"อนุทิน" ลั่นแคนดิเดตนายกฯ ภท. คือหนึ่งเดียวคนนี้

"อนุทิน" ลั่นแคนดิเดตนายกฯ ภท. คือหนึ่งเดียวคนนี้ ย้อน พท. ใครออกจากพรรค ทำได้แต่อวยพร ขอบคุณโพลชมดูแล อสม. บอกเป็นกำลังใจ

เมื่อวันที่ 19 ธ.ค. 2565 เมื่อเวลา 11.30 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงกรณีโฆษกพรรคภูมิใจไทย ระบุว่า จะมีส.ส.ทยอยมาเปิดตัวกับพรรคนั้นสรุปจำนวนจะเป็นเท่าไหร่ว่า มีความเป็นไปได้ว่าจะมีเข้ามาแต่ไม่สามารถบอกจำนวนได้ จะทราบจำนวนก็ต่อเมื่อตนลงนามรับรองการสมัครถึงจะรู้ และยืนยันการเลือกตั้งครั้งหน้าจะส่ง ส.ส. 400 เขต เพราะเราต้องการ ส.ส. เขต และ ส.ส.บัญชีรายชื่อด้วย เมื่อถามว่า แคนดิเดตนายกฯ ของพรรคภูมิใจไทยคือหัวหน้าพรรคคนเดียวใช่หรือไม่ นายอนุทินย้อนถามสื่อฯว่า "ยังไม่ชัดอีกหรือ ชัดมา 5 ปีแล้ว หนึ่งเดียวคนนี้แหละครับ หนึ่งเดียวด้วยนะ ไม่มี 3 คน ถ้าจะไม่ให้ผมเป็นแคนดิเดตนายกฯ พรรคภูมิใจไทยก็ต้องเปลี่ยนหัวหน้าพรรคจากผม หากใครยังไม่รู้เรื่องแปลว่าไม่ได้ติดตามข่าว ไม่ใช่คอการเมืองแล้วอย่างนั้น" หัวหน้าพรรคภูมิใจไทยกล่าว

เมื่อถามว่าจากเดิมพรรคภูมิใจไทยตั้ง ส.ส. 120 คน ภายหลังมี อดีต ส.ส. เข้ามาเป้าหมาย ส.ส.จะสูงขึ้นอีกหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ใครไปบอกว่าเราวางเป้าไว้ 120 คน ตามข่าวที่ออกมาก็พูดกันไป สำหรับเราได้เท่าไหร่ก็เท่านั้น เพราะคนตัดสินไม่ใช่ตัวเรา เราทำได้เพียงได้แต่นำเสนอ หากประชาชนไว้ใจจะเป็นผู้ตัดสิน อนาคตของพรรค เมื่อถามถึงพรรคเพื่อไทย ระบุว่าอดีตส.ส.ที่ย้ายมาพรรคภูมิใจไทยได้เป็นส.ส.เพราะกระแสของพรรคเพื่อไทย ซึ่งคะแนนดังกล่าวจะไม่ย้ายตามตัวบุคคลมาด้วย คิดว่าอดีตส.ส.ที่ย้ายมาจะได้เป็นส.ส.รอบหน้าสักกี่คน นายอนุทิน กล่าวว่า ใครจะไปไหนมาไหนเป็นความสมัครใจของเจ้าตัว มีคนออกจากพรรคภูมิใจไทยเยอะแยะไป สมัยก่อนมีคนออกจากพรรคภูมิใจไทยไปพรรคเพื่อไทยไม่รู้ตั้งเท่าไหร่ เราได้อวยพรให้เขาไปดี ตนคงไม่ไปพูดบั่นทอนกำลังใจใครจะมาใครจะไปต้องเคารพการตัดสินใจของบุคคลเหล่านั้นเพราะเป็นส.ส.เป็นผู้สมัครส.ส.แต่ละคนมีวุฒิภาวะ ใครจะมาพรรคภูมิใจไทย เราก็ยินดีต้อนรับ คนที่ไปเราก็อวยพรให้เขาไปได้ดี ขออย่างเดียวให้ทำความเจริญแก่บ้านเมือง

เมื่อถามถึงกล่าวถึงกรณีซูเปอร์โพลเผยผลสำรวจที่สุดภาพจําของประชาชนต่อพรรคการเมือง ว่าพรรค ภท. โดดเด่นในเรื่องเรื่องบริหารจัดการวัคซีน ดูแลบุคลากรการแพทย์ อสม. และปกป้องเสาหลักของชาติมากที่สุด ว่า การทําการเมืองต้องยึดถือจากทุกๆด้าน ผลโพลก็ดี ถือเป็นกําลังใจ และเป็นแนวทางว่าประชาชนให้ความเชื่อถือพรรคในด้านนี้มากเป็นพิเศษ ด้านไหนที่ประชาชนยังไม่ได้ให้ความเชื่อถือก็ไปแก้ไข แต่เราไม่ได้ยึดถือโพลในการที่จะบอกว่าโพลดีแล้ว ไม่ต้องทำอะไรแล้ว เรายังคงต้องลงพื้นที่อย่างต่อเนื่อง มีทีมยุทธศาสตร์วางนโยบาย อย่างนโยบายเศรษฐกิจภาพรวมมหภาคของพรรคยังไม่ปัง ก็ต้องมาคิดว่าจะทำอย่างไร เมื่อถามว่า มีบางโพลที่สนับสนุนให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และ รมว.กลาโหม ยุบสภา เพราะตอนนี้ ส.ส. มาประชุมสภากันน้อย องค์ประชุมล่มบ่อย นายอนุทิน กล่าวว่า เรื่องยุบสภาเป็นเรื่องของนายกฯ ตนคงไม่ไปก้าวก่าย เราก็เตรียมความพร้อมของเรา เพราะไม่ว่าอย่างไร วาระของสภาสมัยนี้ก็จบสิ้น 23 มี.ค. 2566 งานอะไรที่ค้างคาอยู่ ก็ต้องผลักดันออกไปให้หมด โดยเฉพาะหลายๆโครงการที่เป็นประโยชน์ต่อบ้านเมือง และประชาชน เพราะพอมาเป็นรัฐบาลรักษาการ อาจทำอะไรไม่ได้มาก ขณะเดียวกัน เราก็ต้องแบ่งเวลาในการลงพื้นที่ช่วยสมาชิกปราศรัยหาเสียง เยี่ยมเยียนประชาชน ซึ่งน่าจะเป็นเวลา 3 เดือนที่น้อยมาก