โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

'หมอประสิทธิ์' แนะขอความร่วมมือจัดโซนนิ่ง-ใส่แมสก์ รับมือนักท่องเที่ยวจีนเข้าไทย

Khaosod

อัพเดต 30 ธ.ค. 2565 เวลา 07.43 น. • เผยแพร่ 30 ธ.ค. 2565 เวลา 07.29 น.
หมอประสิทธิ์

'หมอประสิทธิ์' แนะขอความร่วมมือจัดโซนนิ่ง-ใส่แมสก์ รับมือนักท่องเที่ยวจีนเข้าไทย ชี้ออกมาตรการล่วงหน้าเหมือนกีดกัน เชื่อพูดคุยกัน ดีกว่าตั้งข้อรังเกียจ

เมื่อวันที่ 30 ธ.ค.65 ศ.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา อดีตคณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล กล่าวถึงกรณีที่มีการคาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวชาวจีนเดินทางเข้าประเทศไทย หลังจากที่รัฐบาลจีนผ่อนคลายมาตรการเดินทางระหว่างประเทศ ว่า ขณะนี้ไทยเปิดประเทศ มีนักท่องเที่ยวจากหลายชาติเดินทางเข้ามา ไม่ว่าจะเป็นยุโรป หรือ ชาติอื่นๆ ก็พบการติดเชื้อโควิด-19 และเชื่อว่าปัจจุบันไทยมีเชื้อโควิดเกือบทุกสายพันธุ์

ส่วนทางการจีนที่มีนโยบายซีโร่โควิด (Zero Covid-19) ทำให้คนส่วนใหญ่ในประเทศจีน ติดเชื้อไม่มาก คนไม่มีภูมิคุ้มกัน การติดเชื้อธรรมชาติน้อย ทั้งนี้ เมื่อเปิดประเทศให้มีคนเดินทางก็เชื่อว่า หมุดหมายในการเดินทางของนักท่องเที่ยวจีน จะมีประเทศไทยเป็นหนึ่งในนั้น ด้วยอาหาร การบริการ วัฒนธรรมที่ใกล้เคียงกัน แต่เมื่อมีคนเข้ามา การจะไปตั้งข้อรังเกียจหรือเลือกปฏิบัติก็ไม่ได้ เพราะจีน ยุโรป ก็คนเหมือนกัน

ศ.นพ.ประสิทธิ์ กล่าวต่อว่า หากถามว่าการติดเชื้อจะเพิ่มขึ้นไหม คาดว่าการติดเชื้อจากนักท่องเที่ยวจะไม่แตกต่างกัน ทั้งนี้ ที่ผ่านมาไทยมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาจากหลายพื้นที่และส่วนใหญ่ของนักท่องเที่ยวไม่สวมหน้ากากอนามัย แต่พฤติกรรมของนักท่องเที่ยวต้องยอมรับว่าแตกต่างกัน โดยลักษณะของนักท่องเที่ยวจีน นิยมเดินทางเป็นกลุ่ม และมีความเฮฮา เสียงดัง

ดังนั้นอาจประชาสัมพันธ์ หรือจัดโซนพื้นที่ให้นั่งโดยเฉพาะ เชื่อว่าการพูดคุยด้วยดีจะเกิดความเข้าใจ ดีกว่าการตั้งข้อรังเกียจ และหากจะให้ตรวจเอทีเคในนักท่องเที่ยวจีนเท่านั้น ลองคิดดูว่าเมื่อคนจำนวนมากเข้ามาจะมีความยุ่งยากแค่ไหน และคำถามคือชาติอื่นจะไม่มีโอกาสแพร่เชื้อโควิดหรือ

การตัดสินใจออกมาตรการต่างๆ ทุกฝ่ายพยายามคำนึงถึงความสมดุล ระหว่างเศรษฐกิจกับสุขภาพที่ไม่ห่างกันมากนัก ซึ่งสิ่งที่คนไทยควรทำ คือ 1.การรับวัคซีนป้องกันโควิดในกลุ่มผู้ทำงานด้านบริการ ต้องได้ 4 เข็ม และหากระยะห่างของวัคซีนเกิน 4 เดือนก็ควรรับวัคซีนเข็มกระตุ้น และ 2.ยังคงต้องสวมหน้ากากอนามัย แม้ว่าขณะนี้คนไทยจะติดเชื้อไปแล้ว 70%

“การออกมาตรการล่วงหน้าก็เหมือนการกีดกัน หากยังกังวลกับพฤติกรรมของคนท่องเที่ยวที่เฮฮามากเกินไป ก็อาจใช้การพูดคุย เพราะรู้กันว่าขอความร่วมมือสวมหน้ากาก หากพูดคุยตะโกนเสียงดัง เพื่อป้องกันการแพร่เชื้อ เพราะขณะนี้ทั่วโลก ต่างรู้กันว่าการใส่หน้ากากอนามัยเป็นคำแนะนำ แต่ไม่ได้บังคับ

ขณะเดียวกันสถานการณ์โควิดของไทย พบว่าอัตราผู้ป่วยปอดอักเสบคงที่ ก็ถือว่าเป็นแนวโน้มที่ดี ไม่เหมือนในอดีตที่คนกังวล เพราะตอนนั้นเมื่อหลายปีก่อน ยังไม่มีทั้งวัคซีน และยารักษาโควิด” ศ.นพ.ประสิทธิ์ กล่าว

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0