โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

อย่าทำแบบนี้อีก! ผกก.เรียกคู่กรณีเตือน ปมรถชนอ้างรู้จักตร. คลิปว่อนโซเชียล

เดลินิวส์

อัพเดต 19 ธ.ค. 2567 เวลา 21.11 น. • เผยแพร่ 19 ธ.ค. 2567 เวลา 13.21 น. • เดลินิวส์
อย่าทำแบบนี้อีก! ผกก.เรียกคู่กรณีเตือน ปมรถชนอ้างรู้จักตร. คลิปว่อนโซเชียล
ผกก.สภ.บางเสาธง เรียกคู่กรณีรถเฉี่ยวชนทั้งต่างด้าว-คนไทยโต้เถียงกันที่จ.สมุทรปราการ หลังคลิปว่อนโซเชียลปมอ้างรู้จักตำรวจอาจทำให้เสียหาย

เมื่อวันที่ 19 ธ.ค. จากกรณีผู้ใช้ติ๊กต็อกท่านหนึ่งได้โพสต์คลิปวิดีโอที่มีการยืนพูดคุยกันถึงเหตุการณ์รถชนแล้วมีการพูดถึงตำรวจ พร้อมระบุข้อความว่า กุ้ง สป.100% จะเลี้ยวไม่เปิดไฟเลี้ยว คุยใหญ่โต เพื่อนผมเบรกไม่ทันก็ดันสิครับ นี่เราอยู่ในยุคที่ต่างด้าวสามารถโทรหา ตร.ชั้นผู้ใหญ่ มาข่มขู่คนไทยแล้วเหรอครับ จะอวดเบ่งที่ไหนก็ได้ แต่ต้องไม่ใช่ที่สมุทรปราการ โชคดีนะที่เจ๊ เจอเพื่อนผม ถ้าเจอผม “สวยแน่” “สมุทรปราการบ้านเรา” หลังโพสต์ดังกล่าวได้ถูกเผยแพร่ออกไปทำให้มีผู้คนเข้ามาคอนเมนต์กันเป็นจำนวนมาก

ล่าสุด พ.ต.อ.โสภณ มงคลโสภณรัตน์ ผกก.สภ.บางเสาธง พ.ต.ท.ชนสิทธิ์ เด็ดดวง รอง ผกก.สส.สภ.บางเสาธง พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน ได้เชิญตัว นาง MYAT LIN อายุ 53 ปี ชาวเมียนมา หญิงที่อยู่ในคลิป นายสัญญา อายุ 38 ปี คนที่ถ่ายคลิป และเจ้าของเพจ กุ้ง สป.100% คนที่โพสต์คลิปดังกล่าว และคู่กรณีทั้งสองฝ่ายมาพบเพื่อสอบถามถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทั้งสองฝ่ายยืนยันว่าเรื่องอุบัติเหตุได้ตกลงกันได้ตั้งแต่วันเกิดเหตุก็คือวันที่ 20 พ.ย. ที่บริเวณถนนซอยหมู่บ้านไทยประกัน ม.1 ต.บางเสาธง อ.บางเสาธง จ.สมุทรปราการ

พี่มีคนดูแล! ‘ต่างด้าว’ รถชนแล้วเบ่ง ไม่เรียกประกันแต่โทรฯหา สารวัตร-ชุดสืบ?

ส่วนที่ปรากฏว่าคลิปวีดีโอ มีการกล่าวอ้างถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางเสาธง ทั้งสองฝ่ายยอมรับว่า ณ เวลาที่เกิดเหตุนั้นได้โต้เถียงกันจนเกิดความโมโหจึงได้อ้างว่าตนเองรู้จักเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางเสาธง แต่ในความเป็นจริงทั้งสองฝ่ายไม่รู้จักกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางเสาธง แต่อย่างใด ทาง ผกก. จึงได้แนะนำและตักเตือนว่า การกล่าวอ้างเจ้าหน้าที่ตำรวจทำให้เกิดความเสียหาย อาจมีความผิดได้และหากมีการนำไปโพสต์ในสื่อโซเชียลในเรื่องที่ไม่เป็นความจริง อาจมีความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ซึ่งทั้งสองฝ่ายเข้าใจดีแล้ว และได้ขอโทษเจ้าหน้าที่ตำรวจ

นายสัญญา คนที่ถ่ายคลิป เล่าว่า เหตุการณ์วันนั้นคือขับรถตามกันมาตนก็ไม่คิดว่าเขาจะเลี้ยว ตนกำลังจะแซงขวาขึ้นจากนั้นเขาก็เลี้ยว ตนหักหลบแล้วเกิดการเฉี่ยวชนกัน จากนั้นได้คุยกันตนก็ให้เรียกตำรวจและประกันเพราะไม่รู้ว่าใครผิด ตนก็คิดว่าตนไม่ผิดเพราะตนไม่เห็นไฟเลี้ยวและตนก็ไม่ได้ขับจี้ ตนไม่คิดว่าเขาจะเลี้ยวตนเลยจะแซงขวาก็เลยเกิดเหตุ บทสนทนาในคลิปเป็นการโต้เถียงกัน ต่างฝ่ายต่างใช้อารมณ์และเข้าใจผิดกัน หลังจากเคลียร์จบก็แยกย้าย ตนยังเป็นห่วงยังวนมาถามเขาว่า เรียกประกันหรือยัง เพราะถ้าจะให้ตนจ่ายเงินสดตนไม่มี ตนคิดว่าประกันจะมาเรียกเก็บจากตนเอง ผลสุดท้ายยังไม่มีประกันมา

พ.ต.อ.โสภณ มงคลโสภณรัตน์ ผกก.สภ.บางเสาธง กล่าวว่า เรื่องนี้เกิดขึ้นมาระยะหนึ่งแล้ว เป็นเรื่องอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นสองฝ่าย เป็นอุบัติเหตุเล็กๆ น้อยๆ ไม่มีคนเจ็บ หลังเกิดเหตุทั้งสองฝ่ายได้พูดคุยเจรจากัน แล้วเกิดอารมณ์โต้เถียงกันและเกิดการอ้างถึงคนนั้น คนนี้ เพื่อสร้างเครดิตให้กับตัวเอง เลยเกิดเป็นประเด็นขึ้นมา ในวันนั้นหลังจากโต้เถียงทั้งสองฝ่ายก็ตกลงกันได้ หลังจากนั้นมีปรากฏอยู่ในสื่อโซเชียลขึ้นมาเลยต้องเชิญทั้งสองฝ่ายมาพูดคุยว่ามันเกิดอะไรขึ้น ทำไมต้องอ้างถึงเจ้าหน้าที่ เพราะจะทำให้เกิดความเสียหายกับบุคคลที่ไม่เข้าใจ คิดว่ามีเจ้าหน้าที่อยู่เบื้องหลังหรือเปล่า วันนี้จึงได้เชิญทั้งสองฝ่ายมาพูดคุย และได้บอกว่าวันนั้นเกิดการโต้เถียงและได้อ้างขึ้นมา แต่ที่จริงแล้วไม่มีอะไร อยากฝากถึงคนที่ชอบอ้างถึงเจ้าหน้าที่ ถ้าใครเอาไปอ้างโดยไม่รับผิดชอบและไม่เป็นความจริง และก่อให้เกิดความเสียหาย มีโทษทางอาญา อาจจะเป็นเรื่องของหมิ่นประมาท และการนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ โดยที่ไม่ถูกต้อง อาจถูกดำเนินคดีได้

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0