โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

การเมือง

'เพื่อไทย' อัดรัฐแก้ ศก.ฉาบฉวย วนเวียนแจกเงิน ไม่เรียนรู้แก้ที่ต้นตอ

VoiceTV

อัพเดต 17 ม.ค. 2565 เวลา 09.40 น. • เผยแพร่ 17 ม.ค. 2565 เวลา 09.32 น. • กองบรรณาธิการวอยซ์ออนไลน์
'เพื่อไทย' อัดรัฐแก้ ศก.ฉาบฉวย วนเวียนแจกเงิน ไม่เรียนรู้แก้ที่ต้นตอ

ชนินทร์ รุ่งธนเกียรติ รองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีรัฐบาลกำลังพิจารณาปรับเลื่อนการเติมเงินมาตรการคนละครึ่งเฟสที่ 4 จากเริ่มต้นในเดือนมีนาคม มาเป็นกุมภาพันธ์ 2565 นี้ เพื่อช่วยแก้ปัญหาสินค้าราคาแพงว่า รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ต้องเลิกแก้ปัญหาแบบฉาบฉวย ใช้แต่งบประมาณซึ่งมาจากภาษีประชาชนเพื่อประคองสถานการณ์ หวังกลบกระแสสังคม เมื่อเกิดปัญหาใดก็ตามรัฐบาลมักเลือกที่จะแจกจนเคยชิน โดยไม่มีแผนการวางแผนแก้ปัญหาที่ตรงจุด 

ทั้งนี้ การเลื่อนโครงการ “คนละครึ่ง” มาหวังลดปัญหาเรื่องสินค้าแพงทุกรายการ เหมือนการฉายหนังซ้ำ วนไปวนมา ไม่ใช่มาตรการที่ช่วยเหลือประชาชนกลุ่มคนยากจนซึ่งเป็นผู้ที่เดือดร้อนจริง ซ้ำยังไม่ประสบสำเร็จ สังเกตได้จากมาตรการคนละครึ่งเฟส 3 ที่บังคับใช้ปลายปี 2564 มีผู้ใช้งานไม่เต็มวงเงิน จึงพอจะคาดเดาได้ว่าในเฟส 4 คงได้รับผลลัพธ์ที่แย่ลงอีก เพราะทุกวันนี้แม้จะให้จ่ายเงินซื้อสินค้าแค่ครึ่งเดียว ชาวบ้านเองก็ไม่เหลือเงินแล้ว นอกจากนี้ผลกระทบจากมาตรการคนละครึ่งในปัจจุบัน มีรายงานจากหลายพื้นที่ว่าถูกใช้เป็นข้ออ้างของร้านค้าจำนวนหนึ่งในการฉวยโอกาสเพิ่มราคาสินค้าแบบถาวรด้วย หากรัฐบาลยังวนเวียนอยู่แต่กับการใช้มาตรการแจกเงินโดยไม่เรียนรู้ที่จะแก้ปัญหาเศรษฐกิจทีต้นตอ ในอนาคตอันใกล้เราคงมีโอกาสเห็นราคาสินค้าพุ่งกระฉูด ขัดกับรายได้ประชาชนที่หดหาย ไม่มีอันจะกินอย่างแน่นอน 

ชนินทร์ กล่าวอีกว่า รัฐบาลชุดนี้เก่งแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ ใช้แต่เงินภาษีประชาชน อย่างการอนุมัติงบกลางกว่า 500 ล้านบาท ให้กระทรวงพาณิชย์มาจัดซื้อหมูราคาแพงในตลาด มาขายให้ประชาชนในราคาที่ถูกลง เป็นตัวอย่างของการแก้ปัญหาที่ไม่ต้องใช้ความสามารถหรือฝีมืออะไรเลย ทั้งที่ควรเข้าไปเจรจากับกลุ่มทุนผู้ผลิตรายใหญ่ในการจัดหาหมูราคาถูกมานำหน่ายประชาชน หรือการปรับเปลี่ยนนโยบายการนำเข้าเพื่อเพิ่มปริมาณผลผลิต

นอกจากนี้รัฐบาลยังไม่มีแผนแก้ไขปัญหาในระยะยาว คนที่เสียหายที่สุดในสถานการณ์นี้มีแต่ประชาชน ที่นอกจากจะต้องรับกรรมกับสินค้าแพงแล้ว ยังต้องสูญเสียภาษีไปโดยเปล่าประโยชน์ให้กับการชดเชยค่าสินค้าที่แพงขึ้นมาจากการบริหารที่ไร้ประสิทธิภาพเท่านั้น 

“ปัญหาเศรษฐกิจในปัจจุบันซึมลึกไปทุกระดับ รัฐต้องเสริมศักยภาพในการประกอบอาชีพ ผ่อนคลายมาตรการภาษี สร้างตลาดรองรับ สร้างโอกาสในการทำกิน ไม่ใช่เอาแต่เติมเงิน แจกเงิน แทรกแซงจนโครงสร้างเศรษฐกิจไปต่อยาก หากปล่อยให้บริหารต่อไปเรื่อยๆ ต่อไปประเทศไทยคงต้องเต็มไปด้วยคนจนทั้งแผ่นดินด้วย” ชนินทร์ กล่าว

0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0