โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

อสังหาริมทรัพย์

5 วิธีเลือกเอเจนต์อย่างไรให้ได้คนที่น่าเชื่อถือ

DDproperty

เผยแพร่ 30 พ.ย. 2565 เวลา 18.57 น.
5 วิธีเลือกเอเจนต์อย่างไรให้ได้คนที่น่าเชื่อถือ
5 วิธีเลือกเอเจนต์อย่างไรให้ได้คนที่น่าเชื่อถือ

ผู้ที่กำลังจะใช้บริการเอเจนต์หรือนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ แต่ไม่แน่ใจว่าจะเลือกอย่างไรดี เพราะเอเจนต์ในปัจจุบันนั้นใครก็เป็นได้ แต่ใครจะเป็นคนที่เก่ง และเชื่อถือได้ เพื่อจะช่วยให้คุณขาย หรือปล่อยเช่าได้อย่างรวดเร็ว และมั่นใจได้ว่าจะได้รับบริการที่ดี และซื่อตรง ลองมาดู 5 วิธีเลือกเอเจนต์อย่างไรให้ได้คนที่เชื่อถือได้

เลือกเอเจนต์อย่างไรให้ได้คนที่น่าเชื่อถือ

1. เลือกเอเจนต์ที่มีการยืนยันตัวตนและการรับรอง

สำหรับผู้ที่กำลังใช้บริการเอเจนต์แต่ไม่แน่ใจว่าจะเลือกอย่างไรดี ทาง DDproperty มองเห็นถึงความสำคัญในการส่งมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้กับผู้ที่ต้องการผู้ช่วยสำคัญอย่างเอเจนต์ ไม่ว่าจะเป็นการซื้อ-ขาย-เช่า จึงได้ริเริ่มโครงการ “การยืนยันตัวตนเอเจนต์ (Agent Verification)” และ “การรับรองเอเจนท์ (Agent Certification)” เพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือและความเป็นมืออาชีพให้กับเอเจนต์

Agent Verification และ Agent Certification คืออะไร

Agent Verification และ Agent Certification คือ โปรแกรมการยืนยันตัวตนและการรับรองเอเจนต์ ซึ่งจะช่วยเพิ่มความน่าเชื่อและความเป็นมืออาชีพให้กับเอเจนต์ โดยแบ่งเป็น

Agent Verification ช่วยให้แพลตฟอร์มของเรามีความน่าเชื่อถือและปลอดภัยมากขึ้น เราจึงให้เอเจนต์ลงทะเบียนยืนยันตัวตนและแสดงข้อมูลการติดต่อ โดยใช้หลักฐานดังนี้

  • เอกสารทางราชการที่มีรูปถ่าย เช่น บัตรประชาชนหรือพาสปอร์ต พร้อมถ่ายหน้าเอเจนต์และบัตรประชาชนเพื่อยืนยันตัวตน
  • Line ID
  • เบอร์โทรศัพท์
  • อีเมล

AAgent Certification คือการรับรองให้กับเอเจนต์ที่มีความน่าเชื่อถือ น่าไว้วางใจ มีความเป็นมืออาชีพและเชี่ยวชาญในธุรกิจอย่างดีเยี่ยม โดยเอเจนต์จะต้องแสดงหลักฐานว่าเป็นผู้ที่มีผลงานต่อเนื่องจากการขายหรือปล่อยเช่าอสังหาฯ จำนวน 3 แห่งในระยะเวลา 12 เดือนที่ผ่านมา หรือผ่านการอบรมพัฒนาทักษะจากหลักสูตรและสถาบันที่ DDproperty ให้การรับรอง

ทั้งหมดนี้จะทำให้คุณมั่นใจได้ว่าเอเจนต์บนเว็บไซต์ DDproperty ที่ผ่านการลงทะเบียนโปรแกรมดังกล่าวข้างต้น มีความน่าเชื่อถือและมีความรู้ ความสามารถในการที่จะช่วยให้คุณซื้อ-ขาย-เช่าได้อย่างมั่นใจ

2. มีความรู้เกี่ยวกับทำเลและประเภทอสังหาฯ

เอเจนต์หรือนายหน้าจำนวนมากมีความเชี่ยวชาญในทำเลและประเภทของอสังหาฯ ที่แตกต่างกัน ก่อนตัดสินใจเลือกใช้บริการเอเจนต์แต่ละคนจึงควรดูประวัติหรือผลงานที่ผ่านมาว่า ช่ำชอง หรือเชี่ยวชาญในทำเลไหน และรูปแบบอสังหาฯ ส่วนใหญ่ที่ขายสำเร็จบ่อย ๆ เป็นรูปแบบใด นอกจากนี้ ยังช่วยให้การประชาสัมพันธ์ได้ถูกต้องและถึงกลุ่มเป้าหมายในพื้นที่ด้วย

3. บุคลิกภาพ

เอเจนต์ที่ดีควรจะมีบุคลิกภาพที่ดี น่าเชื่อถือ รวมไปถึงการพูดคุยที่ให้เกียรติทั้งผู้ซื้อและผู้ขาย นอกจากนี้ เอเจนต์คือคนที่คุณจะต้องทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดเป็นระยะเวลาหลายสัปดาห์หรือหลายเดือน ดังนั้น เอเจนต์คนนั้น ๆ จะต้องเป็นคนที่คุณสามารถไว้ใจ เข้ากันได้ ตลอดจนรับฟัง และเข้าใจความต้องการของคุณ

4. ความพร้อมให้บริการ

ตรวจสอบดูว่า เอเจนต์มีเวลามากพอจะดูแลอสังหาฯ ของคุณหรือไม่ เพราะหากเอเจนต์มีอสังหาฯ ในมือจำนวนมาก และไม่มีเวลามากพอจะให้ความสำคัญกับคุณ คุณอาจจะขายได้ช้า หรือไม่ได้เลย ลองเช็กสัญญาณความพร้อมในการให้บริการของเอเจนต์ก่อนตัดสินใจ

5. แผนการตลาด

หากคุณต้องการปล่อยเช่าหรือขายอสังหาฯ ต้องสอบถามให้แน่ใจว่าจะมีแผนการตลาดที่เหมาะสมหรือไม่ ไม่ว่าจะเป็น Offline หรือ Online นอกจากนี้ สอบถามดูว่า เอเจนต์ยินดีจะใช้เวลามากแค่ไหนในการเตรียมอสังหาฯ เพื่อขาย ซึ่งส่วนนี้รวมถึงการถ่ายภาพอสังหาฯ ของคุณ คิดจุดเด่นและจุดดึงดูดของอสังหาฯ เพื่อทำการตลาด และให้คำแนะนำเรื่องการทำความสะอาด/การตกแต่ง ฯลฯ

บทบาทหน้าที่ของเอเจนต์คืออะไร

เอเจนต์ คือ ตัวแทนของผู้ซื้อหรือผู้ขาย ซึ่งในกรณีนี้คือ นายหน้าขายบ้านหรือนายหน้าขายคอนโด ผู้ทำหน้าช่วยขายบ้านหรือคอนโดให้แก่เจ้าของบ้าน ดังนี้

  • ให้คำแนะนำในการเตรียมบ้านก่อนประกาศขาย เช่น การตกแต่งและการตั้งราคาขาย แต่กรณีบ้านมือสอง เอเจนต์สามารถตรวจสอบจุดบกพร่อง ประเมินบ้าน และให้คำปรึกษาเพื่อปรับปรุงและช่วยให้บ้านขายได้ง่ายในราคาดี
  • ทำการตลาด หาลูกค้า ติดต่อ และดำเนินการต่าง ๆ รวมถึงพาลูกค้าไปดูบ้านและปิดการขาย
  • จัดเตรียมสัญญาซื้อขายบ้าน แจ้งให้เจ้าของบ้านเตรียมเอกสารต่าง ๆ และช่วยอำนวยความสะดวกในการซื้อขายและโอนกรรมสิทธิ์

ข้อดีของการใช้บริการเอเจนต์คืออะไร

1. มีที่ปรึกษาดูแลทุกขั้นตอน

นอกเหนือจากเรื่องความรู้ทางเทคนิคเกี่ยวกับบ้านแล้ว การขายบ้านยังเกี่ยวข้องกับกฎหมาย การเงิน และราชการ ซึ่งต้องอาศัยความรู้ความเชี่ยวชาญ การขายบ้านผ่านเอเจนต์มืออาชีพจึงช่วยให้มีที่ปรึกษาที่สามารถช่วยเตรียมบ้านก่อนขาย ตั้งราคาบ้านให้เหมาะสม ให้คำปรึกษาแก่ผู้ซื้อในเรื่องบ้านและการขอสินเชื่อ เข้าถึงลูกค้าเป้าหมาย ตลอดจนเตรียมและอำนวยความสะดวกในการซื้อขายและโอนกรรมสิทธิ์ให้แก่ทั้งผู้ขายและผู้ซื้อ

2. เพิ่มโอกาสให้ขายบ้านได้ไวขึ้น

เอเจนต์หรือนายหน้าขายบ้านมืออาชีพมักมีฐานลูกค้าในมืออยู่แล้ว หากบ้านตรงตามความสนใจของลูกค้านั้น เอเจนต์ก็จะสามารถช่วยขายบ้านได้ในทันที แต่หากแม้ไม่ตรง นายหน้าขายบ้าน ซึ่งมีประสบการณ์ ก็จะช่วยประกาศและโฆษณาขายบ้านตามช่องทางต่าง ๆ ทั้งออฟไลน์และลงประกาศออนไลน์ได้อย่างมีประสิทธิผลดีกว่ามือใหม่หรือผู้ไม่ชำนาญการทำเอง และถึงแม้เจ้าของบ้านจะขายเองด้วย แต่การมีเอเจนต์ช่วย ก็จะทำให้ยิ่งขายบ้านได้เร็วขึ้น

นายหน้าให้คำปรึกษาในการขายบ้าน
นายหน้าให้คำปรึกษาในการขายบ้าน

3. ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการประกาศขายและโฆษณา

เอเจนต์หรือนายหน้าขายบ้านมีหน้าที่ดูแลเรื่องการประกาศขายบ้านและลงโฆษณา ไม่ว่าจะเป็นถ่ายรูปบ้าน ติดป้ายขายที่บ้านและสถานที่ต่าง ๆ ที่เป็นจุดสนใจ จนถึงลงประกาศขายตามเว็บไซต์และเครือข่ายช่องทางการขาย โดยทั้งหมดนี้ไม่มีค่าบริการ

4. เพิ่มโอกาสให้ขายบ้านได้ในราคาดี

ด้วยประสบการณ์ในการขายบ้านบวกกับการคลุกคลีอยู่กับลูกค้า เอเจนต์จึงทราบความต้องการของตลาด ราคาตลาด คู่แข่ง และเทคนิคในการขาย ซึ่งแน่นอนว่า จะช่วยให้ตั้งราคาขายได้เหมาะสมมากขึ้น รวมทั้งยังเป็นตัวกลางช่วยลดอุณหภูมิความร้อนแรงในการต่อรองราคา ช่วยโน้มน้าวให้ลูกค้าเห็นความคุ้มค่าของบ้าน และตัดสินใจซื้อในราคาเป้าหมายหรือใกล้เคียงกับราคาเป้าหมาย

5. ขายบ้านได้อย่างราบรื่นขึ้น

การมีผู้ช่วยมืออาชีพอย่างนายหน้าขายบ้านย่อมช่วยให้ทุกขั้นตอนเป็นไปได้ง่ายและลดโอกาสที่จะเกิดปัญหาได้ หากลงมือเองและไม่มีความรู้ความเชี่ยวชาญ อาจต้องผ่านการลองผิดลองถูกและอาจพบปัญหาที่ทำให้การขายบ้านต้องสะดุดได้ เช่น จะโอนกรรมสิทธิ์บ้านติดจำนองไม่ได้จนกว่าจะเคลียร์หนี้กับธนาคารและทำเรื่องปลอดจำนองก่อน เป็นต้น

6. มีเวลามากขึ้น

ไม่ต้องเสียเวลาไปกับการหาข้อมูล ทำความเข้าใจ และดำเนินการต่าง ๆ ตั้งแต่เรื่องการเตรียมบ้าน การทำตลาด การติดต่อลูกค้า การพาลูกค้าไปดูบ้าน การต่อรอง การทำสัญญาจะซื้อจะขาย การวางเงินมัดจำ การช่วยลูกค้าขอสินเชื่อ การเตรียมสัญญาซื้อขายและเอกสารต่าง ๆ การโอนกรรมสิทธิ์ และอีกสารพัดเรื่องจุกจิก เพราะสิ่งเหล่านี้ เอเจนต์จะให้คำปรึกษาและเป็นธุระจัดการให้

7. ไม่ต้องจ่ายจนกว่าจะขายได้สำเร็จ

ค่าบริการเอเจนต์มีเพียงอย่างเดียวเท่านั้น โดยเรามักเรียกกันติดปากว่า ค่านายหน้า (เว้นแต่จะให้ทำงานนอกเหนือจากบทบาทหน้าที่ในข้างต้น) ซึ่งโดยทั่วไป คิดที่ 3% ของราคาซื้อขาย หรืออาจต่อรองให้น้อยลงกว่านี้ได้หากบ้านที่จะขายมีราคาสูงมาก และจะเก็บค่านายหน้าเมื่อทำสัญญาซื้อขายเรียบร้อยแล้ว

ด้วยเหตุนี้ เจ้าของบ้านจึงไม่ต้องจ่ายค่านายหน้าจนกว่าได้เงินจากผู้ซื้อ มิหนำซ้ำยังได้บริการต่าง ๆ ที่ช่วยให้ขายบ้านได้ในราคาดี รวดเร็ว และราบรื่นขึ้น เรียกว่าการขายบ้านผ่านนายหน้านั้นมีได้กับได้

อย่างไรก็ตาม หลังจากที่เสร็จสิ้นกระบวนการซื้อขายทุกอย่างแล้ว เจ้าของบ้านจึงค่อยจ่ายค่านายหน้า เช่น บ้านราคา 2,000,000 บาท เมื่อหัก 3% ค่านายหน้าจะอยู่ที่ 60,000 บาทนั่นเอง

ทำเล ค่านายหน้า กรุงเทพฯ 3% เชียงใหม่ 3% ภูเก็ต 3% หัวหิน 3% อุดรธานี 3% พัทยา 3-10%

อย่างไรก็ตาม เพื่อความชัดเจน ความสบายใจ และความราบรื่น ก่อนตกลงใช้บริการเอเจนต์รายใด ให้เจรจาและระบุเงื่อนไขในการทำงานทั้งหมดในสัญญานายหน้า เช่น หน้าที่ความรับผิดชอบ ค่าใช้จ่าย กรอบระยะเวลาทำงาน รวมถึงสัญญานายหน้าเป็นแบบเปิดหรือปิด อ่านเพิ่มเติมประเภทสัญญานายหน้า

สนใจรับบทความดีดี อัปเดต ข่าวอสังหาริมทรัพย์และ อ่านคู่มือซื้อขาย พร้อม รีวิวโครงการคอนโดฯ ใหม่ บ้านใหม่ หลากหลายทำเลและราคา รวมถึง ทำความรู้จักกับทำเลฮอตทั่วกรุง เพื่อเพิ่มความมั่นใจในการซื้อ-ขาย-เช่า

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0