โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

หนุ่มกุมขมับ โดนตุ๋นวัตถุมงคลหลวงพ่อรวย ผ่านเฟซบุ๊ก ผู้เสียหายเพียบ สูญเกือบล้าน

Khaosod

อัพเดต 11 มิ.ย. 2564 เวลา 18.13 น. • เผยแพร่ 11 มิ.ย. 2564 เวลา 18.13 น.
อผหิดผิห

หนุ่มกุมขมับ โดนตุ๋นวัตถุมงคลหลวงพ่อรวย ผ่านเฟซบุ๊ก ผู้เสียหายเพียบ สูญเกือบล้าน เผยสุดช้ำ ต้องขายทรัพย์สิน รับผิดชอบให้คนที่มาสั่งจองผ่านตนเอง

วันที่ 11 มิ.ย.2564 นายวิริทธิ์พล อินชะนีย์ อายุ 25 ปี หนุ่มผู้เปิดรับจองวัตถุมงคลหลวงพ่อรวย วัดตะโก เป็นตัวแทนผู้เสียหาย 90 ราย เดินทางเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี หลังจากถูกผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง หลอกเปิดรับจองวัตถุมงคลของหลวงพ่อรวย วัดตะโก จ.พระนครศรีอยุธยา แต่เมื่อได้รับเงินแล้ว กลับปิดเฟซบุ๊กหนี ไม่ยอมส่งมอบวัตถุมงคลให้กับผู้ที่สั่งจองและโอนเงินเข้าไปให้

นายวิริทธิ์พล ผู้เสียหาย กล่าวว่า ตนเป็นผู้ที่ชื่นชอบในวัตถุมงคลของหลวงพ่อรวย วัดตะโก ได้เริ่มสะสมวัตถุมงคล พร้อมเปิดจำหน่ายให้เช่า วัตถุมงคลหลวงพ่อรวยมาเป็นเวลากว่า 3 ปี ซึ่งตลอดเวลาที่ผ่านมามีผู้ให้ความเชื่อถือเข้ามา สั่งจองเช่าบูชาวัตถุมงคลกับตนมาอย่างต่อเนื่อง กระทั่งเมื่อช่วงเดือนกุมภาพันธ์ 2564 จนได้รู้จักกับผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง ทราบชื่อคือนายอมรเทพ

โดยอ้างตัวว่าเป็นลูกศิษย์ที่เคยบวชเรียนอยู่ที่วัดตะโก และสามารถจองวัตถุมงคลหลวงพ่อรวยวัดตะโก รุ่นรวย 99 ปี 2563 ได้ในราคาที่ถูกกว่าที่อื่น  ตนจึงตรวจเช็กประวัติของนายอมรเทพและเห็นเครดิต มีผู้เคยสั่งซื้อวัตถุมงคลหลวงพ่อรวยกับนายอมรเทพมาแล้วหลายครั้ง จึงได้หลงเชื่อ และ ชักชวน เพื่อนดวงถึงคนรู้จักหลายคนที่มีความต้องการจะเช่าวัตถุมงคลหลวงพ่อรวย รุ่นรวย 99 ปี 2563 เพื่อจะ สั่งจองวัตถุมงคลกับทางนายอมรเทพ

และได้มีการโอนเงินให้กับนายอมรเทพเป็นค่าวัตถุมงคลรวม 79 ครั้ง เป็นเงินรวม 902,000 บาท แต่เมื่อถึงเวลานัดหมายรับวัตถุมงคล วันที่ 16 มี.ค. 2564 ผู้เสียหายได้เดินทางไปรอรับวัตถุมงคลที่วัดตะโก จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เพื่อจะรับวัตถุมงคลจากนายอมรเทพ แต่ปรากฏว่านายอมรเทพไม่ได้นำเอาวัตถุมงคลมาให้ตามที่ได้สัญญากันเอาไว้ อีกครั้งเมื่อผู้เสียหายพยายามติดต่อ ก็ไม่สามารถติดต่อกับนายอมรเทพได้อีก

นายวิริทธิ์พล กล่าวต่อว่า ตนจึงได้ตัดสินใจเดินทางเข้าแจ้งความกับตำรวจสภ.ท่ามะกา เมื่อวันที่ 16 มี.ค. 2564 พร้อมกับนำภาพการเข้าแจ้งความไปโพสต์ลงในเฟซบุ๊ก ทำให้นายอมรเทพ ติดต่อกลับมาหาและเดินทางมาเจรจาไกล่เกลี่ยกันที่สภ.ท่ามะกา เมื่อวันที่ 17 มี.ค. 2564 โดยนายอมรเทพยอมรับว่าได้นำเงินที่ได้รับโอนจากผู้เสียหายจำนวน 902,000 บาท ไปเล่นการพนันออนไลน์จนหมด จึงไม่สามารถ หาวัตถุมงคลมาให้กับผู้เสียหายได้ตามที่สัญญาไว้

ซึ่งนายอมรเทพ ได้ลงบันทึกเป็นหลักฐานต่อตำรวจว่าจะนำเงินมาคืนให้กับผู้เสียหายในงวดแรกจำนวน 550,000 บาท และจะผ่อนชำระให้จนครบจำนวนวงเงินความเสียหายทั้งหมด แต่เมื่อถึงเวลานัดหมายชำระเงิน นายอมรเทพกลับไม่ได้ชำระเงินให้ผู้เสียหายตามที่ตกลงกันไว้ และได้ปิดเฟซบุ๊กหนีขาดการติดต่อกับผู้เสียหายไปทันที ทำให้ตนต้องรับภาระหาเงินมาใช้คืนให้กับผู้ที่ร่วมโอนเงินจองวัตถุมงคลเข้ามากับตน

นายวิริทธิ์พล กล่าวอีกว่า ตนต้องนำทรัพย์สินที่มีอยู่ทั้งทองรูปพรรณไปขาย นำรถไปเข้าไฟแนนซ์เพื่อหาเงินมาชดใช้ให้กับกลุ่มผู้ที่หลงเชื่อโอนเงินมาร่วมจองวัตถุมงคล โดยชดใช้ไปแล้วกว่า 6 แสนบาท ยังคงเหลือที่ยังชดใช้ไม่ครบถ้วนอีกเกือบ 4 แสนบาท ขณะที่ในส่วนของคดีความเอง ก็ยังไม่คืบหน้า ทางนายวิริทธิ์พล ผู้เสียหาย จึงเดินทางมาทวงถามความคืบหน้าคดีกับตำรวจภูธรท่ามะกา

โดยผกก.สภ.ท่ามะกา ได้สั่งการให้พนักงานสอบสวนเร่งดำเนินการสอบปากคำผู้เสียหาย พร้อมออกหมายเรียก นายอมรเทพ ซึ่งมีภูมิลำเนาอยู่ที่สระบุรี ให้เข้ามารับทราบข้อกล่าวหา แต่หากในอมรเทพไม่มาเข้าพบพนักงานสอบสวนก็จะได้ดำเนินการออกหมายจับ ในข้อหาฉ้อโกงผู้อื่น และความผิดตาม พรบ.คอมพิวเตอร์ ต่อไป

นายวิริทธิ์พล กล่าวต่ออีกว่า เหตุการณ์ในครั้งนี้สร้างความเสียหายให้กับตนเองเป็นอย่างมาก เงินและทรัพย์สินที่เคยเก็บสะสมจากการทำธุรกิจเช่าพระเครื่องมาเป็นเวลากว่า 3 ปี ต้องหมดไปภายในเวลาไม่ถึงเดือน จึงอยากฝากถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ช่วยติดตามตัวนายอมรเทพ มาดำเนินคดีตามกฎหมายให้ได้ เพื่อจะได้ไม่มีผู้ที่ตกเป็นเหยื่อมากับตนเองอีก

"ขอฝากถึงผู้ที่ชื่นชอบและสะสมวัตถุมงคลต่างๆ อย่าได้หลงเชื่อโอนเงินให้กับผู้เปิดรับจองจนกว่าจะได้เห็นวัตถุมงคลกับตา ก็อาจจะถูกหลอกเหมือนอย่างเช่นกรณีของตนเองได้" ผู้เสียหาย กล่าวทิ้งท้าย

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0