คาร์บ คำที่มักได้ยินบ่อยๆ แต่เชื่อว่าหลายคนยังไม่รู้ว่า คาร์บ คือ อะไร? วันนี้เราจะมาสรุปแบบเข้าใจง่าย ว่าจริงๆ แล้ว คาร์บ หรือ Carb นั้นย่อมาจาก Carbohydrate ซึ่งก็คือคาร์โบไฮเดรตนั่เอง แล้วที่หลายคนชอบพูดว่าตัดคาร์บ ก็เพราะเมื่อไหร่ที่เจ้าคาร์บ เข้าไปในร่างกาย จะไปเปลี่ยนเป็นน้ำตาล ซึ่งถ้าใช้ไม่หมดก็จะกลายเป็นไขมันสะสมตามส่วนต่างๆของร่างกาย ทำให้ในคนที่กำลังคุมน้ำหนัก มักปรับลดการทานแป้งให้อยู่ในปริมาณที่ร่างกายต้องการต่อวัน หรือเลือกทานแต่คาร์โบไฮเดรตดี ที่คนปกติควรได้รับร้อยละ 50-60 ของพลังงานทั้งหมด
คาร์บ 1 กรัม จะให้พลังงาน 4 กิโลแคลอรี ทีนี้เรามาดูสิว่า แป้งในอาหารที่เราชอบทานนั้นมีคาร์บกี่กรัม และให้พลังงานเท่าไหร่ เพื่อที่จะได้จัดสรรในแต่ละมื้ออย่างพอเหมาะ และเหมาะกับกับตัวเองนะคะ
ทีนี้คาร์บ แป้ง น้ำตาล ก็คือ คาร์โบไฮเดรต เป็นโมเลกุลที่ประกอบไปด้วยคาร์บอน ไฮโดรเจน และออกซิเจน ในแง่ของสารอาหารคาร์บเป็น 1 ใน 3 สารอาหารหลักของร่างกาย ตามด้วยอีก 2 ชนิด คือ โปรตีนและไขมัน โดยคาร์บโบไฮเดรตในอาหารสามารถแบ่งได้เป็น 3 หมวดหมู่
1. น้ำตาล เป็นคาร์โบไฮเดรตสายสั้นที่พบได้ในอาหาร อย่าง กลูโคส ฟรุกโตส ซูโครส
2. แป้ง เป็นโมเลกุลกลูโคสสายยาว จะแตกออกกลายเป็นกลูโคสเมื่อผ่านการย่อยอาหาร
3. เส้นใยอาหาร ไม่สามารถย่อยได้ แม้แต่แบคทีเรียในระบบย่อยอาหารก็มีแค่บางชนิดเท่านั้นที่สามารถย่อยได้
คาร์บส่วนใหญ่เมื่อถูกย่อยจะอยู่ในรูปของกลูโคส หรือ แป้ง ซึ่งสามารถนำไปใช้เป็นพลังงาน และคาร์บสามารถเปลี่ยนเป็นไขมัน (พลังงานสำรอง) เพื่อเก็บไว้ใช้คราวหลัง แต่ถ้าเราทานคาร์บมาเกินไป ก็อาจเกิดการสะสมของไขมันที่เกินความจำเป็นของร่างกาย ทำให้ในคนที่ควบคุมน้ำหนัก มักจะนิยมลดคาร์บ หรือตัดคาร์บบางมื้อ เพื่อช่วยในการดูแลสุขภาพช่วงนั้นๆ
คาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน หรือคาร์บดี
เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกของคนติดแป้ง และชอบการทานคาร์โบไฮเดรต แนะนำเป็นแป้งที่ไม่ผ่านกระบวนการขัดสี หรือแทบจะไม่ผ่านกรรมวิธีดัดแปลงมาเลย ซึ่งก็แน่นอนว่าร่างกายจะได้รับคุณประโยชน์จากแป้งชนิดนี้เข้าไปเต็มๆ โดยที่แทบไม่กระทบไปถึงระดับน้ำตาลในเลือด ซึ่งเราจะรับคาร์โบไฮเดรตชนิดดีได้จากข้าวไม่ขัดสี, ถั่ว, ธัญพืช, ผักใบเขียว, ซุปเปอร์ฟู้ดต่างๆ, มัน, โฮลวีท, โฮลเกรน รวมทั้งซีเรียลและพาสต้าโฮลวีทด้วย
ขอบคุณข้อมูลจาก: โรงพยาบาลกรุงเทพ และ healthplatz.co
