การแข่งขันฟุตบอลถ้วยคาราบาว คัพ หรืออีเอฟแอล คัพ รอบรองชนะเลิศ นัด 2 เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา "สิงห์ผงาด" แอสตัน วิลลา เปิดบ้านเฉือนเอาชนะ "จิ้งจอกสยาม" เลสเตอร์ ซิตี 2-1 โดยได้ประตูชัยในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ ทำให้พวกเขาผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศไปยืนรอพบกับผู้ชนะระหว่าง "เรือใบสีฟ้า" แมนฯ ซิตี้ แชมป์เก่า กับ "ผีแดง" แมนฯ ยูไนเต็ด ต่อไป ในเกมชิงถ้วยที่สนามเวมบลีย์ เตะวันที่ 1 มี.ค. นี้
สำหรับเกมนัดแรกเสมอกัน 1-1 ที่บ้านของเลสเตอร์ ส่วนนัดนี้เจ้าถิ่นขึ้นนำไปก่อนในนาทีที่ 12 จาก แมตต์ ทาร์เกตต์ แต่ในนาที 72 เคเลชิ อิเฮียนาโช ยิงตีเสมอให้ทีมเยือน ทำท่าว่าจะเสมอกันอีกครั้ง ต้องต่อเวลาพิเศษออกไปอีก 30 นาที ทว่า ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บนาที 90+3 ทาง เทรเซเกต์ มายิงประตูชัยให้กับ แอสตัน วิลลา ทำให้ "สิงห์ผงาด" เบียดชนะ 2-1 รวมผล 2 นัด ผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศต่อไป ด้วยประตูรวม 3-2 ถือเป็นการผ่านเข้าชิงดำฟุตบอลถ้วยลีกคัพเป็นหนแรกในรอบ 10 ปี
หลังผ่านเข้าชิงฯได้สำเร็จ ทาง ดีน สมิธ กุนซือของวิลลา กล่าวว่า "มันเป็นช่วงเวลาสุดดราม่าเมื่อเราได้ประตูในช่วงทดเจ็บ การนำสโมสรไปเตะที่เวมบลีย์ ทำให้ผมรู้สึกภาคภูมิใจเป็นอย่างมาก"
ส่วน เบรนแดน ร็อดเจอร์ส กุนซือของเลสเตอร์ ที่พบกับความปราชัยในฟุตบอลถ้วยเป็นนัดแรกในรอบ 31 นัดหลังสุดนับรวมช่วงเวลาที่เขาครองความยิ่งใหญ่กับ เซลติก ที่สกอตแลนด์ กล่าวเปิดใจว่า "ผมคิดว่าเรามีเกมที่ยอดเยี่ยมมาก ๆ เราเล่นได้ดี คอนโทรลเกมเอาไว้ได้ แต่ผู้รักษาประตูของพวกเขาโชว์การเซฟอันน่าเหลือเชื่อหลาย ๆ เซฟ ผมภูมิใจในผู้เล่นของผม เพราะว่าเราทำทุกอย่างเต็มที่แล้ว ผมคิดว่าในตอนจบมีแค่ทีมเดียวที่จะชนะ แต่เรามาพลาดเสียประตูในช่วงทดเจ็บ"
ทั้งนี้ ดีน สมิธ นายใหญ่ "สิงห์ผงาด" ได้กล่าวถึงฟอร์มอันสุดยอดของผู้รักษาประตูชาวนอร์จีเวี้ยน ออร์ยาน นีลันด์ ที่ช่วยเซฟจนทีมได้ผ่านเข้ารอบชิงดำว่า "เรน่า ไม่ฟิต เราจึงไม่มีทางเลือก ผมรู้ดีว่า ออร์ยาน เก่งแค่ไหน".