NIFREL : พาเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำสุดล้ำในโอซาก้า ทำความรู้จักกับน้อง “เนมุ เนมุ” ฮิปโปสุดคิวต์และผองเพื่อน

ณ เวลานี้คงไม่มีใครไม่รู้จักซุปตาร์ดาวดวงใหม่ของเมืองไทยอย่าง “น้องหมูเด้ง” ลูกฮิปโปแคระประจำสวนสัตว์เขาเขียว จังหวัดชลบุรี แต่รู้รึเปล่าว่าฮิปโปแคระน่ารักๆ อย่างน้องหมูเด้งไม่ได้มีแค่ที่ไทยเท่านั้นนะ เมื่อไม่นานมานี้ที่พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ NIFREL ในเมืองโอซาก้า ก็ได้ลงโซเชียลมิเดียฉลองครบรอบ 1 ขวบให้กับลูกฮิปโปแคระเพศเมียชื่อ “น้องเนมุเนมุ” (ネムネム) ซึ่งชื่อของน้องมาจากต้นไม้ประจำวันเกิดวันที่ 17 สิงหาคม นั่นก็คือ ต้นเนมุ หรือที่คนญี่ปุ่นรู้จักกันว่า ต้นไม้นอนหลับ นั่นเอง ความง่วงนอนของน้องน่ารักไม่แพ้น้องหมูเด้งของเราเลยล่ะ วันนี้คิจิเลยขอโอกาสมาแนะนำบ้านเกิดของน้องเนมุเนมุ ซึ่งก็คือพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ Nifrel ที่ไม่ได้มีแค่ฮิปโปแคระ แต่ยังมีสัตว์อื่นๆ อีกมากมาย เเละยังมีกิมมิคการเที่ยวพิพิธภัณฑ์รูปแบบใหม่ไม่เหมือนใครด้วย จะเป็นยังไงบ้างตามไปดูกันเลย~

NIFREL

“Nifrel: The Living Museum” คือพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำสมัยใหม่แบบ Interactive ที่ให้ผู้เข้าชมได้มีปฏิสัมพันธ์กับสัตว์โลกแสนน่ารักอย่างใกล้ชิด ซึ่งชื่อนี้มาจากคำในภาษาญี่ปุ่นว่า “感性にふれる” kansei ni fureru ที่แปลว่า รู้สึกได้จากการสัมผัสเพื่อหวังว่าจะเป็นแรงบันดาลใจให้กับผู้เข้าชมได้มีความสนใจในสิ่งมีชีวิตและธรรมชาติมากขึ้น และนำไปสู่การใส่ใจสิ่งเล็กๆ น้อยๆ ในชีวิตประจำวัน

ธีมหลักอีกอย่างของที่นี่เลยก็คือ ความหลากหลาย (diversity) สิ่งมีชีวิตทั้งหมด รวมถึงมนุษย์ ล้วนมีความแตกต่าง มีความหลากหลายและไม่เหมือนใคร เพราะเหตุนี้ที่นี่จึงแบ่งโซนจัดแสดงตามธีมความหลากหลาย เช่น โซน Colors (ความหลากหลายของสี), moving (ความหลากหลายของพฤติกรรม), hiding (ความหลากหลายของการเลียนแบบ) ฯลฯ ซึ่งพิพิธภัณฑ์จะแบ่งออกเป็น 2 ชั้นด้วยกัน โดยชั้นแรกจะมีทั้งหมด 4 โซน ได้แก่ โซน Colors, Abilities, Swim เเละ Wonder Moments เเละชั้น 2 จะมีทั้งหมด 5 โซนด้วยกัน ได้แก่ Mimic, Waterside, Behavior, Biodiversity เเละ Nifrel Makes

Colors

โซน Colors จะเป็นโซนที่เมื่อเราได้เข้าไปเเล้ว จะเหมือนอยู่ในโลกที่มีแต่สีสัน เพราะที่นี่เต็มไปด้วยปลาการ์ตูนสีสันสดใสแหวกว่ายอยู่ในตู้ปลากระจกใสกว่า 13 ตู้

Abilities

โซน Abilities โซนไฮไลท์ที่เราจะได้เรียนรู้ว่าสัตว์แต่ละชนิดสามารถทำอะไรได้บ้างผ่านตู้ปลาที่ถูกออกแบบมาให้เราได้ชมอย่างใกล้ชิด เช่น การเปลี่ยนสีตามสภาพแวดล้อม การพ่นน้ำเพื่อจับเหยื่อ เป็นต้น

Swim

โซน Swim จะเป็นโซนที่จัดแสดงตู้ปลาแบบ 360 องศา ท่ามกลางความมืดเพื่อให้ปลาที่มีสีสันรูปร่างที่แปลกตามีความโดดเด่นขึ้นมาและให้เราได้เห็นการร่ายรำไปมาภายในน้ำของพวกมันได้ชัดเจน ราวกับคริสตัลที่เคลื่อนไหวได้อยู่ใต้น้ำ เช่น ปลาไหลสวนและปลามีดโกน

Wonder Moments

โซน Wonder Moments จะแตกต่างจากโซนอื่นๆ ตรงที่เป็น Interactive Art Experience ซึ่งสร้างสรรค์โดยศิลปินชื่อว่า ทาคาฮิโระ มัตสึโอะ บรรยากาศชวนพิศวงที่จะทำให้เรารู้สึกเหมือนกำลังเอื้อมแตะโลก ดวงดาว และดาวเคราะห์ดวงอื่นๆ ในอวกาศ รวมถึงมีภาพฉายศิลปะลวดลายน้ำ ดอกไม้ ต้นไม้ และจักรวาล ที่มาในรูปแบบคล้ายแสงที่สาดส่องลงมาบนตัวเรา โดยแต่ละภาพจะเปลี่ยนทุกๆ 10 นาที

“Touching Hidden” MIMIC

โซนที่เราจะได้เจอกับวิธี “ซ่อนตัว หรือ การเอาตัวรอด” ตามสัญชาตญาณทางธรรมชาติของสัตว์ชนิดต่างๆ เช่น ปลาหิน, กิ้งก่า เป็นต้น

“Touching the waterside” WATERSIDE

พื้นที่เปิดโล่งขนาดใหญ่ที่เราจะได้พบกับสัตว์ป่าหายากที่อาศัยอยู่ริมน้ำ ตั้งแต่สัตว์ขนาดใหญ่อย่างฮิปโปแคระ, เสือขาว, จระเข้, ไปจนถึงสัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำขนาดเล็ก ใครอยากจะมาหาน้องเนมุเนมุ ก็มาที่โซนนี้กันได้เลยนะ

บางครั้งทางพิพิธภัณฑ์เองจะมีการจัดกิจกรรมพิเศษให้เด็กๆ ได้ลงมือทำเตรียมอาหารให้กับสัตว์ด้วยนะ เรียกได้ว่านอกจากจะได้ใกล้ชิดกับสัตว์ต่างๆ เเล้ว เด็กๆ ยังได้เรียนรู้ในการเป็น Zookeeper หรือผู้ดูแลสัตว์ไปในตัวด้วย💕

“Feel the movement” BEHAVIOR

โซนที่มีการจำลองลำธารหรือแอ่งน้ำให้สัตว์ต่างๆ มาว่ายน้ำโชว์ให้ดู อีกทั้งพื้นที่ที่ให้เด็กๆ ได้เห็นพฤติกรรมของสัตว์ต่างๆ อย่างใกล้ชิด เช่น เราจะได้เห็นเหล่าเพนกวินแสนน่ารักที่เขาจะปล่อยให้เดินเตาะแตะๆ ไปมาอย่างอิสระ ลีเมอร์ที่โหนเชือกไปมา หรือจะเป็นนกฮูกที่บินไปเกาะอยู่บนป้ายห้องน้ำ

“Touching connections” BIODIVERSITY

พักให้หายเมื่อย มานั่งสบายๆ เเละเพลิดเพลินไปกับการชมภาพสามมิติบนหน้าจอสองจอกัน จอหนึ่งฉายบนผนังและอีกจอฉายบนพื้น ซึ่งภาพสามมิติที่ได้นำมาฉายนั้นก็จะเปลี่ยนแปลงไปตามช่วงต่างๆ

“Nifrel Makes” NIFREL MAKES

โซนสุดท้ายของชั้น 2 จะเป็นพื้นที่อเนกประสงค์เอาไว้จัดเวิร์กช็อปและกิจกรรมต่างๆ ให้ผู้เข้าชมได้มาเรียนรู้เเละร่วมสนุกกัน (สามารถติดตามข่าวสารเเละตารางเวลาได้ทางเว็บไซต์)

ร้านอาหาร Picnic Café Eat Eat Eat

นอกจากโซนต่างๆ เเล้ว แน่นอนว่าเราจะขาดพื้นที่เติมพลังไปได้ยังไง บริเวณชั้น 2 ที่นี่ก็มีร้านอาหารด้วยชื่อว่า Picnic Café Eat Eat Eat ที่จะคอยเสิร์ฟอาหารสดใหม่อยู่ตลอด ไม่ว่าจะเป็นเมนูแซนด์วิชและแฮมเบอร์เกอร์ รวมไปถึงขนมหวานและเครื่องดื่มโซดา

＊งดรับประทานอาหารหรือดื่มเครื่องดื่มขณะเดินภายในอาคาร

ร้านขายของที่ระลึก NIFREL×NIFREL

ที่ชั้น 1 ก็มีร้านขายของที่ระลึกด้วยน้า ใครที่หลงความน่ารักของน้องๆ จนหาทางออกไม่เจอล่ะก็ ต้องอย่าลืมไปช้อปปิ้งของที่ระลึกกลับบ้านกันด้วย สินค้ามีตั้งแต่ขนม, ตุ๊กตาสัตว์, ของตกแต่ง, ของจิปาถะ, ฯลฯ

ค่าเข้าชม

• อายุ 16 ปีขึ้นไป 2,200 เยน
• อายุ 7～15 ปี 1,100 เยน
• อายุ 3～6 ปี 650 เยน

※เด็กอายุต่ำกว่า 3 ปีเข้าฟรี

※ถ้าไม่อยากรอคิวที่เคาน์เตอร์ขายตั๋ว ก็สามารถซื้อตั๋วได้ทางออนไลน์เช่นกัน

Info
Location: อาคาร EXPOCITY, เมืองซุอิตะ, จังหวัดโอซาก้า
Hours: 10.00 – 18.00 น. (ปิดรับการเข้าชมเวลา 17.00 น.) *เวลาเปิดทำการอาจมีการเปลี่ยนแปลงขึ้นอยู่กับฤดูกาลHoliday: ไม่มี
Access: จากสถานี Umeda ลงสถานี Senri-chuo จากนั้น นั่ง Monorail สถานี Senri-chuo มาลงสถานี Bampakukinenkoen เเละเดินอีกประมาณ 7 นาทีInstagram: @nifrel_officialTicket Website: https://webket.jp/pc/ticket/
Website: https://www.nifrel.jp/en/