โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ธรรมะ

สมุดข่อย - อนุรักษ์พระไตรปิฎกใบลาน (MPSC)

LINE TODAY SHOWCASE

เผยแพร่ 17 พ.ค. 2565 เวลา 06.39 น. • อนุรักษ์พระไตรปิฎกใบลาน(MPSC)

บทกลอนพรรณนาถึงความงดงามของสมุดข่อย ที่บรรพบุรุษไทยได้สร้างสรรค์ด้วยความศรัทธาไว้เป็นมรดกของแผ่นดิน ทุกอักขระ เส้นสายและลายสีที่ปรากฏล้วนเปี่ยมไปด้วยความวิจิตรบรรจง ล้ำค่าในงานพระศาสน์และทรงคุณค่าด้วยความงามแห่งศิลป์ที่งดงามชิ้นหนึ่งของโลก เป็นอีกหนึ่งความภาคภูมิใจในวิจิตรศิลป์ไทยที่มีมาช้านาน

สมุดข่อยเรียกอีกอย่างว่า สมุดไทย ฉบับเก่าแก่ที่สุดที่ยังปรากฏหลักฐานทางกายภาพ คือ พงศาวดารกรุงศรีอยุธยา ฉบับหลวงประเสริฐอักษรนิติ์ สร้างในปี พ.ศ. 2223 สมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช เป็นสมุดไทยดำ เขียนด้วยหมึกสีเหลืองทำจากหรดาล

ปัจจุบันเก็บรักษาไว้ที่ งานบริการหนังสือภาษาโบราณ กองหอสมุดแห่งชาติ เป็นเอกสารที่ล้ำค่าด้านประวัติศาสตร์ เนื้อหาบันทึกเหตุกาณ์ตั้งแต่แรกสถาปนากรุงศรีอยุธยาในแผ่นดินสมเด็จพระรามาธิบดีที่ 1 (พระเจ้าอู่ทอง) จนถึงเหตุการณ์สมัยสมเด็จพระนเรศวรมหาราช

สันนิษฐานกันว่าบรรพชนไทยน่าจะรู้จักการนำเยื่อของต้นข่อยมาทำเป็นกระดาษเพื่อใช้บันทึกเรื่องราวและเหตุการณ์ที่สำคัญมาตั้งแต่ก่อนสมัยอยุธยาตอนกลาง ดังปรากฏข้อความตอนหนึ่งที่มองซิเออร์ เดอ ลา ลูแบร์ ราชทูตฝรั่งเศส ที่เข้ามายังราชสำนักกรุงศรีอยุธยาในรัชสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ได้บันทึกไว้ในหนังสือราชอาณาจักรสยามตอนหนึ่งว่า

“ชาวสยามทำกระดาษจากผ้าฝ้ายเก่า ๆ และยังทำจากเปลือกต้นไม้ชนิดหนึ่งชื่อต้น ข่อย (Ton Coe) อีกด้วย ซึ่งต้องนำมาบดย่อยให้ละเอียด เช่นอย่างย่อยผ้าขี้ริ้ว แต่กระดาษเหล่านี้มีความหนาบางไม่สม่ำเสมอ ทั้งเนื้อกระดาษและความขาวผ่องก็หย่อนกว่าเรา…”

กระดาษสมุดข่อยทำจากเปลือกของต้นข่อยที่นำไปแช่น้ำให้เปื่อย ฉีกเป็นฝอย แล้วนึ่งให้สุก จากนั้นหมักด้วยน้ำปูนขาวจนเปลือกข่อยยุ่ย ทับไล่น้ำจนแห้งสนิทก่อนนำไปทุบให้ละเอียด จึงจะได้เยื่อข่อยที่สามารถนำไปหล่อขึ้นรูปเป็นกระดาษได้ นำไปตากให้แห้ง

ตามด้วยการทาด้วยแป้งเปียกผสมน้ำปูนขาว จะได้กระดาษสีขาวตามธรรมชาติ เรียกว่า ‘สมุดไทยขาว’ หากทาด้วยแป้งเปียกผสมเขม่าไฟหรือถ่านบดละเอียดจะได้กระดาษสีดำ เรียกว่า ‘สมุดไทยดำ’ เมื่อตากแดดจนแห้งสนิทแล้วจะได้กระดาษแผ่นใหญ่ นำกระดาษแต่ละแผ่นมาต่อกันด้วยแป้งเปียกจนเป็นแผ่นยาว พับทบกลับไปกลับมาเป็นเล่มสมุด เวลาเปิดต้องเปิดจากด้านล่างขึ้นไปด้านบน

แต่เดิมสมุดไทยมีไว้สำหรับบันทึกหลักธรรมคำสอนในพระพุทธศาสนา ต่อมาจึงใช้บันทึกข้อมูลความรู้เกี่ยวกับวิทยาการด้านต่างๆ ซึ่งบรรพบุรุษไทยสร้างสรรค์ไว้เป็นมรดกทางวัฒนธรรมของชาติ

อุปกรณ์ที่ใช้เขียนบันทึกลงสมุดข่อยเป็นวัสดุจากธรรมชาติ ได้แก่ ปากไก่ ขนนก ดินสอและน้ำหมึก สำหรับสมุดไทยขาวจะเขียนด้วยน้ำหมึกสีดำที่ได้จากเขม่าไฟบดผสมกาวยางมะขวิด

ก่อนลงมือเขียนจะต้องขีดเส้นบรรทัดให้เป็นรอยโดยเว้นระยะช่องไฟให้เสมอกันตลอดทั้งเล่ม ส่วนใหญ่มี 3-4 บรรทัดต่อหน้า โดยเขียนอักษรใต้เส้นบรรทัด ไม่ได้เขียนเหนือเส้นบรรทัดอย่างปัจจุบัน

หากเป็นสมุดไทยดำจะเขียนด้วยหินดินสอหรือน้ำหมึกขาวที่ได้จาก ดินสอพองหรือเปลือกหอยมุกฝนละเอียด นอกจากนี้ยังมีสีแดงจากชาด สีเหลืองจากยางไม้และหราดาล (หินแร่) และสีทองจากทองคำเปลวที่ใช้เขียนได้ทั้งสมุดไทยขาวและสมุดไทยดำ

เนื่องจากสมุดไทยมีรูปลักษณ์ ขนาดกว้างยาว ความหนา และวัสดุที่นำมาเขียนหลากหลาย บางครั้งจึงเรียกสมุดไทยตามประโยชน์ใช้สอย ตัวอย่างการเรียกชื่อเล่มที่เกี่ยวเนื่องกับคติความเชื่อทางพระพุทธศาสนาและใช้ในพิธีกรรมต่าง ๆ เช่น สมุดพระอภิธรรมบันทึกบทสวดพระอภิธรรม 7 คัมภีร์ย่อ สำหรับพระภิกษุใช้สวดในงานศพ

สมุดสวดพระมาลัย บันทึกเรื่องราวที่ปรากฏในคัมภีร์ “มาลัยสูตร” เป็นพระสูตรนอกพระไตรปิฎก กล่าวถึงพระอรหันต์รูปหนึ่งที่มีฤทธิ์สามารถเดินทางไปนรก สวรรค์ และไปสนทนากับพระศรีอาริย์ได้ ในอดีตบทสวดพระมาลัยจะใช้สวดในงานมงคล เช่น งานแต่งงาน แต่ต่อมาใช้สวดในงานศพ

สมุดไตรภูมิพระร่วง บันทึกเรื่องราวนรกสวรรค์ ใช้สอนให้คนเข้าใจบาปบุญคุณโทษ หมั่นสร้างความดีและละเว้นจากการทำชั่ว สมุดไทยที่เกี่ยวเนื่องกับพระพุทธศาสนานี้มักมีภาพจิตรกรรรมประกอบที่งดงาม แสดงถึงความตั้งใจในการสร้างสรรค์ผลงานและความเคารพในพระรัตนตรัยของผู้สร้างถวาย

กว่าจะได้สมุดไทยสักเล่ม ต้องอาศัยความตั้งใจในการทำตั้งแต่การตัดเปลือกไม้มาทำกระดาษ การบันทึกเนื้อหาผ่านอักขระทุกตัว จนถึงการตกแต่งด้วยภาพประกอบประณีตศิลป์ไทย ก่อเกิดเป็นผลงานที่ทรงคุณค่าทั้งทางสรรพศาสตร์ที่บันทึกสืบต่อกันมาหลายยุคสมัย

และความงดงามของงานศิลป์ไทยที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ แม้วันนี้เส้นอักษรและลวดลายของสีหมึกที่แต่งแต้มอาจจะซีดจางไปบ้างตามกาลเวลา แต่ความภาคภูมิใจในอัจฉริยภาพของบรรพบุรุษไทยจะยังคงเด่นชัดไม่เปลี่ยนแปลง

-----

ลิขสิทธิ์

กลุ่มอนุรักษ์และศึกษาคัมภีร์พระไตรปิฎกใบลาน (MPSC)

โครงการพระไตรปิฎกวิชาการ (DTP)

www.mps-center.in.th

0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0