เดี๋ยวนี้หันหน้าไปทางไหนก็มีแต่คนอยากเป็นเจ้าของกิจการ อยากเป็นนายตัวเอง ไม่พอใจกับงานที่ทำบ้าง ไม่พอใจกับเงินเดือนที่รับในแต่ละเดือนบ้าง จนอยากจะลาออกจากงานไปเป็นนายตัวเองให้รู้แล้วรู้รอด แต่รู้หรือไม่การจะเป็นนายตัวเองได้ ต้องมีอะไรบางอย่างที่มากกว่าที่คิด ไม่ใช่แค่อยากทำก็ทำ แต่ต้องวางแผน เตรียมการ และพร้อมรับมือกับความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นด้วย หลายคนเคยออกมาทำกิจการเป็นของตัวเอง และพบคำตอบว่า “ไม่ใช่ทุกคนที่เหมาะกับการเป็นนายตัวเอง” ถ้าคุณมีคุณสมบัติเหล่านี้หยุดคิดเรื่องไปเป็นนายตัวเองได้เลย
ไม่มีความอดทน ไม่อยากเหนื่อย
ความอดทนเป็นคุณสมบัติแรกของคนที่จะเป็นนายตัวเองได้ เพราะเมื่อผันตัวเองมาเป็นเจ้าของกิจการ สิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้เลยก็คือปัญหา อุปสรรคต่าง ๆ มากมายที่มาพร้อมกับความเหนื่อยยากที่ต้องผ่านพ้นไปให้ได้ เรื่องเหล่านี้เป็นสิ่งที่ต้องเผชิญและเตรียมรับมือตั้งแต่เนิ่น ๆ เพราะฉะนั้นความอดทนเป็นสิ่งสำคัญ โดยเฉพาะในช่วงแรกของการเริ่มต้นธุรกิจ ปัญหาจะมีมากขึ้นหลายเท่าตัว ถ้าคุณไม่อดทนจริง ไม่พร้อมจริง โอกาสที่ล้มไม่เป็นท่าก็มีมากเช่นกัน
กลัวความเสี่ยง
คนที่ประสบความสำเร็จคือคนที่กล้าเสี่ยง ลองไปไล่อ่านประวัติความสำเร็จของนักธุรกิจชื่อดังคนไหนก็ได้ เขาเหล่านั้นล้วนเติบโตมาจากความเสี่ยงด้วยกันทั้งนั้น คนที่กล้าทำ กล้าเสี่ยง กล้าได้ กล้าเสียส่วนใหญ่มักจะประสบความสำเร็จ แต่ก็มีบ้างที่ต้องล้มหายตายจากเพราะไม่มีการวางแผนที่ดี เพราะฉะนั้นถ้าคุณไม่เสี่ยงและยอมรับความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นกับธุรกิจไม่ได้ คุณก็ไม่เหมาะที่จะเป็นเจ้าของกิจการ
ไม่มีแผนสำรอง
ไม่ว่าจะทำอะไรคนเราควรมีแพลน B ไว้ด้วยเสมอ ถ้าผิดจากแผนแรกแล้วจะไปต่อยังไง จริงอยู่ที่ความกล้าเสี่ยงเป็นคุณสมบัติหนึ่งของนักธุรกิจ แต่อย่าลืมว่าเขาเหล่านั้นเสี่ยงบนพื้นฐานของการบริหารความเสี่ยงที่ถูกต้อง ไม่ใช่การวัดดวงแต่ทุกอย่างเกิดขึ้นจากการวางแผน การวิเคราะห์ การเตรียมการมาเป็นอย่างดีแล้วเท่านั้น และจะทำแบบนี้แล้ว แต่พวกเขาก็ยังต้องมีแผนสำรองเผื่อไว้ด้วยเสมอ ซึ่งถ้าใครกำลังจะมาเป็นนายตัวเองก็ต้องมีทางเดินเหลือไว้ให้ตัวเองเช่นกัน
ไม่กล้าลงทุน และสายป่านไม่ยาว
คนที่จะมาเป็นนายตัวเองคงต้องเตรียมทั้งเงินลงทุนและทรัพยากรต่าง ๆ มาจำนวนหนึ่ง แต่รู้หรือไม่ว่าแค่จำนวนหนึ่งอาจจะไม่พอ เพราะก่อนเริ่มและระหว่างทำธุรกิจจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องใช้การลงทุนค่อนข้างสูง ไม่เฉพาะแค่เงินเท่านั้น แต่ยังรวมถึงอุปกรณ์ เครื่องมือ ทรัพยากรบุคคล ฯลฯ สิ่งเหล่านี้เป็นค่าใช้จ่ายที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ และอาจต้องใช้การลงทุนที่ค่อนข้างสูง รวมถึงใช้ระยะเวลาพอสมควรกว่าจะคืนทุน เพราะฉะนั้นจำเป็นต้องมีเงินลงทุนเผื่อไว้ในอนาคตอีก 3-5 ปีข้างหน้าด้วย
ทนขาดทุนได้ช่วงเวลาหนึ่ง
นอกจากจะต้องมีเงินลงทุนที่มากพอแล้ว คนที่จะเป็นนายตัวเองได้ยังต้องมีสามารถทนภาวะขาดทุนได้ด้วย เพราะธุรกิจในช่วงแรกอาจยังไม่เห็นผลกำไรที่เต็มเม็ดเต็มหน่วยมากนัก หรือบางทีก็อาจต้องประสบภาวะขาดทุนไปเลย ช่วงเวลานี้เป็นช่วงที่ต้องอาศัยการต่อสู้และความอดทนพอสมควร เรียกว่าเป็นช่วงที่เหนื่อยทั้งกาย เหนื่อยทั้งใจเลยทีเดียว คุณอาจต้องนำเงินเก็บบางส่วนหรือต้องขายของที่มาช่วยในการพยุงกิจการก็เป็นได้
ถ้าคุณเป็นมนุษย์เงินเดือนที่กำลังอยากเป็นนายตัวเอง แต่ดันมีหนึ่งในหลาย ๆ ข้อที่พูดถึงมานี้ ก็ควรพับแผนเรื่องการเป็นเจ้าของกิจการไปก่อน เพราะคุณอาจไม่ได้ไปต่อ…
ความเห็น 9
ขนุน
เรื่องสายป่านสำคัญมากจริง ๆ
07 มิ.ย. 2560 เวลา 11.45 น.
AAA"
ล้มแล้วลุก ไม่ใช่ล้มเรื่อยๆ ไม่เกี่ยวกับสายป่าน มันอยู่ที่ความรู้และประสบการณ์ อย่าทำอะไรเกินตัว อย่าเวอร์ อย่าสวยเกินไป ทำธุรกิจที่เป็นแบบตนเอง เริ่มจากเล็กๆ เรียบง่าย แต่สนุก
07 มิ.ย. 2560 เวลา 17.03 น.
Condo boy
สายป่านยาว....คอนเนคชั่นไม่ดีก็จบได้
07 มิ.ย. 2560 เวลา 11.52 น.
ใช่ชอบสายป่าน น่ารักดี ตอนนี้ตัดผมสั้นยิ่งน่ารัก
07 มิ.ย. 2560 เวลา 12.27 น.
- nick
องค์ประกอบหลายอย่างครับ อุปสรรคมันจะมาตูมเดียวหรือว่าทีละอย่างก็แล้วแต่มาแน่นอน กล้าได้แต่ต้องฉลาดที่จะรู้ถึงเวลาป๊อดต้องถอย เริ่มจากเล็กๆไปใหญ่ อดทน คิดถึงการต่อยอดตลอดเวลา ประหยัดในสิ่งที่ไม่จำเป็นป๋าในสิ่งที่ต่อยอดให้เราได้อย่าไปเสียดาย(ดูเงินทุนที่เรามีด้วย) สภาพคล่องสำคัญมาก วางแผนรัดกุม ปิดตาข้างเดียว employee relationship แผน2ต้องมีเสมอ กระจายความเสี่ยง การรับมือลูกค้า supply stock สมดุล ทุกอย่างมีทางออกเสมอแค่ต้องรับให้ได้แล้ววางแผนรับมือต่อ อย่าอวด ถ่อมตัวมากๆ นี่คือเบซิก
27 ก.ค. 2563 เวลา 21.12 น.
ดูทั้งหมด