จากกรณีคุณยายดวงพรวัย 84 ปี รายหนึ่งได้มาร้องเรียนทางช่อง 3 หลัง ได้นำสมุดบัญชีไปอัพเดท ปรากฏว่าพนักงานธนาคารกลับบอกว่าสมุดบัญชีเก่าแล้วจึงได้แนะนำให้คุณยายทำการโอนย้ายดอกเบี้ยไปอีกบัญชีหนึ่ง และได้บอกว่าเงินต้นทั้งหมดจะยังอยู่คงเดิม แต่ผลสุดท้ายเงินในบัญชีกลับหายไปกว่า 1,200,000 บาท ซึ่งเงินทั้งหมดนั้นเป็นเงินที่คุณยายเก็บออมมาทั้งชีวิต พอทราบว่าเงินหายไปจึงได้ไปติดต่อที่ธนาคารสาขาเดิม ปรากฏว่าทางธนาคารแจ้งว่ามีการเซ็นชื่อถอนเงินไป แต่คุณยายจำได้และยืนยันว่าวันนั้นไม่มีการถอนเงินออกมาแต่อย่างใด ล่าสุดทางธนาคารกรุงไทยได้ส่งหนังสือมาชี้แจงข้อเท็จจริง ระบุว่า ลูกค้ารายนี้ได้เปิดบัญชีเงินฝากประจำ จำนวนเงิน 1,200,000 บาท ระยะเวลาฝาก 9 เดือน เมื่อวันที่ 5 เม.ย. 2556 และได้รับดอกเบี้ยเข้าบัญชีออมทรัพย์ทุกเดือน เมื่อครบกำหนดระยะเวลาฝาก 9 เดือน ธนาคารได้โอนเงินต้นเข้าบัญชีออมทรัพย์ของลูกค้าโดยระบบอัตโนมัติ เมื่อวันที่ 5 ม.ค. 2557 ในส่วนของจำนวนเงิน 70,000 บาท ที่ลูกค้ากล่าวถึงนั้น ฝากอยู่ในบัญชีออมทรัพย์ของลูกค้าตามปกติ ไม่ได้เคลื่อนย้ายบัญชีและไม่ได้สูญหายแต่อย่างใด ทั้งนี้ในช่วงที่ผ่านมาลูกค้ารายนี้ได้เคยไปร้องเรียนที่ธนาคารแห่งประเทศไทย และเดินทางมาร้องเรียนที่ธนาคารกรุงไทย สำนักงานใหญ่ รวมทั้งที่สาขาและสำนักงานเขตของธนาคารเป็นจำนวนหลายสิบครั้ง ว่าเงินในบัญชีสูญหายไป ซึ่งธนาคารได้ทำหนังสือรายงานข้อเท็จจริงกับธนาคารแห่งประเทศไทย และได้ชี้แจง แสดงหลักฐานทั้งหมดให้ลูกค้ารายนี้ รวมทั้งบุตรชาย บุตรสาว ญาติและผู้ติดตามไปแล้วหลายครั้ง ซึ่งบุตรชาย บุตรสาว ญาติและผู้ติดตาม รับทราบเข้าใจและไม่ได้ติดใจใดๆทั้งสิ้น อย่างไรก็ตามลูกค้าผุ้สูงอายุรายนี้ยังคงมีความเข้าใจผิดว่า เงินในบัญชีสูญหายไปมาโดยตลอด รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/LMOT79fo8ow