จากกรณีหญิงรายหนึ่งโพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่าตนเองเดอนทางผ่านสายการบิน โหลดกระเป๋าเดินทาง ที่มีมือถือไอโฟนเอ็ก มูลค่าเกือบ 40,000 บาทไว้ แต่เมื่อถึงบ้านพบว่ามือถือได้หายไป สืบไปมาจึงทราบว่าโทรศัพท์ไปอยู่ในมือของพนักงานของสายการบิน
วันที่ 21 มี.ค.62 ทีมข่าวเดินทางมาพบ น.ส.ฐิตารี วงศ์ชวกรกุล ผู้เสียหาย เปิดเผยว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 9 มี.ค.62 ตนเดินทางจาก จ.อุดรธานี มาที่ ดอนเมือง กทม. โดยสารสายการบินแห่งหนึ่ง ซึ่งตนโหลดกระเป๋าปกติ แต่ตนโหลดโทรศัพท์มือถือ ไอโฟนเอ็กซ์ ไปด้วย 1 เครื่อง เนื่องจากตนมีมือถือ 2 เครื่อง จึงตัดสินใจโหลดไป อีกทั้งกระเป๋าตนก็เล็กๆ จึงกลัวว่าโทรศัพท์อยู่ในตัวจะหาย
ช่วงโหลดกระเป๋า พนักงานสายการบินก็สอบถามว่า ในกระเป๋าโหลดมีแบตสำรองหรือไม่ ตนก็ตอบว่าไม่มี มีแต่โทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง จากนั้นตนก็เดินทางตามปกติ
ตนขึ้นบินจาก จ.อุดรธานี เวลา 18.15 น. ถึงดอนเมืองราว เวลา19.20 น. ตนก็รอรับกระเป๋าที่สายพาน จากนั้นก็กลับบ้านทันที เมื่อถึงบ้าน ประมาณ 30 นาทีได้ ตนจึงเปิดกระเป๋าดูจึงมาทราบว่าโทรศัพท์มือถือหาย ตอนแรกก็ตกใจว่าหายไปไหน และก็ไม่มั่นใจว่าหายระหว่างเดินทาง หรือหายจากโรงแรมที่พัก ตนจึงโทรศัพท์สอบถามทั้งฝ่ายรถเช่า โรงแรม ที่อุดรธานี แต่ก็ได้รับการยืนยันว่า ไม่พบโทรศัพท์ของตนแต่อย่างใด
วันที่ 10 มี.ค.62 ตนจึงเดินทางไปแจ้งความ เพื่อขอตรวจสอบสัญญาณโทรศัพท์ จนกระทั่งเวลา 22.55 น. ปรากฎว่าโทรศัพท์ไอโฟนอีกเครื่องที่ตนใช้ มีการเตือนผ่านแอปพลิเคชั่น ว่าโทรศัพท์ของตนที่หาย ตอนนี้อยู่ที่ลำลูกกา คลอง 2
เช้าวันที่ 11 มี.ค.62 ตนตัดสินใจนั่งแท็กซี่ไปตามพิกัดที่แจ้งขึ้นครั้งสุดท้าย ปรากฎเมื่อไปถึงที่ พบเป็นหมู่บ้าน และบ้านหลังดังกล่าว มีเสื้อของพนักงานสายการบินที่ตนใช้บริการแขวนอยู่ ตนตัดสินใจถ่ายรูปไว้เป็นหลักฐาน และเดินทางไป สภ.คูคต ไปแจ้งความให้สายตรวจพามาที่บ้านตามแผนที่อีกครั้ง
เมื่อมาถึงบ้านหลังดังกล่าว พบผู้หญิงออกมาจากบ้าน สายตรวจจึงทำทีสอบถามข้อมูลว่า มีใครทำงานสายการบินหรือไม่ หญิงรายนี้บอกว่ามี นายสมพร ซึ่งเป็นแฟนตัวเองทำงานอยู่ จากนั้นจึงทำทีสอบถามเรื่องไอโฟน ทีแรกหญิงรายนี้บ่ายเบี่ยง แต่สุดท้ายยอมรับว่า แฟนเขามีโทรศัพท์ใหม่มาใช้งานจริง แต่ไม่ทราบรายละเอียดแต่อย่างใด
นายสมพร ให้ข้อมูลว่า ตนเองรับโทรศัพท์มือถือ จากคนชื่อกระแต และไม่ทราบว่ากระแตเอามาจากไหน บอกเพียงว่าให้นำมาซ่อม หากซ่อมไม่ได้จะขายต่อ 4,000 บาท ซึ่งตนสอบถามสมพรว่า เหตุใดจึงไม่นำโทรศัพท์ส่งคืนเจ้าของ เพราะหน้าจอก็แสดงเบอร์ติดต่อกลับ เพราะตนได้มีการตั้งเมนูโทรศัพท์สูญหายไว้ ซึ่งนายสมพรก็ไม่สามารถตอบได้ ในวันนั้นจึงได้เชิญตัวทุกคนมาที่ สน.ดอนเมือง เพื่อสอบปากคำ
ต่อมาวันพุธที่ 13 มี.ค.62 เจ้าหน้าที่ สน.ดอนเมือง จึงเรียก บุคคลที่ชื่อกระแตมาสอบถาม กระแตก็ไม่รับสารภาพ และยังซักทอดไปยังแฟนตัวเองว่า เป็นคนนำมือถือมาให้ เพื่อจะไปส่งซ่อม ซึ่งเมื่อเจ้าหน้าที่เชิญตัวแฟนกระแตมา แฟนกระแตก็ยืนยันไม่ได้ทุจริต ตนทำงานที่สายการบินมา 6 ปี ไม่รู้เรื่องที่เกิดขึ้น ยังมีการซักทอดไปหากบุคคลอื่นอีกว่า ได้มือถือตนมาจากคนอื่น ปรากฎเจ้าหน้าที่มีการเรียกตัว เพื่อนที่ถูกซักทอดไป ก็ยังไม่มาเข้าพบเจ้าหน้าที่ ตนจึงยังไม่ทราบว่าใครเป็นคนเปิดเอามือถือที่อยู่ในกระเป๋าเดินทางตน
อย่างไรก็ตามตนได้มือถือคืนแล้ว แต่ยังจะดำเนินคดีถึงที่สุด เพราะเชื่อมีขบวนการ มีคนทำหลายคน ที่ผ่านมาเดินทางเคยโหลดกล้องถ่ายรูป มือถือ ก็ไม่เคยมีปัญหา แต่ส่วนใหญ่เป็นการเดินทางต่างประเทศ ในประเทศถือเป็นครั้งแรก
อย่างไรก็ตาม ตนยังติดใจว่าใครเป็นคนเปิดกระเป๋า และพนักงานสายการบินจะสามารถเปิดกระเป๋าใครก็ได้อย่างนั้นหรือ ซึ่งเรื่องนี้ที่ตนจะเอาเรื่องทางกฎหมายถึงที่สุด เพราะไม่ให้ไปก่อเหตุกับบุคคลอื่นอีก
ในส่วนเรื่องคดีความ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.โชคชัย 4 ซึ่งเป็นสถานที่ผู้เสียหายแจ้งความไว้ ระบุว่า ขณะนี้มีการดำเนินการสอบปากคำผู้เสียหายแล้ว พรุ่งนี้จะส่งคำให้การต่อไปยัง สน.ดอนเมือง เพื่อดำเนินการต่อ ซึ่งกรณีนี้เป็นการแจ้งข้อกล่าวหา ร่วมกันลักทรัพท์ ส่วนคนที่รับโทรศัพท์ไว้ จะแจ้งข้อหารับขอโจรเพิ่มเติม