(3ส.ค.66) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เพจเฟซบุ๊ก "Banjob Bannaruji – บ้านบรรณรุจิ" ซึ่งเป็นเพจของ ศาสตราจารย์พิเศษ ดร.บรรจบ บรรณรุจิ ราชบัณฑิต ป.ธ. 9 อดีตสามเณรนาคหลวง ได้โพสต์ข้อความว่า ระบุว่า ขอเวลานอกให้หลวงพ่อพยอมหน่อย หลวงพ่อพยอม หรือ พระราชธรรมนิเทศ เจ้าอาวาสวัดสวนแก้ว เป็นพระสงฆ์ไทยรูปหนึ่งที่เสียสละเพื่อสังคมไทยมายาวนานเกือบ ๕๐ ปี
.
นอกจากเทศน์โดนใจสังคมด้วยลีลาธรรมะหรรษาแล้ว ยังเอาธรรมะที่เทศน์มาทำเป็นโครงการช่วยเหลือสังคมอย่างเป็นรูปธรรม โดยใช้พื้นที่วัดเป็นที่ตั้งโครงการ ให้สังคมคนมีเงินมีรายได้กระจายเงินกระจายรายได้ออกมาจุนเจือคนด้อยกว่าแบบเต็มใจ ด้วยการซื้อสินค้ามือสองที่มีผู้บริจาค
.
นึกแล้วผมยังปีติใจ คณะอักษรศาสตร์ จุฬา ฯ สมัยที่ผมสอน (ท่านคณบดี มรว.หญิงกัลยา ติงศภัทิย์) ได้เคยถวายเครื่องปรับอากาศที่ปลดระวางแล้ว ๒๐ ตัว แก่มูลนิธิวัดสวนแก้วหลวงพ่อพยอมเดินทางมารับด้วยตัวเอง ยังจำบรรยากาศวันนั้นได้ดี นิสิตรายวิชาพุทธธรรมที่ผมสอนนับร้อยคนร่วมเป็นพยานบุญครั้งนั้น
.
การช่วยกันบริจาคแด่มูลนิธิวัดสวนแก้ว ส่งผลดี… คนยากจนมีรายได้ คนไม่มีงาน มีงานทำ คนติดสาเสพย์ติด บรรเทายาเสพย์ติดได้ คนไม่มีที่อยู่อาศัย มีที่ซุกหัวนอน อย่าว่าแต่คนเลย สุนัขจรจัดพลัดเข้าไปในวัดสวนแก้วยังมีที่นอนมีที่กินอย่างอิ่มหมีพีมัน ทราบว่า มีคอนโดหมาอยู่ นัยว่าเป็นของประทานมา (หากข้อมูลไม่ถูกต้องต้องกราบขออภัย)
.
ด้วยความเสียสละเพื่อสังคมของท่าน สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชเจ้า วัดบวรนิเวศวิหาร จึงทรงพระเมตตาบริจาคเงินช่วยเหลือ ๑,๐๐๐,๐๐๐.๐๐ (หนึ่งล้านบาท) ถึงกับทำให้ท่านอุทานว่า ฟ้ามีตา พระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๙ ทรงพระกรุณาพระราชทานสมณศักดิ์เลื่อนชั้นจากพระธรรมดาให้เป็นเจ้าคุณ ไม่ต้องผ่านเป็นมหาพระครู เหมือนกับว่าให้ขึ้นลิฟต์ขึ้นตึกสูงเลย ด้วยเหตุผลว่าจะได้ทำงานได้มากขึ้นและเร็วขึ้น ไม่ต้องเสียเวลาขึ้นบันไดทีละขั้น
.
ท่านอดีตประธานองคมนตรี พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ ก็เคยรับกระแสพระราชดำรัสของ รัชกาลที่ ๙ ให้เข้ามาช่วยดูแลงานพัฒนาที่วัดของท่าน ซึ่งทัั้งหมดน่าจะเป็นความภูมิใจของคณะสงฆ์ไทยและชาวพุทธไทยได้ รวมทั้งของคนทั่วไปในสังคม
.
ท่านเป็นพระประเภท socially engaged คือสัมพันธ์กับสังคมมาก ทั้งยังเป็นที่พึ่งทางความคิดความเห็นของสังคมจึงอาจมีคำพูดที่พลาดได้ แต่ก็เชื่อว่าคงจะไม่ได้ออกมาจากเจตนาร้ายใด ๆ พระปุถุชนอย่างท่าน เมื่อเอาความดีกับความพลาดพลั้งทางคำพูด ที่อาจมีได้ แต่ไม่ถึงขั้นขาดจากความเป็นพระมาชั่งดูกันแล้ว ยัง ‘กราบไหว้ได้สนิทใจ’
.
ใครหรืองค์กรไหนจะยื่นฟ้องหรือสอบสวนท่านก็ให้ทำไป แต่ขอว่า‘ควรต้องเริ่มต้นสอบสวนด้วยพระธรรมวินัยก่อน จึงจะสอบสวนตามมาด้วยกระบวนการกฏหมายทางโลก เพราะพระธรรมวินัยเท่านั้นจึงจะชี้ขาดว่าท่านยังคงความเป็นพระหรือไม่’ สังคมไทยพุทธเป็นสังคมปัญญา อย่าปล่อยให้พระดีโดดเดี่ยว
.
เพจ:ข่าวเวิร์คพอยท์ https://www.facebook.com/NewsWorkpoin
ความเห็น 1