เมื่อหนึ่งอาทิตย์ที่ผ่านมาเอิ้นได้มีโอกาสพาตัวเองเข้าไปเป็นนักเรียนอีกครั้ง ในคลาส "ไขความลับของความรัก" โดย สมพล ชัยสิริโรจน์ (พี่อู๊ต)
พี่อู๊ตเป็นผู้ที่นำแนวทางจิตวิทยาในการรู้เท่าทันเสียงภายในของตัวเอง (voice dialogue) เข้ามาในประเทศไทยเมื่อ 10 ปีก่อน
เสน่ห์ของจิตวิทยาด้านนี้คือ การที่เราได้เรียนรู้ความเป็นตัวเองโดยใช้รูปแบบความสัมพันธ์ที่เรามีต่อคนรอบข้างและความฝันมาเป็นกระจกสะท้อน
คำถามแรกในคลาสที่ชวนให้ทุกคนติดตามและอยากรู้คือ “เรารักกันเพราะอะไร?” บางคนตอบว่าเพราะความเหมือน บางคนตอบว่าเพราะความต่าง
ในมุมของจิตวิทยาเสียงภายในตัวเองมองว่า เพราะมีทั้งความเหมือนและความต่าง
เรามีความเปราะบางในตัวเองเหมือนกันแต่เรื่องที่เปราะบางนั้นแตกต่างกัน
ลองย้อนนึกถึงช่วงเวลาที่เราตกหลุมรักใครสักคนดูนะคะ แล้วเค้าก็ตกหลุมรักเราเช่นกัน โลกทั้งใบกลายเป็นสีชมพู ผู้ใหญ่สองคนกลายเป็นเด็กร่าเริง แจ่มใส มีชีวิตชีวา ไร้ซึ่งการตั้งเกราะขวางกั้นระหว่างกันและกันอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน
จนบางคนใช้คำว่าไม่เป็นตัวของตัวเอง ทั้งที่ก็เป็นตัวเองนั้นแหละ มองให้ลึกลงไป เด็กน้อยที่โผล่มาตอนที่เราตกหลุมรักใครสักคนก็คือความเปราะบางของเรานั้นเอง
ใช่แล้ว!! เรารักกันเพราะเรามีความเปราะบางที่ต่างกัน และมักเป็นความเปราะบางที่เราไม่รู้ตัว
เคยมั้ยที่รู้สึกว่าอยู่กับคนนี้แล้วรู้สึกดีจังเลยอย่างที่ไม่มีเหตุผล การจีบใครสักคนตอนที่เค้ากำลังอ่อนแอจึงมีโอกาสประสบความสำเร็จมากกว่าตอนที่เค้ากำลังเข้มแข็ง เพราะเราก็ต้องการเป็นคนรักส่วนเค้าก็ต้องการเป็นที่รัก
ถ้าสภาวะการตกหลุมรักทำให้คนรู้สึกดีขนาดนี้แล้วเพราะอะไรถึงอยู่ไม่ได้นาน? หลายคนเรียกสภาวะนี้ว่า “หมด passion”
เพราะความจริงแล้วเราไม่ชอบสิ่งที่นำพาให้เรามารักกัน นั้นคือความรู้สึกว่าตัวเองเป็นคนเปราะบางหรืออ่อนแอ ดังนั้นความรักของเราจะมีมิติและอยู่ได้ยั่งยืนมากขึ้น หากเรายอมรับความเปราะบางของกันและกัน
แล้วถ้าคนสองคนมีเป้าหมายปลายทางชีวิตในการมีชีวิตอยู่ที่เหมือนกัน ความรักครั้งนี้ก็จะนำพาเราไปสู่การแต่งงานได้ แต่การแต่งงานหรือการตกลงใจที่จะรักกันก็ไม่ได้หมายความว่าเราจะไม่มีปัญหากัน
บางคู่มีปัญหามากกว่าตอนคบหาดูในกันเสียอีก เพราะการไม่รู้เท่าทันความเปราะบางภายในตัวเองอาจจะเผลอทำให้เราเข้าใจว่า ปัญหามันเกิดจากการที่อีกฝ่ายไม่เหมือนเดิม แต่แท้จริงทั้งสองก็แค่กลับไปเป็นตัวเองเท่านั้นเอง
ในมุมของจิตวิทยาเสียงภายในจึงมองว่า เราสามารถทำความรู้จักตัวเองได้
ผ่านลักษณะความสัมพันธ์ที่เรามีต่อผู้อื่น
ผ่านการสะท้อนจากคนรักที่มีต่อเรา
ผ่านการถามตัวเองว่าเราชอบหรือไม่ชอบอะไรในคนรัก
ผ่านการมองเห็นและยอมรับความเปราะบางของกันและกัน
ผ่านการมองเห็นขอบเขตของความสัมพันธ์
สุดท้ายเราอาจจะเปลี่ยนไปคล้ายกับคู่ชีวิตเรามากขึ้น ไม่ใช่เพราะการเอาใจ หรือแค่ให้อยู่ด้วยกันได้ แต่เพราะเรารู้จักตัวเองในหลายมิติมากขึ้น มีทางเลือกกับตัวเองมากขึ้น
มีโอกาสที่จะได้ทำในสิ่งที่ไม่คุ้นเคยมากขึ้น มาถึงตรงนี้รู้สึกว่าความรักความสัมพันธ์ของคนสองคนที่เริ่มต้นจากความเปราะบางและยืนนานเพราะแปลงร่างเป็นความเข้มแข็งช่างดีเหลือเกิน
ดีจนเกิดคำถามในใจว่า แล้วมือที่สามล่ะจะถูกแทรกเข้ามาในวงจรของคนสองคนตอนไหน?
ถ้าคนสองคนรักกันเพราะต่างคนต่างฝากให้อีกฝ่ายดูแลความเปราะบางของกันและกันอย่างไม่รู้ตัว คำตอบคือได้เสมอและตลอดเวลา เมื่อเรามีช่วงเวลาแยกกัน ห่างกัน ลืมกัน เป็นช่วงหลุมอากาศของความรัก
แล้วถ้าเวลานั้นมีใครหรืออะไรบางอย่างเข้ามาดูแลความเปราะบางนั้นแทน ดังนั้นมือที่สามอาจจะเป็นอีกคน อาจเป็นเพื่อน หรืออาจเป็นสุรา อาจเป็นเฟซบุ๊ก อาจเป็นมือถือ
ดังนั้นเมื่อใดที่ความรักของเราเริ่มตกหลุมอากาศเราควรกลับมาตระหนักรู้ถึงความต้องการและความเปราะบางของตัวเองและคนรัก แล้วหาจุดสมดุลใหม่เพื่อการอยู่ร่วมกัน เรียนรู้ข้อดีข้อเสียตัวเองจากสิ่งที่คนรักสะท้อนและดีที่สุดคือกลับมารักและดูแลความเปราะบางของตัวเองให้เป็นด้วยการให้อภัยตัวเองอย่างไม่มีเงื่อนไข แม้ว่าเรื่องนั้นจะเป็นเรื่องที่เราไม่มีวันบอกใครเพราะกลัวว่าจะไม่มีใครให้อภัยเราก็ตาม
ป.ล. ปักหมุดในใจด้วยว่าเราจะไม่กลับไปทำผิดซ้ำในรูปแบบเดิมๆอีก
Youtube : https://youtu.be/dY6g1L9eABA ดริปกาแฟดูแลใจกันเถอะ
----------------------------------------------------------------------------
Page FB ดีต่อใจ โดย หมอเอิ้น พิยะดา : https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=10156783544953550&id=306538978549
----------------------------------------------------------------------------
IG : https://www.instagram.com/earnpiyada/
----------------------------------------------------------------------------
Website : http://www.earnpiyada.com/
ความเห็น 3
ทุกอย่างที่จะเกิดขึ้นได้ก็คงเป็นเพราะสภาวะจิตใจของตนเอง.
06 มี.ค. 2562 เวลา 12.26 น.
😈👿RBGTR👿😈
แสดงว่าที่ผม"แข็งแรง"ขึ้น เพราะผมสร้าง"เกราะป้องกัน"ความ"เปราะบาง"ของตัวเอง ได้ดีแล้วใช่ไหม?
07 มี.ค. 2562 เวลา 00.31 น.
โกมินทร์ วิไลพร
ยากดูแลว้จา่
มา
จัง
รัก
06 มี.ค. 2562 เวลา 14.07 น.
ดูทั้งหมด