'บิว วราภรณ์' เล่าทั้งน้ำตา ติด ตม.เกาหลี ถูกส่งกลับไทย เสียความรู้สึก ถามทำผิดอะไร?

‘บิว วราภรณ์’ ไลฟ์สดเล่าทั้งน้ำตา โดน ตม.เกาหลีไม่ให้เข้าประเทศ เสียความรู้สึก ถามทำผิดอะไร?

ช่วงไม่กี่ปีมานี้ ปฏิเสธไม่ได้ว่า การไปเที่ยวประเทศเกาหลีใต้ อาจจะไม่ง่ายเหมือนเมื่อก่อน สาเหตุหลัก ๆ ก็มาจาก ‘ผีน้อย’ ที่แอบเข้าเกาหลีแบบผิดกฎหมาย ทำให้ สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) ของเกาหลีใต้เพิ่มความเข้มงวดในการคัดกรองคนเข้าประเทศเพิ่มขึ้น

แต่ล่าสุด กลายเป็นประเด็นร้อนแรง และวิพากษ์วิจารณ์อย่างมาก เมื่อ ‘บิว วราภรณ์’ ยูทูบเบอร์ อินฟลูเอนเซอร์ ที่มีคนติดตามเกือบ 1 ล้านคน เจ้าของแบรนด์ Bondi Jelly

กลับโพสต์เล่าประสบการณ์ ติด ตม.เกาหลีและถูกส่งกลับประเทศ

โดย บิว โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า “ติด ตม. ครั้งแรกในชีวิต!! และเป็นตม. ประเทศเกาหลีและเป็นประเทศที่บิวเดินทางบ่อยมากกก ความรู้สึกจากการนอนใน ตม. มา 1 คืน คือ ฉันทำผิดอะไรขนาดนั้นจากใจคนที่ตั้งใจมาเที่ยว และเดินทางมาที่นี่กว่า 8-9 รอบ

แตงโม เกาหลีไม่อ่อนโยนให้บิวเลย ให้กลับประเทศอย่างเดียว สภาพการนอนคือเหมือนเรานอนพื้น ไม่มีหมอน มีผ้าห่มเน่าให้ (เพราะกลิ่นสาปแรงมากๆ และบิวต้องทนห่มเพราะหนาวสุดๆ) Ceo ตัวน้อย อินฟลูตัวน้อย ยทบ. ตัวน้อย นักท่องเที่ยวตัวน้อย หัวใจแตกสลายมากงับ

อารมณ์รักเค้าแต่เค้าไม่รักเรา บิวอยากจะพิมพ์เป็นประสบการณ์ให้ทุกคนได้เตือนใจไว้ แต่กลัวพิมพ์แล้วจะไม่รู้ถึงความรู้สึก และตกหล่นตรงไหนไป เดี๋ยวคืนนี้บิวขอไลฟ์สดที่ FB นี้ให้ทุกคนได้ฟังนะ เวลา 20.00 น ค้าบ”

ล่าสุดเธอได้ ไลฟ์สดบอกรายละเอียดที่ติด ตม.เกาหลี ว่า 5 ปีที่แล้ว ตนเริ่มทำ ยูทูบ ก็จะเริ่มมีแบรนด์ต่างๆ ติดต่อให้ตนไปออกอีเว้นท์บ้าง ประเทศหลักๆ คือ เกาหลี ญี่ปุ่น อเมริกา ซึ่งเป็นเรื่องปกติ ที่ผ่านมาไม่มีปัญหาจากประเทศไหน เวลาไปงานที่ไหนก็มีบัตรเชิญจากแบรนด์ต่างๆ อยู่แล้ว

บิว เล่าต่อว่า รวมแล้ว ตนไปเกาหลีมากกว่า 10 รอบ โดยทางแบรนด์ของเกาหลีจะเชิญไปอีเว้นท์อยู่ตลอด และไม่เคยมีปัญหาเลย ทั้งนี้ เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา มีแบรนด์หนึ่งได้สัญญาจ้างงาน ไปงานอีเว้นท์ ซึ่งมีการท้วงติงมาว่า ถ้าเป็นการจ้างงาน ควรจะมีวีซ่าทำงานหรือไม่ ทางแบรนด์จึงยกเลิกสัญญาจ้าง และเปลี่ยนเป็นบัตรเชิญ เพื่อให้เข้าไปอีเว้นท์ได้ ซึ่งครั้งนั้น ทาง แบรนด์และทางตม.ก็บอกว่าเคลียร์แล้ว ไม่มีปัญหา

ครั้งนี้ที่ไป คือ ไปเที่ยว และไปถ่ายคลิปต่างๆ มีการจองโรงแรม มีข้อมูลทุกอย่าง แต่ตอนที่จะเข้า ตม. ตนยื่นวีซ่าปกติ เมื่อให้สแกนนิ้ว เขาเรียกคนมาเลย และเอาตัวเราไป ซึ่งตนได้บอกว่า เราเป็นยูทูบเบอร์ เรามาเที่ยว มีที่อยู่ครบ เราเป็นเจ้าของธุรกิจ และมากับแฟน

ทั้งนี้มีการหยิบโทรศัพท์ตนไปด้วย โดยไม่มีการให้ตนเซ็นยินยอมแต่อย่างใด

ซึ่งทาง ตม.ยังติดปัญหางานอีเว้นท์ที่ตนไปตั้งแต่เดือนมิถุนายนที่ผ่านมา และทาง ตม.ไม่เชื่อ ยังคิดว่าเป็นการจ้างงานอยู่ เพราะมีการโพสต์รูป บิวจึงบอกให้ดู Statement มั้ย เพื่อให้ทาง ตม.เชื่อใจ

ซึ่งทางตม.เหมือนตัดสินเราไปแล้ว และย้ายห้องให้เราไปอยู่ และเซ็นต์เอกสารต่างๆ และให้ตนไปสัมภาษณ์ โดยเจอล่ามคนไทย

โดยล่ามคนไทย ถามว่าลงทะเบียนเองไหม และเท่าไหร่ ซึ่งเราตอบว่า จำไม่ได้ และกลับโดยล่าม ขึ้นเสียงใส่ว่า ตอบคุณต้องรู้ว่าเท่าไหร่ คุณลงเองต้องตอบได้ ซึ่งเราจำไม่ได้เพราะมันนานมากกว่า 8-9 เดือนมาแล้ว

และทั้งสำคัญ ล่ามไม่ช่วยแปล ยังมากดดัน ทำให้เราตอบผิดตอบถูก และไม่มีการแนะนำอะไรเลย

ซึ่งบิว พยายามทำความเข้าใจ และอธิบายว่าทริปนี้เรามาทำอะไร และได้รับคำตอบว่า เราจะไม่ได้เข้าประเทศ และให้เอกสารเซ็น 2 ใบ คือ ไม่ให้เข้าประเทศ และใบขอคัดค้าน

ทำให้เราคิดว่า สิ่งที่เราพยายามอธิบายมา ล่ามได้แปลหรือไม่ ทั้งนี้ ทั้ง ตม.และล่าม รับรู้ว่าบิว เป็นอินฟูล ไม่ได้เป็นผีน้อยแน่นอน และเราพยายามบอกว่า เรามีหลักฐานทุกอย่าง แต่ทาง ตม.และล่าม ไม่แม้แต่จะขอ ดูอะไรเลย

เราจึงเขียนคัดค้าน เพื่อยื่นอุทรณ์อีกรอบ และตนได้เขียนว่า เราได้เที่ยวเกาหลีหลายครั้ง จะมาฉลองครบรอบ 8 ปี แต่สิ่งที่ได้ คือ ตม. ล้อเลียนเหตุผลที่ตนเขียน และให้ตนเข้าห้องไปนอนรอในห้อง โดยที่ไม่มีอะไรติดตัวเลย ตนต้องรอแบบนั้นเกือบ 10 ชั่วโมง

ต่อมาตอน 7 โมงครึ่ง ตม.เรียกตนมา ให้คุยกับล่าม ที่เป็นคนเกาหลีที่พูดไทยได้ โดยส่ามพูดกับเราว่า คุณรู้ใช่มั้ยคุณมีความผิด ไม่ได้เข้าประเทศ ซึ่งบิว ตอบว่า เพราะอะไร ขอให้ล่ามบอก ตม.อีกรอบให้ดูเอกสารได้มั้ย เพราะเราไม่ได้ทำอะไรผิด ซึ่งล่ามไม่ได้ ทำหน้าที่แปล แต่ทางล่ามตอบกลับทันทีว่า คุณเข้าใจมั้ยคะ ว่าเข้าประเทศไม่ได้

ทั้งนี้ เธอเปิดใจทั้งน้ำตาว่า เราผูกพันธ์กับประเทศเกาหลีมาก ทำไมถึงสร้างประสบการณ์ที่ไม่ดีให้กับเรา เราอินกับอะไรที่เป็นเกาหลีมาก ซีรี่ส์ นักเรียน เสื้อผ้า แฟชั่น เราคิดว่าทำไมเราถึงถูกปฏิบัติแย่แบบนี้ เขาคงไม่สนใจอะไรเรา คิดว่าเราเป็นคนไทยคนหนึ่งให้กลับๆไปเถอะ เหมือนเราโดนปฏิเสธ และไม่มีสิทธิเข้าประเทศอีกแล้ว

เพราะบิวถามล่ามย้ำว่า เราไม่มีสิทธิเข้าประเทศอีกแล้วใช่มั้ย ล่ามบอกว่าใช่ค่ะ คุณไม่มีสิทธิเข้าแล้ว เสียความรู้สึดมาก

ท้ายสุดแล้ว ก็ถูกส่งกลับไทย ตอนนั่งเครื่องบิน จะได้นั่งที่ท้ายๆ และได้ไปรับกระเป๋าอีกที่ เพราะโดนยึดพาสปร์อต

ทั้งนี้ ที่ออกมาพูด ขอให้วิเคราะห์กันอย่างสร้างสรรค์ ตนออกมาแชร์ และเตือนให้เพื่อนๆเตรียมตัวไว้ก่อน ขอให้เหตุการณ์ที่ตนเจอ เป็นอุทาหรณ์ให้ใครหลายๆ คน ทั้งนี้ ตนก็กำลังยื่นเรื่องร้องเรียนอยู่