โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

บันเทิง

อี๊ด ดวงใจ คุณแม่พลังบวก รับ! ความหลากหลายทางเพศ ลูกชอบใครยินดีเสมอ

The Bangkok Insight

อัพเดต 13 ส.ค. 2566 เวลา 05.23 น. • เผยแพร่ 13 ส.ค. 2566 เวลา 05.23 น. • The Bangkok Insight
อี๊ด ดวงใจ คุณแม่พลังบวก รับ! ความหลากหลายทางเพศ ลูกชอบใครยินดีเสมอ

อี๊ด ดวงใจ คุณแม่พลังบวก รับ! ความหลากหลายทางเพศ ลูกชอบใครยินดีเสมอ เปิดใจเล่าชีวิตวงการบันเทิงและการเลี้ยงลูกอย่างเป็นธรรมชาติ ในรายการ WOODY FM

อีกหนึ่งนักแสดงระดับตำนาน สำหรับแม่อี๊ด ดวงใจ หทัยกาญจน์ ที่โลดแล่นอยู่ในวงการบันเทิงอย่างยาวนานกว่า 50 ปี ได้โชว์ฝีมือการแสดงมาแล้วแทบทุกบทบาท ไม่ว่าจะเป็นในละคร ภาพยนตร์ ละครสั้น ได้รับรางวัลต่าง ๆ มาอย่างมากมาย เรียกได้ว่าเป็นนักแสดงอีกหนึ่งคนที่มีความสามารถอัดแน่นเต็มไปหมด

อี๊ด ดวงใจ คุณแม่พลังบวก รับ! ความหลากหลายทางเพศ ลูกชอบใครยินดีเสมอ

ล่าสุด แม่อี๊ด ได้มา เปิดใจเล่าชีวิตวงการบันเทิงและการเลี้ยงลูกอย่างเป็นธรรมชาติ ยอมรับความหลากหลายทางเพศ เผยไม่ว่าลูกจะชอบเพศไหนหรือเป็นอะไร คนเป็นแม่ก็พร้อมจะยินดีสนับสนุนเสมอ และต้องเป็นคนแก่อย่างทระนง ในรายการ WOODY FM

แม่อี๊ดเข้าวงการมากี่ปีแล้วครับ?
50 กว่าปี แม่เข้าวงการตั้งแต่ปี 2514

ในสมัยนี้เราจะเห็นนักข่าวสัมภาษณ์คนสนใจเรื่องส่วนตัว สมัยก่อนเรื่องส่วนตัวเป็นยังไงบ้าง?
สมัยก่อนไม่ได้เลยต้องปิด แต่แม่อี๊ดเป็นดาราคนแรกที่แต่งงานอย่างเปิดเผย เพราะเรามองรุ่นพี่ที่เปิดเผยไม่ได้ น่าสงสารเขามาก รู้สึกว่าทำไมชีวิตรักมันถูกปิด ต้องแอบ ต้องซ่อน สมัยก่อนเขาคิดกันว่าถ้ามีคนรักแล้วเรตติ้งจะตก แต่แม่ก็ดร็อปลงไปนะหลังจากเข้าพิธีแต่งงาน แต่แม่ยอมรับได้ว่านี่แหละคือเปลี่ยน ถ้าไม่เปลี่ยนชีวิตเราจะแปลก เป็นสัจธรรมของชีวิต

แม่อยู่ในวงการบันเทิงไทยนานมาเห็นการเปลี่ยนแปลงอะไรที่เปลี่ยนไปอย่างชัดเจน?
พระเอกนางเอกไม่ต้องสวยไม่ต้องหล่อก็ได้ ความที่ไม่สวยไม่หล่อก็อีกน่าสนใจ ไม่ใช่คุณต้องตีโป่งตลอดเวลา ต้องใส่ขนตาปลอมตลอดเวลา แม่อี๊ดถึงยอมรับในการเปลี่ยนแปลง ยอมรับในเด็กรุ่นใหม่ได้ เพราะมันคือธรรมชาติ

ปีนี้แม่อายุเท่าไรครับ?
70 ปี

แม่มีลูกกี่คนครับ?
มีลูกชาย 2 คน แล้วก็มีลูกสาวที่อุ้มบุญ 1 คน

เท่าที่เห็นเด็กที่โตขึ้นมาที่เป็นลูกดาราไม่ใช่ทุกคน แต่หลายคนก็จะมีปมในการที่พ่อแม่มีชื่อเสียง ของแม่เป็นยังไง?
เลี้ยงอย่างธรรมชาติมาก ถ้าเปรียบเทียบนะ จะเป็นแม่ที่ประเภทเกรงใจลูก แต่จะทำตัวอย่างให้ลูกเห็น จะนึกอยู่เสมอว่าเราเป็นแม่เขาก็จริงแต่เราไม่ใช่เจ้าชีวิตของเขา อย่าไปยึดติดลูกจะเป็นอะไรยังไงก็ได้

เมื่อ ณ วันหนึ่งเมื่อลูกไปเจอใครก็ตามจะเป็นเพศเดียวกันหรือต่างเพศเป็นอะไรเป็นใครก็ได้แล้วลูกต้องแบ่งปันความรักหรือจะเอาคืนทั้งหมด แม่ก็ยินดี เราเป็นแม่แค่พลอยยินดีกับลูก แล้วก็อวยชัยให้ลูกไปครองคู่กันอย่างมีความสุข ยามสุขไม่ต้องนึกถึงแม่ก็ได้ แต่ถ้ายามทุกข์กลับมาหาแม่นะ

เมื่อกี้ที่แม่พูดถึงเรื่องเพศไม่ว่าจะเป็นเพศอะไรก็ตามแต่ แม่มองเรื่องนี้ยังไงเกี่ยวกับสังคมวันนี้ที่มีพ่อแม่หลายคนยังไม่ยอมรับที่ลูกเป็น LGBTQ+?

อยากให้คิดใหม่เถอะค่ะ แม่อี๊ดคิดว่าถ้าเรารักลูก เราต้องเปลี่ยนเพราะนั่นคือความสุขของเขา ให้เขาเลือกชีวิตของเขาเอง คลุมถุงชนสมัยก่อนก็หลายคู่แล้วก็อยู่กันไม่ยืด ขนาดสมัยนี้เริ่มต้นด้วยรักยังไม่ค่อยยืดเลย เพราะฉะนั้นให้เขาเลือกของเขาเอง เราพร้อมที่จะ Say Yes กับเขา ได้โปรดเปลี่ยนเถอะค่ะ

คิดว่าอะไรคือสิ่งที่ผู้ใหญ่กังวลในการที่ลูกจะชอบเพศเดียวกัน?
จริง ๆ แล้วไม่ใช่บรรทัดฐานเลย หลายคู่ที่เขาเลิกกับเพศตรงข้ามอยู่ด้วยกันไม่ยืด พอมาอยู่เพศเดียวกันไม่ว่าหญิงกับหญิง ชายกับชาย เขากลับมีความสุข ช่วยกันทำมาหากิน มีความสุข นั่นคือสิ่งที่เขามีส่วนช่วยให้สังคมสงบร่มเย็น ดีกว่าที่ชายหญิงคู่กันแล้วก็ตีกันทุกวันทะเลาะกันให้ลูกเห็นนั่นคือทำร้ายสังคม

ในหมู่ดาราสาว ๆ เขาก็จะมีแก๊งนั่นนี่กัน แก๊งแม่มีใครบ้างครับตอนนี้?
จะมี มี้ พิศมัย เป็นหัวหน้าแก๊ง แล้วก็มี จิ๋ม มยุรฉัตร, อาโย ทัศน์วรรณ, ก้อย ทาริกา, ติ๋ว อรสา ชื่อของแก๊งนี้มาจากงานแต่งงานของน้องจ๋า ยศสินี คือเขาให้แม่ ๆ มาเป็นคนกั้นประตูเป็นเถ้าแก่ให้ แล้วน้องจ๋าเขาก็ลงรูปถ่ายในโลกโซเชียล

วันนั้นแม่อี๊ดเดินทางกลับบ้านเชียงใหม่ ก็มีผู้ชายคนหนึ่งเขาก็ชมว่าตัวจริงยังสวยอยู่เลย เห็นรูปในงานแต่งงาน ก็เลยบอกเขาว่าเดี๋ยวนี้มีแก๊งนางฟ้า แต่นี่แก๊งแม่ของนางฟ้า ผู้ชายคนนั้นเขาก็เลยบอกว่าไม่ใช่นะคุณดวงใจ ต้องเป็นแก๊งนางพญา

การที่มีกัลยาณมิตร มีกลุ่มเพื่อนฝูงทำให้เรามีชีวิตชีวา?
ใช่ค่ะ เมื่อเราเกษียณ เรากลับต้องมีพลังมากกว่าตอนเป็นหนุ่มเป็นสาวอีก เราต้องเห็นสัจธรรมของชีวิต ไม่ใช่ปล่อยตัวเองแก่แล้วไม่ต้องทำอะไรหรอก ไม่ใช่ค่ะ แก่แล้วต้องเป็นคนแก่อย่างทระนง ไม่ต้องให้ลูกหลานมาพะเน้าพะนอ ไม่ต้องมากินข้าวกับแม่ก็ได้ ไม่ต้องให้ใครจูง ไม่ต้องมาขับรถให้แม่ ยิ่งแก่ตัวยิ่งเกษียณยิ่งต้องมีเมตตาไมตรีให้เพิ่มมากยิ่งขึ้น

อ่านข่าวเพิ่มเติม

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0

ความเห็น 0

ยังไม่มีความเห็น