โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

แม่และเด็ก

เคล็ดลับปรับอารมณ์ตัวเอง: ในวันที่รู้สึกว่าการเลี้ยงลูกเชิงบวก ไม่ใช่เรื่องง่าย

Mood of the Motherhood

เผยแพร่ 17 พ.ค. 2565 เวลา 16.44 น. • Features

คุณพ่อคุณแม่รุ่นใหม่ส่วนมากมักจะมีความตั้งใจอยากเป็นพ่อแม่ที่ เลี้ยงลูกเชิงบวก อ่อนโยนแต่ไม่ใจอ่อน ให้อิสระแต่ก็อยู่ในขอบเขต ตักเตือนแต่ไม่ใช้น้ำเสียงดุดัน หรือมีบทลงโทษ แต่ไม่ใช้ความรุนแรง แต่หลายครั้งความตั้งใจดีๆ ของคุณพ่อคุณแม่ก็ไม่เป็นผล หรือการเลี้ยงลูกเชิงบวกจะไม่ง่ายอย่างที่คิดJen Lumanlan ผู้เชี่ยวชาญด้านจิตวิทยาและพัฒนาการเด็ก และเป็นผู้จัดรายการพอดแคสต์ Your Parenting Mojo ในแคลิฟอร์เนีย กล่าวว่า เมื่อให้กลุ่มผู้ปกครองที่ฟังรายการ อธิบายความรู้สึกก่อนและหลังเลี้ยงลูกเชิงบวก ส่วนใหญ่ต่างงต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ‘หมดแรง’ เหตุผลสำคัญที่ทำให้ผู้ปกครองรู้สึกว่าการเลี้ยงลูกเชิงบวกไม่ใช่เรื่องง่ายนั้น Petal Modeste คุณแม่ลูกสองผู้เชี่ยวชาญด้านการเลี้ยงลูก และดูแลรายการพอดแคสต์ Parenting in the Future อธิบายว่า การเลี้ยงลูกเชิงบวกต้องใช้เวลา และความทุ่มเทเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะเวลาที่ลูกไม่เชื่อฟัง เป็นช่วงเวลาที่คุณพ่อคุณแม่ต้องใช้ความสงบ สยบพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมของลูก และยังต้องควบคุมอารมณ์ของตัวเอง ในช่วงเวลาที่กำลังอดทน ก็ต้องเรียบเรียงคำพูด เพื่อประนีประนอมกับลูกให้ได้มากที่สุดส่วนมอนสเตอร์น้อยวัย 2-3 ขวบก็กำลังทดสอบอารมณ์ของคุณพ่อคุณแม่ด้วยการต่อต้าน หรือส่งเสียงกรี๊ดด้วยความไม่พอใจไปพร้อมๆ กัน นี่คือบททดสอบที่ทำให้คุณพ่อคุณแม่รู้สึกว่า ‘ผ่านไปได้ยาก’ แต่ในทุกความยาก มีผลลัพธ์ที่ดีต่อลูก รออยู่ปลายทางเสมอและเมื่อไหร่ก็ตามที่เริ่มรู้สึกท้อแท้ นี่คือ ‘กุญแจ’ ที่ช่วยปรับความรู้สึกของคุณพ่อคุณแม่ ให้กลับมามั่นใจในแนวทางการเลี้ยงลูกเชิงบวกอีกครั้ง1. ทบทวนตัวเองและทำความเข้าใจลูก

ทางออกที่ดีที่สุดของคุณพ่อคุณแม่คือ การกลับมาทบทวนพฤติกรรมของตัวเอง เช่น ทำผิดพลาดต่อลูกเรื่องใดบ้าง ทำอะไรเกินกว่าเหตุหรือไม่ เวลาโกรธหรือไม่พอใจลูก เรามีสีหน้า แววตา และท่าทางอย่างไรหลังจากทบทวนและมองเห็นตัวเองแล้ว อย่าลืมมองและทำความเข้าใจธรรมชาติของลูกน้อยที่กำลังเติบโตและเรียนรู้โลกใบใหญ่ในแบบของตัวเอง เพราะไม่ใช่แค่คุณพ่อคุณแม่ที่อยากเรียนรู้การเป็นพ่อแม่ที่ดี ลูกเองก็กำลังพยายามที่จะเป็นเด็กดีของคุณพ่อคุณแม่ไม่ต่างกัน2. ตั้งสติ และเตือนตัวเองให้ช้าลง

บางครั้งคุณพ่อคุณแม่อารู้สึกว่ากำลังถูกลูกท้าทายความอดทนอดกลั้นเต็มที่ อะไรที่เคยบอกเคยห้าม ลูกก็ยังทำซ้ำเหมือนต้องการให้คุณพ่อคุณแม่โมโหและระเบิดออกมาให้ได้Danielle Sullivan โค้ชการเลี้ยงลูกและผู้ดำเนินรายการพอดแคสต์ Neurodiverging ในรัฐโคโลราโด ให้คำแนะนำที่เรียบง่ายแต่ผลกับพ่อแม่ที่พยายามจะเลี้ยงลูกด้วยความใจเย็นว่า ขั้นตอนแรกคือ ตั้งสติ และทำทุกอย่างให้ช้าลง ค่อยๆ สูดหายใจให้ลึกจนท้องป่อง แล้วหายใจออกจนท้องแฟ่บ ย่อตัวลงให้เท่ากับลูก พูดคุย และตักเตือนลูกด้วยน้ำเสียงที่เป็นกลาง ให้เวลาลูกได้ประมวลผลจากคำถาม แล้วฟังคำตอบจากลูกด้วยความอดทน พยายามเข้าใจ และค่อยๆ ผ่านสถานการณ์นั้นไปอย่างสงบ3. ‘ปล่อย’ ความคาดหวัง และ ‘วาง’ ใจในตัวลูก

การเลี้ยงลูกก็เหมือนเรื่องอื่นๆ ในชีวิต บางวันอาจจะทำได้ดี บางวันอาจจะผิดพลาดไปบ้างก็เป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้นได้ แม้แต่ลูกเองก็เช่นกัน บางวันลูกอาจเด็กที่ว่านอนสอนง่าย บางวันก็เกเรและดื้อรั้นเป็นมอนสเตอร์หากเข้าใจธรรมชาติของลูกและการเป็นพ่อแม่แล้ว คุณพ่อคุณแม่จะสามารถปล่อยวางจากความคาดหวังในตัวเองและไว้วางใจในตัวลูกมากขึ้นDr. Emily Edlynn นักจิตวิทยาคลินิกในรัฐอิลลินอยส์ ผู้เขียนคอลัมน์แนะนำการเลี้ยงดู 'Ask Your Mom' ชี้ให้เห็นว่า การเลี้ยงลูกแบบอิสระอย่างเหมาะสม จะช่วยให้เด็กๆ เกิดความมั่นใจในตัวเอง คิดเป็น สามารถดูแลและพึ่งพาตัวเองได้ดี ขอเพียงแค่คุณพ่อคุณแม่ปล่อยวางให้เป็น ใจเย็นให้ได้ ฟังลูกให้มากขึ้น สั่งการให้น้อยลง และมอบอิสระที่เหมาะสมให้กับลูก เมื่อนั้นการเลี้ยงลูกเชิงบวกก็ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป4. โอบกอด บอกรักตัวเองและลูกให้นานขึ้น

การกอดและบอกรัก คือการแสดงความรักที่ดีที่สุด สามารถใช้ได้กับทุกคนในครอบครัวและทุกสถานการณ์ อ้อมกอดของคุณแม่คือพื้นที่ปลอดภัยที่สุดของลูก ส่วนอ้อมกอดจิ๋วๆ ของลูก ก็เป็นพลังงานสำรองที่ยอดเยี่ยมให้กับคุณพ่อคุณแม่ อ้อมกอดของคุณพ่อก็อบอุ่นเสมอ ในวันที่คุณแม่อ่อนล้า การบอกรักกันจากคนในครอบครัวก็ช่วยมอบพลังงานเชิงบวกให้คุณพ่อคุณแม่ผ่านพ้นวันวุ่นๆ ของการเลี้ยงลูกไปได้ด้วยดี อ้างอิงparentsgisellebaumetmother.lyparents

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0