PM2.5 กทม.-ปริมณฑลเริ่มลดลง แต่ยังเกินค่ามาตรฐาน 10 พื้นที่

วันนี้ (16 ธันวาคม) กรมควบคุมมลพิษรายงานผลการติดตามตรวจสอบคุณภาพอากาศในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑลของช่วงเวลา 07.00 น. โดยตรวจวัดค่าได้ระหว่าง 21-60 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (ค่ามาตรฐานไม่เกิน 50 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร) ซึ่งปริมาณฝุ่นละอองมีแนวโน้มลดลงจากเมื่อวาน โดยพบพื้นที่ที่ปริมาณฝุ่นละอองเริ่มมีผลต่อสุขภาพจำนวน 10 พื้นที่

โดยแบ่งเป็น 5 อันดับพื้นที่ที่มีค่าฝุ่นสูงที่สุด ดังนี้

• ริมถนนเจริญนคร เขตคลองสาน, ริมถนนพหลโยธิน เขตบางเขน และ ตำบลมหาชัย อำเภอเมืองสมุทรสาคร จังหวัดสมุทรสาคร (60)
• ริมถนนพระราม 3-เจริญกรุง เขตบางคอแหลม (59)
• แขวงบางซื่อ เขตบางซื่อ และแขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ (58)
• ริมถนนพระรามที่ 4 หน้าสามย่านมิตรทาวน์ เขตปทุมวัน (56)
• ริมถนนเพชรเกษม เขตภาษีเจริญ (53)

ขณะเดียวกันหลายพื้นที่บริเวณภาคเหนือเริ่มมีปริมาณฝุ่นขึ้นมาอยู่ในเกณฑ์ ‘คุณภาพปานกลาง’ โดยมีพื้นที่ที่ตรวจพบค่าฝุ่น PM2.5 เกินมาตรฐาน (เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ) คือ ตำบลบ้านกลาง อำเภอเมือง จังหวัดลำพูน มีปริมาณที่ 53 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร

นอกจากนี้การรายงานค่าฝุ่นจาก AirVisual ยังระบุว่า ช่วงเวลา 08.00 น. เขตกรุงเทพฯ ของประเทศไทยตรวจพบค่าฝุ่นได้ที่ 156 US AQI อยู่ในเกณฑ์มีผลกระทบต่อร่างกาย และเป็นประเทศที่มีค่าฝุ่นสะสมอยู่ในอันดับที่ 16 ของโลก ณ ช่วงเวลาดังกล่าว

ทั้งนี้กรมควบคุมมลพิษขอให้ประชาชนในพื้นที่ดังกล่าวควรเฝ้าระวังสุขภาพ ลดระยะเวลาการทำกิจกรรมกลางแจ้ง และติดตามสถานการณ์ฝุ่นละอองอย่างใกล้ชิด โดยทางกรมควบคุมมลพิษจะรายงานสถานการณ์และแจ้งประสานข้อมูลให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการควบคุม กำกับ ดูแล ในภารกิจตามมาตรการ ‘ภายใต้แผนปฏิบัติการ ขับเคลื่อนวาระแห่งชาติ’ อย่างเร่งด่วน เพื่อบรรเทาปัญหาฝุ่นละอองให้กลับสู่สถานการณ์ปกติ

โดยประชาชนสามารถติดตามสถานการณ์คุณภาพอากาศแบบ Real Time ได้ทางเว็บไซต์ air4thai.com แอปพลิเคชัน Air4Thai และ bangkokairquality.com

พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า