์ไลน์คล้ายกันกับช่างภาพเลยคือเรารอให้จบงานก่อนประมาณหนึ่งวัน แล้วเราค่อยส่งเลขบัญชีแต่ข้อความไม่ถูกอ่านสองวัน จนเราได้ตัดสินใจโทรฯ เข้าไปที่เบอร์เจ้าสาวซึ่งติดตั้งแต่ครั้งแรก และเจ้าบ่าวเป็นคนรับ เจ้าบ่าวชี้แจงว่าจะโอนเย็นนี้ ซึ่งหลังจากนั้นเราไม่สามารถติดต่อได้ทั้งเบอร์เจ้าบ่าวและเบอร์เจ้าสาวนั้น ก็คือบล็อกเบอร์นั่นเอง ทำไมถึงมั่นใจว่าบล็อกเบอร์เพราะเอาเบอร์อื่นโทรฯ ไปโทรฯ ติดจ้า มีรับด้วยแต่ไม่พูดแล้วก็วาง หลังจากนั้นก็โทรฯ ไม่ติดอีก

4. เราติดต่อไปยังกำนัน เหตุที่ติดต่อกำนัน เพราะว่าในงานวันนั้น ประธานที่คล้องมาลัยเป็นนายกเทศบาล ซึ่งเรามองว่างั้นแสดงว่าท่านอาจจะรู้จักกับคู่บ่าวสาว เลยจะให้ท่านช่วยเป็นผู้ไกล่เกลี่ย อย่างน้อยติดปัญหาอะไรให้น้องน้องติดต่อเรากลับมาก่อน ซึ่งเราไม่ได้มีเจตนาจะรบกวนพวกท่านเลย แต่เราแค่ไม่อยากให้เกิดเป็นคดีความ ซึ่งนี่คือความหวังดีของเราที่มีต่อคู่บ่าวสาวค่ะ และขอพูดตรงนี้ว่าท่านไม่ได้รับรู้และไม่ได้เกี่ยวข้องค่ะ ขอบคุณในความเมตตาที่ท่านประสานงานให้เราด้วย ผ่านไปสองวันเริ่มเงียบ

5. เราลองตัดสินใจส่งข้อความไปและแจ้งว่าขออนุญาตดำเนินการทางกฎหมายนะคะ ซึ่งไม่เกิน 10 นาที LINE ตัวนั้นถูกทักกลับมาน่าจะเป็นการปลดบล็อกแล้วอ้างว่าเป็นพี่สาวของเจ้าสาว บอกว่าเจ้าสาวไม่สบายหนักเข้าโรงพยาบาลขอผ่อนชำระก่อนได้ไหมอีก 2,000 บาท ซึ่งตรงนี้เป็นการการันตีได้ว่าเราไม่ได้ใจร้ายเลย เรายังบอกและมีข้อความเป็นหลักฐานใน LINE ด้วยว่า ถ้าไม่ไหวยังไงให้แจ้งมาอนุญาตให้ผ่อนชำระได้แต่อย่าบล็อก LINE แบบนี้นะ ซึ่งก็มีข้อความตอบกลับมาว่ารับทราบค่ะ ซึ่งเรายังแสดงความเป็นห่วงไปและแจ้งว่าได้ค่ะไม่มีปัญหา ซึ่งทางคนที่อ้างว่าเป็นพี่สาวจะขอเวลาอีกประมาณสามวันเพื่อโอนอีก 2,000 ที่เหลือ ซึ่งประโยคพวกนี้ยังมีข้อความอยู่ใน LINE ทั้งหมดเป็นการคุยกันโดยที่ไม่มีคำตอบว่าใดๆ ซึ่งกันและกัน ยังเป็นความเป็นห่วงซึ่งกันและกัน

6. เมื่อครบถึงกำหนดวัน เราทักข้อความไป ได้ข้อความกลับมาว่าเงินออกตอนสามทุ่มและเป็นรูปภาพที่ส่งมาว่ากำลังรออยู่ที่หน้าตู้ ซึ่งเราก็เลยพิมพ์ข้อความเข้าไปใน Facebook แล้วก็เหมือนพิมพ์เล่นๆ ว่าเอ๊ะเราจะได้เงินหรือเปล่า ปรากฏว่ามีออแกไนซ์ที่เป็นคนจัดชุดพรี wedding ทักเรามา ซึ่งปรากฏว่าจุดใต้ตำตอเป็นคนที่รู้จักกันและแจ้งว่าทางคู่บ่าวสาวก็ยังไม่จ่ายเช่นกัน แต่ทางนั้นมีทนายคอยช่วยและได้ส่งโนติสไป ซึ่งล่าสุดได้ความคืบหน้ามาว่าคู่บ่าวสาวโอนเงินส่วนที่เหลือประมาณ 10,000 บาทแล้ว นั่นความหมายนัยคือว่ามิได้แปลว่าคู่บ่าวสาวไม่ได้ไม่มีเงิน

7. เราไม่ได้เจตนาที่จะเอาคู่บ่าวสาวออกมาพูดหรืออะไรแบบนี้ เพราะเรามองว่าบรรยากาศที่เกิดขึ้นในงานก็เป็นบรรยากาศที่ไม่ได้เกิดปัญหาอะไรและเราก็เอ็นดูคู่บ่าวสาว อย่างเจ้าบ่าวเองเราก็เอ็นดูว่าเป็นน้องๆ จากภาคอีสานด้วยกัน ซึ่งเราก็ยังพูดอีสานกับญาติๆ ซึ่งยังได้รับคำชมจากญาติๆ อยู่เลย และสิ่งที่เราแสดงออกด้วยการยอมให้ผ่อน เพราะเรามองว่าน้องอาจจะลำบากจริงๆ ซึ่งก่อนหน้านั้นเราไม่รู้ว่าน้องทำแบบนี้กับช่างภาพและทางชุดพรี wedding ด้วย

8. หลายคนถามว่าทำไมไม่แจ้งความ ที่ก่อนหน้านี้ยังไม่ได้ดำเนินการในการแจ้งความอย่างที่เราบอกไปว่าเราประสานไปยังผู้ใหญ่ในหมู่บ้านอยู่ซึ่งเราบอกว่าถ้าท่านพูดให้เคลียร์ให้อาจจะดีขึ้น และอีกหนึ่งอย่างคือเรามองว่า ยอดเงินที่เหลืออีก 2,000 บาท ไม่น่าจะถึงขั้นที่จะบล็อกกันขนาดนี้ และที่สำคัญคือเราติดงานทุกวันค่ะ การขับรถไปแจ้งความในสถานที่เกิดเหตุก็ค่อนข้างที่จะไกลหน่อยเพราะอยู่คนละจังหวัด แต่พอบังเอิญเราได้เห็นโพสต์ของช่างภาพ เราเลยรู้แล้วว่าเขาน่าจะทำแบบนี้กับหลายฝ่าย ก็เลยได้มีการพูดคุยกับทางน้องช่างภาพในงานมา ซึ่งพูดแทนช่างภาพได้เลยว่า ช่างภาพในงานทำงานหนักเหมือนกัน น้องแทบไม่ได้นั่งเลย ตั้งแต่ทำงานมา ไม่ว่าจะเป็นวงการใดๆ เราไม่เคยเจอในลักษณะแบบนี้ค่ะ อาจจะมีจ่ายช้าบ้างแต่ยังไม่เคยเจอคนที่เราติดต่อไม่ได้ จะถามว่าเป็นอุทาหรณ์เตือนภัยพิธีกรท่านอื่นไหม ก็คงมองว่าไม่ เพราะว่า 1,000,000 คู่ ก็น่าจะมีแค่แบบนี้ไม่กี่ท่าน

หากเรายังไม่พร้อมที่จะจัดงานแต่ง เราไม่จำเป็นต้องจ้างพิธีกรหรือช่างภาพก็ได้ค่ะ งานแต่งสามารถมีขึ้นได้แม้ไม่มีพิธีกรหรือช่างภาพจะเป็นเพียงแค่การบอกกล่าวเจรจาผูกข้อไม้ข้อมือในงานก็ได้ค่ะ…

ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพ : @บูล สีฟ้า

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0