โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไลฟ์สไตล์

รักยังไง ? เมื่อต้องเว้น 'ร ะ ย ะ ห่ า ง’ - ฟาร์มรัก

LINE TODAY

เผยแพร่ 29 มี.ค. 2563 เวลา 19.48 น.

ท่ามกลางโรคระบาด การกักตัว และความตื่นกลัวของทุกคนเกี่ยวกับเชื้อโควิด-19 หนึ่งในการชะลอการแพร่ระบาดก็คือการที่พวกเราต้องเว้นระยะห่างทางสังคม หรือ Social Distancing ซึ่งเป็นมาตรการลดการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ที่ติดต่อทางละอองฝอยหรือการสัมผัส

ในช่วงเวลาที่ทุกคนคงมีแต่ความกังวลเกี่ยวกับเชื้อไวรัสจนต้องเว้นระยะห่างทางสังคม บางทีเราอาจเผลอสร้างรอยร้าวในความสัมพันธ์ไปแบบไม่รู้ตัว พอนึกได้อีกทีก็หมาง ๆ เมิน ๆ กับทุกคน ทั้งคนในครอบครัว เพื่อน และคนรัก เพราะฉะนั้นเตือนตัวเองไว้เสมอว่าเราแค่ต้องเว้นระยะห่างทางสังคม แต่ยังต้องรักษความสัมพันธ์ไว้เหมือนเดิม

โดยเฉพาะกับเรื่องความรักและคนรัก แม้เราจะไม่ใช่กลุ่มเสี่ยง ไม่ได้อยู่ในสนามมวยหรือสถานบันเทิง แต่การใช้ชีวิตประจำในที่สาธารณะก็คงไม่อาจพูดได้เต็มปากว่าปลอดภัยเสียทีเดียว เพราะฉะนั้นตอนนี้ไม่ว่าจะเป็นคนรักกันหรือคนในครอบครัว ทุกคนไม่ควรเข้าใกล้กันในระยะที่ต่ำกว่า 1 เมตร ลืมไปได้เลยเรื่องการสัมผัสหรือ Skinship ซึ่งนั่นอาจหมายถึงการแพร่เชื้อโดยไม่รู้ตัว

ถ้าบอกว่าในสถานการณ์อย่างนี้ ยังจะกังวลเรื่องแบบนี้ไปเพื่ออะไร ? คำตอบก็คือความสัมพันธ์เป็นเรื่องละเอียดอ่อน ไม่เจอกับตัวไม่มีวันเข้าใจ หลุดจากตรงนี้ไป อาจไม่มีอะไรเหมือนเดิมเลยก็ได้ ดังนั้น จะทำอย่างไรในเมื่อระยะห่างก็ต้องเว้น ความสัมพันธ์ก็ต้องรักษา และนี่คือวิธีที่จะทำให้รักกันเหมือนเดิมโดยไม่เสี่ยง และต่างคนต่างรักษาความสัมพันธ์กันเอาไว้ได้

● รักและป้องกันตัวเอง

อย่างที่รู้ว่าสถานการณ์โรคระบาดแบบนี้ สิ่งสำคัญคือการป้องกันตัวเองไม่ให้มีความเสี่ยง เพราะสิ่งที่น่ากลัวไม่ใช่ความรุนแรงของโรค แต่เป็นการไม่แสดงอาการในช่วงแรก ทำให้คิดว่าตัวเองไม่ได้ติดเชื้อและกลายเป็นพาหะทำให้คนอื่น ๆ ใกล้ตัวติดเชื้อไปด้วย

ดังนั้นต่างคนต่างก็ต้องเข้าใจสถานการณ์นี้ให้ชัดเจน เราห่างกันก็เพื่อป้องกันตัวเองและลดการแพร่เชื้อ เป็นเหตุสุดวิสัยที่ทุกคนต้องผ่านมันไปด้วยกัน ไม่ใช่แค่เราคนเดียวที่ต้องทำ แต่คนทั้งประเทศ และทั้งโลกก็ตกอยู่ในสถานการณ์แบบนี้เหมือนกัน

>>6 ข้อผิดพลาดของคนมีความรัก ที่ทำแล้ว..รักอาจพังไม่รู้ตัว<< 

● รักห่าง ๆ อย่างห่วง ๆ

เมื่อสถานการณ์พาให้ต้องรักกันแบบห่าง ๆ ก็ไม่ได้หมายความว่าความใส่ใจ ความห่วงใยจะต้องห่างหายตามไปด้วย ของแบบนี้ถ้ารักกันจริง อะไรก็ห้ามความโหยหาและความห่วงใยไม่ได้

อย่าลืมว่าการรักษาความสัมพันธ์ที่ดีที่สุด ไม่ว่าจะรักเป็นแบบไหน ก็คือการที่คนหนึ่งส่งความห่วงใย ใส่ใจไปให้อีกคนอยู่เสมอ ถ้ารักแต่ไม่เคยบอก ไม่เคยชัดเจน ไม่เคยแสดงออก ถึงจะยังเป็นรัก แต่ก็เป็นรักที่แฝงไปด้วยความสงสัย ยิ่งเป็นความรักในสถานการณ์แบบนี้ ก็ไม่ต่างอะไรกับรักทางไกลที่ต้องใช้ความอดทน ดังนั้นการส่งความห่วงใยมาจากที่ไกล ๆ ก็ช่วยให้อีกคนรู้สึกดีได้ไม่น้อยเลยทีเดียว

● Keep in touch ติดต่อกันเสมอ

ช่วงเวลาแบบนี้เป็นช่วงที่เราต้องเอาเทคโนโลยีมาใช้ให้เกิดประโยชน์มากที่สุด โดยเฉพาะกับความสัมพันธ์ ขนาดรักทางไกลเค้ายังไปกันรอดตั้งหลายคู่ นับประสาอะไรกับรักที่ต้องรักษาระยะห่าง แค่ติดต่อกันเสมอ จะเทคโนโลยีหรือมาเจอกันบ้างก็ตาม ยังไงเราก็ได้เปรียบกว่ารักทางไกลตั้งเยอะ ระยะแค่ 1 เมตรมันไม่ได้ไกลกันขนาดนั้น เราต้องทำให้ทุกอย่างยังคงเหมือนเดิม สิ่งที่เพิ่มเติมก็คือการป้องกันตัวเอง

● อดทนไว้ แล้วเราจะผ่านไปด้วยกัน

♬♪ ความคิดถึงมันห้ามไม่ไหว มันคงห้ามไม่ไหว คิดถึงยังไง ก็ยังคิดถึงเธออยู่ อย่างนั้น ♬♭

ในสถานการณ์แบบนี้ เมื่อความคิดถึงมันห้ามกันไม่ไหวก็ขอแค่ส่งความห่วงใยแบบห่าง ๆ ไปถึงกันก็พอ จะใช้วิธีแบบคุณหมอที่รักษาผู้ป่วยโควิด-19 แต่ทนคิดถึงลูกไม่ไหว ทำได้แค่มองลูกอยู่หน้าบ้านก็ได้ เป็นความคิดถึงที่ลอยผ่านไปถึงคนรักในแบบที่ทั้งเค้าและเราก็รู้สึกได้ ยังไงสุดท้ายเราจะผ่านเรื่องพวกนี้ไปด้วยกันได้อีกครั้งอย่างแน่นอน

● โลกสวยด้วยมือเราไปก่อน

ประเด็นเรื่องโควิด-19 ติดต่อทางเพศสัมพันธ์หรือไม่ คำตอบคือยังไม่มีรายงานเรื่องนี้ที่ชัดเจนพอจะฟันธงได้ แต่ก่อนการมีเพศสัมพันธ์ สิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้เลยก็คือการจูบ กอด และการเล้าโลมต่าง ๆ ซึ่งสิ่งเหล่านี้แหละที่ชัดเจนและบอกได้เลยว่าถ้าเป็นกลุ่มเสี่ยง แล้วมีการจูบ แลกเปลี่ยนของเหลวกันผ่านน้ำลาย สัมผัสร่างกายอย่างใกล้ชิด ก็สามารถติดเชื้อไวรัสโควิด-19 อย่างแน่นอน

ดังนั้นเมื่อทั้งเราและเขาก็ไม่มั่นใจในตัวเองว่าจะเป็นกลุ่มเสี่ยงติดเชื้อไวรัสโควิด-19 หรือไม่ สิ่งที่ทำได้ก็คือการแยกตัวออกห่างจากกัน (Personal Distancing) อยู่ห่างกันสักพักและงดกิจกรรมในร่มแบบสองต่อสองไปก่อน ถ้าทนไม่ไหวจริง ๆ ข้อแนะนำมีเพียงอย่างเดียวก็คือการปลดปล่อยอารมณ์นั้นด้วยตัวเองแบบไร้คู่ต่อสู้ และต้องล้างมือหรืออุปกรณ์ข้างกายให้สะอาด ก็จะปลอดภัยมากกว่า

>>รักได้ แต่อย่าไร้สติ 10 เทคนิคดึงตัวเอง..ไม่ให้โง่เพราะรัก<< 

สุดท้ายสถานการณ์แบบนี้ไม่ได้อยู่กับพวกเราไปตลอด อีกไม่นานทุกอย่างก็จะจบลง แต่สิ่งที่ต้องดำเนินต่อไปก็คือความสัมพันธ์ เพราะฉะนั้นอย่าละเลยที่จะส่งผ่านความรักให้กันและกัน เพราะมันคือการแสดงออกที่ชัดเจนที่สุด

Distance means so little when someone means so much.
ระยะทางไม่ได้มีความหมายอะไรเลย ถ้าคนคนนั้นมีความหมายกับคุณมาก

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0

ความเห็น 12

  • คิดถึงก็ทักมา สัญญาจะตอบทันที 🤣🤣🤣🤣🤣
    30 มี.ค. 2563 เวลา 05.06 น.
  • การเว้นระยะสำหรับคนที่ออกไปพบปะผู้คนและคนที่ไปในสถานที่เสี่ยงถ้าเหมือนคนที่อยู่ต่างจังหวัดตามสวนตามไร่ทำงานอยู่ในสวนในไร่ไม่ได้พบปะคนต่างถิ่นหรือไม่มีญาติมาหาอยู่กับครอบครับไม่ออกไปไหนก็ไม่ต้องเว้นระยะเพราะทุกคนไม่ไปเสี่ยง เพราะเรารู้ตัวเราดีอยู่แล้ว ว่าเราทำอะไรไม่ตามโซเชียลทุกเรื่อง พูดง่ายๆเรื่องในมุ้งของเราๆเรารู้ดีกว่าใคร ไม่ใช่ให้โซเชียลมันนำเรา
    30 มี.ค. 2563 เวลา 05.59 น.
  • Taa Lee
    เป็นข้ออ้างที่ดีมากสำหรับผช.เบื่อเมีย
    30 มี.ค. 2563 เวลา 05.51 น.
  • ในการเข้าใจและยอมรับกับในความเป็นจริงที่กำลังเกิดขึ้นอยู่นี้ได้ ก็ย่อมที่จะช่วยทำให้รักษาความสัมพันธ์ที่ได้มีต่อกันเอาไว้ได้เสมอ.
    30 มี.ค. 2563 เวลา 10.41 น.
  • อนัตตา
    ถ้ารักกัน ก็ไม่ควรห่างกัน อย่าเว้นช่องว่าให้คนอื่นมาเสียบได้ โดนมาแล้ว ห่างกันแค่ตอนทำงาน เวลาที่เหลืออยู่ด้วยกันตลอด ไม่เคยเบื่อหรือรำคาญกันเลย พอมีเหตุจำเป็นต้องแยกกันนอน ไม่นานมีคนมาแทรก ถ่านไฟเก่าคุ แอบดอดไปเล่นชู้กัน โกหกว่าไปทำงาน ความไว้เนื้อเชื่อใจกันที่มีมาหลายสิบปีหมดไปเพราะห่างกันแค่คืบ
    09 เม.ย. 2563 เวลา 09.04 น.
ดูทั้งหมด