ช่วงนี้ย่านเก่าอย่างเจริญกรุงยังคงน่าจับตามองเป็นพิเศษ เพราะมีร้านใหม่ๆ ทยอยผุดขึ้นมาราวกับดอกเห็ด แถมแต่ละร้านก็มีเสน่ห์ของตัวเองที่เข้ากับย่านคลาสสิกอย่างลงตัว และหนึ่งในร้านที่เพิ่งเปิดสดๆ ร้อนๆ เลยคือ ‘จั่ว’ (JUA)ร้านกินดื่มสบายๆ สไตล์ญี่ปุ่นที่ตั้งอยู่ในซอยเจริญกรุง 28 ลึกเข้าไปในซอยเดียวกันกับ Little Market ร้านอาหารเช้าที่มีหนึ่งในหุ้นส่วนเป็นเชฟมากประสบการณ์อย่าง เชต แอตกินส์ (Chet Atkins) เหมือนกัน
The Vibe
ตัวร้านเป็นตึกแถวห้องหัวมุม สังเกตเห็นง่ายด้วยประตูบานพับสีดำทันสมัย พร้อมหน้าต่างกระจกที่ล้อมรอบทั้งด้านหน้าและด้านข้าง เพิ่มความรู้สึกโปร่งสบายให้กับร้านขนาดกำลังอบอุ่น ใครที่เคยไปร้าน Yardbird ที่ฮ่องกงอาจคุ้นเคยกับสไตล์หน้าบ้านทาสีขาวกรอบดำ มีกระจกที่เผยให้เห็นที่นั่งสตูลทรงสูงดูสนุกสนานด้านใน นั่นก็เพราะได้ ฌอน ดิกซ์ (Sean Dix) ดีไซเนอร์มือดีจาก Dix Design+Architecture ประเทศฮ่องกง (ที่ฝากผลงานไว้กับร้านสไตล์ญี่ปุ่นโมเดิร์นอย่าง Ronin และ Okra ที่ฮ่องกงด้วยเช่นกัน) เป็นคนออกแบบทั้งการตกแต่งภายในที่เน้นเส้นโค้งกับวัสดุที่เรารู้สึกว่าเข้ากับย่านนี้มากอย่างหินขัดเป็นหลัก เฟอร์นิเจอร์ และโต๊ะเก้าอี้ทุกชิ้นในร้าน
เข้ามาถึงก็สะดุดตากับเคาน์เตอร์บาร์ตัวใหญ่โค้งมน หล่อด้วยหินขัดสีเทาทั้งตัว พร้อมกับภาพถ่ายจากช่างภาพอาชีพอย่าง เจสัน แลง (Jason Lang) ที่เป็นหุ้นส่วนอีกคนของร้าน ทั้งภาพข้าวที่ใช้ทำสาเก นักต้มสาเก และช่างตีมีดชาวญี่ปุ่นที่ทำหน้าที่ดึงอารมณ์ของทั้งห้องเข้าสู่ความเป็นญี่ปุ่นขึ้นมา นอกจากเก้าอี้ที่บาร์แล้ว ชั้นล่างยังมีโต๊ะทรงสูงอีก 3-4 ตัวสำหรับคนที่มาเป็นกลุ่ม ถ้าต้องการความเป็นส่วนตัวมากขึ้นก็สามารถเดินขึ้นบันไดหินขัดที่โค้งล้อกับเคาน์เตอร์ไปยังชั้นสองของร้านที่มีโต๊ะความสูงปกติรองรับกลุ่มขนาดใหญ่ขึ้นได้เช่นกัน
นอกจากโครงสร้างอาคารที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้แล้ว ชื่อ ‘จั่ว’ ของร้านก็ยังมาจากประวัติศาสตร์ของบ้านหลังนี้ที่เคยเป็นบ่อนผิดกฎหมายมาก่อนนั่นเอง
The Chef
แม้จะไม่ใช่คนญี่ปุ่นโดยกำเนิด แต่นอกจากเชฟเชต แอตกินส์ จะเป็นแฟนอาหารญี่ปุ่นตัวยงแล้ว เขาก็ยังมีผลงานคลุกคลีอยู่ในวงการอาหารญี่ปุ่นในหลายประเทศ รวมถึงเคยเป็นเชฟใหญ่ของร้านในเครือ Ku De Ta (ปัจจุบันเปลี่ยนชื่อเป็น Ce La Vi) ทั้งในกรุงเทพฯ และฮ่องกง เชฟนำประสบการณ์ในครัวหลากประเทศมาปรับใช้ในการเล่นกับรสชาติ ทำให้เมนูอิซากายะของจั่วไม่ใช่แบบญี่ปุ่นจ๋าตามตำรา แต่มีเสน่ห์ที่การนำรสชาติญี่ปุ่นมาผสมผสานกับอาหารจากหลายชาติอย่างลงตัว
The Dishes
พูดถึงเมนูอิซากายะ เรานึกถึงอาหาารจำพวกปิ้งย่างเป็นอย่างแรก ดาวเด่นของที่นี่คือ Prawns(180 บาท) กุ้งแชบ๊วยตัวโตผ่ากลางลำตัวย่างกับเนยทุเรียนที่เชฟได้แรงบันดาลใจมาจาก Tempoyak เครื่องปรุงของชาวมาเลย์ที่ทำจากทุเรียนหมัก จานนี้ไม่ได้กลิ่นแรงอย่างที่คิด มือใหม่หัดกินทุเรียนก็กินได้สบายๆ
แต่ที่กลิ่นแรงยั่วใจมากคือเบคอนหมักเองของทางร้านที่ใช้ไม้มะขามมารมควันจนหอมแน่น หอมนาน เอามาพันรอบหน่อไม้ฝรั่งเสียบไม้ย่างอย่างที่เราคุ้นเคย Asparagus(100 บาท) ส่วนตัวชูโรงของสายเสียบไม้อย่างสึคุเนะ หรือ Meatball (100 บาท) เชฟก็ทำออกมาได้นุ่มเนียน กรุบกระดูกอ่อนเล็กน้อย และหอมกลิ่นขิง จากที่ปกติเรามักได้ไข่แดงดิบมาให้จิ้ม แต่ที่นี่เขาหมักไข่แดงของไก่กับเกลือจนเนื้อแน่น แล้วนำมาขูดโรยเหมือนชีส
อาหารจานอื่นก็ไม่ธรรมดา ทั้งตับไก่บดใส่สาเก หรือ Chicken Liver Pate(220 บาท) สลัดมะเขือเทศ หรือ Tomato Salad(220 บาท) ที่คลุกเคล้าซอสเพสโต้จากใบชิโสะ มาพร้อมกับชีสนมแพะและวาซาบิดอง Eggplant (160 บาท) มะเขือยาวที่นำมาทอดแบบเทมปุระจนนุ่ม ก่อนจะเลาะแป้งออก เสิร์ฟกับน้ำจิ้มแบบเทมปุระ รวมถึง Sweet Potato Skins(200 บาท) มันม่วงอบเลาะเปลือกนำมาบดกับครีมสด ก่อนใส่กลับเข้าไปในเปลือกแล้วนำไปอบอีกรอบ เสิร์ฟกับไข่ปลาแซลมอนและต้นหอมญี่ปุ่น และจานที่เราไม่อยากให้พลาดอย่าง Corn Butter Bacon(200 บาท) ข้าวโพดคลุกเนยและเบคอนทำเองชิ้นหนา หอม เค็ม มัน ครบ!
ส่วนของหวานได้ ฟ้า-อาวีพรรณ ยมจินดา เจ้าของร้าน Siri Sweethouse หนึ่งในกำลังหลักของที่นี่เป็นคนดูแล ลอง King’s Cake (200 บาท) เค้กราชปะแตนที่ได้แรงบันดาลใจจากหนึ่งในขนมทรงโปรดของในหลวงรัชกาลที่ 9 เป็นเค้กรสกาแฟเนื้อฉ่ำแน่นใส่ลูกเกดและอัลมอนด์ให้ได้ล้างปากกัน
The Drinks
นอกจากจะมีเบียร์อย่างAsahiและKirin(180 บาท) แล้ว ที่นี่ยังมีค็อกเทลและไฮบอลรสต่างๆ (250-280 บาท) รวมถึงสาเกที่ทางร้านตั้งใจคัดเลือกมาให้มีความหลากหลาย ตั้งแต่ที่ดื่มง่ายๆ อย่าง Masumi Type-1(280 บาท / 100 มล.) ไปจนถึงรสแหวกแนวไม่คุ้นลิ้นอย่าง Kozaeman(250 บาท / 100 มล.) ทั้งยังมีไวน์ วิสกี้ โชจู และเหล้าบ๊วยให้เลือกอีกเพียบ
Open:วันอังคาร-อาทิตย์ เวลา 18.00-24.00 น.
Address: 672/49 ซอยเจริญกรุง 28 ถนนเจริญกรุง กรุงเทพฯ
Contact:06 1558 7689
Budget: เริ่มต้นที่ 100 บาท
Page: www.facebook.com/juabangkok
Map:
Photo: JUA
ความเห็น 0