วันนี้ “โรคซึมเศร้า” เข้ามาใกล้ตัวเรามากกว่าที่คิดนะคะ ล่าสุดองค์การอนามัยโลก บอกว่า โรคซึมเศร้าเป็น “สาเหตุหลักของความเจ็บป่วยในหมู่เด็กชายหญิงที่มีอายุระหว่าง 10 ถึง 19 ” และมีคนที่เป็นมากขึ้นทุกปีๆ
จนถ้ามีโอกาสไปเป็นวิทยากรที่ไหน จะบอกกับใครๆว่า สังเกตดีๆนะคะ ถ้าคนรอบตัวมีอาการซึมๆไป หรือคุยให้ฟังเมื่อไหร่ จะมีอาการเหมือนน้อยเนื้อต่ำใจ ร่ำๆจะฆ่าตัวตาย นั่นคือสัญญาณที่เขาพยายามจะขอความช่วยเหลืออยู่ก็ได้
คุยกับเขา ให้กำลังใจเขา บอกเขาไปไม่ว่ายังไงก็ยังมีเรา อาจเป็นส่วนเล็กๆ ที่ทำให้เขาไม่รู้สึกโดดเดี่ยวจนเกินไป คนที่กำลังป่วยใจ ความตายเป็นเรื่องเล็กมากสำหรับเขา 3 อย่างที่สามารถจะเยียวยา คนที่เป็นโรคซึมเศร้าได้ 1. คือต้องไปหาคุณหมอเพื่อรักษาด้วยยา 2. ออกกำลังกาย และ3. สังคม คนรอบข้างต้องพร้อมจะเข้าใจค่ะ
ล่าสุด รายการ Club Friday show สัมภาษณ์ น้องทราย เจริญปุระ จริงๆเมื่อสามปีก่อน น้องเคยมาให้สัมภาษณ์ไปแล้วครั้งหนึ่ง ตอนนั้นน้องต้องดูแลแม่ที่ป่วยด้วยโรคสมอง จนตัวเองเริ่มมีอาการขั้นต้นของคนเป็นโรคซึมเศร้า
วันนั้นน้องทิ้งท้ายว่า “หนูคงโสดทั้งชีวิตค่ะพี่ จะมีผู้ชายที่ไหนเสียสละมากพอจะอยู่ข้างหนู ที่ต้องรับมือการอาการป่วยของแม่ ควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้ บางครั้งโทรฯมาmissed call เป็น 100 สาย พอรับ แม่ก็บอกแค่ว่า อยากรู้ว่าจะรับไหม เท่านั้นเอง”
จนมาถึงวันนี้ นอกจากโรคซึมเศร้า คุณแม่ต้องเข้ารับการรักษาที่รพ.ศรีธัญญา เพราะมีอาการสมองเสื่อมมากขึ้น ดูแลตัวเองก็ไม่ได้ ทรายเองป่วยเป็นโรคซึมเศร้าอย่างสมบูรณ์
ก่อนหน้านี้ก็เจอดราม่า โดนด่าว่าเป็นลูกอกตัญญู เอาแม่ไปทิ้งไว้ที่รพ.บ้า !! น่าเหนื่อยใจ กับสังคมไทยบางส่วนในวันนี้ เรามีแต่ความคิดเห็น แม้ว่ายังไม่ได้เห็น คุณหมอขอให้ทรายแยกตัวออกมาเพื่อรักษาโรคซึมเศร้าของตัวเองอย่างใกล้ชิด
สำหรับคุณแม่ในวันนี้กลายเป็นผู้ป่วยติดเตียงที่ต้องมีบุคลากรด้านการแพทย์เกี่ยวกับระบบประสาทเข้าไปดูแลแล้ว .. แต่วันนี้น้องมีความรักค่ะ ผู้ชายที่ยืนใกล้ๆ ช่างเข้าใจ และรักน้องมากพอจะเดินต่ออย่างใส่ใจ น้องกอล์ฟ คือเพื่อนที่เลื่อนมาเป็นแฟน
น้องมีคุณยายสมองเสื่อม และมีแม่ที่ต้องดูแลคุณยายอย่างใกล้ชิด ลูกเลยต้องทำหน้าที่ เป็นฟองน้ำคอยซับความรู้สึกของแม่ ในวันที่รู้สึกแย่จากการรองรับอารมณ์ของยาย และวันนี้เขากลายมาเป็นฟองน้ำเพื่อคอยซับอารมณ์ของทรายเช่นกัน
กอล์ฟเล่าว่า “วันที่ทรายกำลังดิ่ง และร้องไห้หนักมาก เราก็แค่อยู่ใกล้ๆเขา ปล่อยให้เขาร้องไห้จนหมดใจ คอยถามว่า โอเคหรือยัง พอแล้วเนอะ งั้นเดี๋ยวเราไปกินอะไรอร่อยๆกัน ไม่ต้องไปตอกย้ำว่าเขาร้องไห้ทำไม หรือพยายามหาเหตุผลใดๆ ที่จะทำให้เขาหยุดร้อง
ผมทำให้เขารู้ว่าผมอยู่ใกล้ๆ แต่ไม่ลงไปอยู่ในเหวกับเขา” ชื่นชมน้องจากหัวใจเลยค่ะ อีกอย่างที่กอล์ฟยืนยันคือ เคยเห็นคนส่งข้อความต่อๆกันที่บอกว่า ประโยคไหนไม่ควรบอกกับคนที่เป็นโรคซึมเศร้าบ้าง เช่นสู้ๆ เธอต้องไหวนะ ฯลฯ..
ผมว่าไม่จริง ประโยคที่จะทำให้เขารู้สึกดีขึ้นพูดเถอะครับ อย่างน้อยให้รู้ว่า อาการป่วยของเขาไม่ได้แย่ เราแค่รับมือไปด้วยกัน …ความรักเป็นอีกวิธีที่ช่างมีค่าต่อการรักษาคนที่เป็นโรคซึมเศร้าค่ะ
เคยมีคนส่งมาถามว่า “หนูเป็นโรคซึมเศร้า จะมีคนรักที่เข้าใจเราได้จริงๆหรือคะ” มีค่ะ กล้ายืนยัน ไม่มีใครด้อยค่าเกินกว่าจะมีความรัก แค่รู้จักรับมือกับอารมณ์ที่เกิดขึ้นกับตัวเรา ทานยาตามที่คุณหมอให้ หาเวลาออกกำลังกาย
เป็นผู้ให้ทุกครั้งที่มีโอกาสดูแลตัวเองได้เป็น เริ่องปกติ ดูแลคนอื่นได้เป็นเรื่องของความภาคภูมิใจ เป็นผู้ให้ เมื่อไหร่ คุณค่าในใจเราจะกลับมา ร้องไห้เท่าที่ไหว เช็ดน้ำตาแห้งเมื่อไหร่ก็เดินหน้าต่อ ป่วยได้ ก็หายได้
การหาจิตแพทย์ ไม่ได้แปลว่า เราบ้าเสมอไป ตอนปวดหัวเรายังอยากรู้ว่าเป็นเพราะอะไร แล้วตอนปวดใจ ไม่อยากรู้บ้างหรือไงว่า ทำไมใจของเรา ถึงได้เศร้าขนาดนี้ เผื่อถ้าใครได้เข้ามาอ่านถึงบรรทัดนี้ สิ่งที่หวังก็แค่ เราต้องช่วยกันกระจายกำลัง เป็นผู้รับฟัง และส่งพลังให้คนที่เป็นโรคซึมเศร้านะคะ พวกเราช่วยกันได้จริงๆ
ความเห็น 29
ผมเชื่อว่าในการที่มีใครสักคนหนึ่งที่เข้าใจและคอยให้กำลังใจอยู่ข้างๆก็สามารถที่จะทำให้ทุกอย่างผ่านพ้นไปได้ด้วยดีเหมือนกันนะครับ
21 มิ.ย. 2562 เวลา 11.44 น.
MO 💎
เราเชื่ออย่างหนึ่งว่า การที่มีคนคอยรับฟัง (ฟองน้ำ) แล้วเราได้ระบาย หรือได้พุดออกมามันเป็นการบำบัดที่ดีอย่างหนึ่ง แต่คนส่วนใหญ่จะคิดว่าตัวเองไม่ใช่เป็นที่ระบายนะ
ทั้งๆที่เราแค่ต้องการให้เค้ายุ่ข้างๆ แค่รู้ว่าไม่ได้อยู่คนเดียวก้พอแล้ว แต่เค้ากลับตำหนิซ้ำเติม
21 มิ.ย. 2562 เวลา 11.57 น.
เป็นอยู่ค่ะรักษาโดยการทานยากำลังใจที่มีมาจากพ่อแม่ค่ะ
21 มิ.ย. 2562 เวลา 11.33 น.
Krerkitti....Ohm
อิจฉาเลยล่ะครับที่มีคนพูดประโยคนี้ให้ และเข้าใจ
อารมณ์คุณทราย
อาจจะคล้ายเรากำลังจมน้ำ ยื่นมือขึ้นไขว่ขว้าไม่อาจพูดได้(ใครเค้าจะเชื่อ) อยู่ที่คนข้างๆจะยื่นมือมาช่วยจับไว้ หรือปัดมือทิ้งไปเพราะเห็นว่าเราว่ายน้ำเป็น....
21 มิ.ย. 2562 เวลา 10.41 น.
พี่สองคนเก่งมากครับพี่ฉอดพี่อ้อย ดูในทีวี เข้าใจคนมากๆ
21 มิ.ย. 2562 เวลา 11.55 น.
ดูทั้งหมด