1 มีนาคม 2568 แหล่งข่าววงในของทำเนียบขาว เปิดเผยว่า การปะทะเดือดระหว่างประธานาธิบดี “โดนัลด์ ทรัมป์” ของสหรัฐ กับแขกที่มาเยือนคือ “ประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี” ของยูเครน เมื่อวันศุกร์ ไม่ใช่การวางแผนล่วงหน้า เพื่อทำให้ “เซเลนสกี” รู้สีกอับอาย หรือพยายามจะบีบให้เขาลดท่าทีที่แข็งกร้าวในการเจรจาลง หรือหาวิธีได้เปรียบในข้อตกลงเรื่องแร่หายากที่ถูกยกเลิกไป เพราะ “ทรัมป์” เริ่มพูดคุยด้วยความสุภาพ แม้จะไม่ค่อยพอใจกับเครื่องแต่งกายของ “เซเลนสกี”
โดยเขาถามว่า "ทำไมคุณถึงไม่สวมสูท คุณอยู่ในระดับสูงที่สุดในสำนักงานของประเทศนี้ และคุณไม่ยอมสวมสูท คุณมีสูทมั้ย" ซึ่งเซเลนสกีได้ถามกลับว่า
"คุณมีปัญหาหรือ" ทรัมป์ บอกว่า "ชาวอเมริกันจำนวนมากมีปัญหาแน่ ที่คุณไม่ให้ความเคารพสำนักงานแห่งนี้ และเซเลนสกี ได้ตอบว่า "ผมจะสวมเครื่องแต่งกายตามธรรมเนียม หลังจากสงครามจบแล้ว ใช่ อาจเป็นแบบพวกคุณ อาจดีกว่า ผมไม่รู้ เราจะได้เห็น หรืออาจจะถูกกว่า ขอบคุณ"
แหล่งข่าวบอกว่า สิ่งที่กระตุ้นความโมโหของ “ทรัมป์” คือการที่ “เซเลนสกี” พูดจาไม่ดีใส่รองประธานาธิบดีเจดี แวนซ์ ทำให้ทรัมป์วัย 78 ปี ต้องปกป้องรองประธานาธิบดีวัย 40 ปีของเขา ก่อนที่อุณหภูมิความเกรี้ยวกราดจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
เรื่องนี้เริ่มต้นจากการที่ “แวนซ์” เล็คเชอร์ “เซเลนสกี” ก่อน โดยตำหนิที่เขาเอาแต่พูดเรื่องปัญหาของยูเครน
ซึ่งเซเลนสกีได้สวนว่า แวนซ์ไม่เคยไปยูเครน ตั้งแต่สมัยเป็นวุฒิสมาชิก แม้คนอื่นๆ จะไปกันก็ตาม อันเป็นเจตนาที่จะตอบโต้แวนซ์ว่า ไม่เคยไปเลยไม่รู้สถานการณ์ที่แท้จริง แต่แวนซ์กลับตอบกลับว่า
การไปเยือนแบบนั้น เป็นเพียงการพาคนไปทัวร์เพื่อสร้างภาพลักษณ์เท่านั้น (propaganda tour) จากนั้นทรัมป์ได้พูดแทรกเพื่อปกป้องรองประธานาธิบดีของเขาว่า คุณอยู่ในสถานะที่แย่มาก คุณไม่เหลือไพ่ในมือแล้ว"
นอกจากนี้ ในช่วงที่ทรัมป์พูดโน้มน้าวการทำข้อตกลงเรื่องแร่หายาก ที่เขารับประกันความปลอดภัยให้แก่ยูเครน เพื่อแลกกับผลประโยชน์ทางธุรกิจในการที่สหรัฐฯ เข้าถึงแร่หายากของยูเครน แทนที่เซเลนสกีจะชื่นชมยินดี เขากลับแสดงท่าทีว่าแทบจะทนไม่ไหวกับสิ่งที่ได้ยิน
แม้ไม่ใช่การวางแผนล่วงหน้า แต่ก็ทำให้เซเลนสกี ต้องเผชิญความอัปยศในพื้นที่ของทรัมป์ และทรัมป์แสดงท่าทีสะใจหลังจากนั้น ด้วยการบอกว่า
"นี่จะเป็นรายการโทรทัศน์ที่ยอดเยี่ยม ผมบอกเลย"