โลมาเป็นสัตว์ที่ได้รับการโจษจันเรื่องของพฤติกรรมทางเพศที่พวกมันรู้จักสร้างความสุขด้วยการกระตุ้นอวัยวะเพศของตนเองกับวัตถุต่างๆ เท่าที่หาได้ในท้องทะเลตั้งแต่ซากปลาหมึกไปจนถึงรูหายใจของเพื่อน!
ก่อนหน้านี้นักวิทยาศาสตร์พบว่าโลมาอาศัยเพศสัมพันธ์เป็นเครื่องมือสำหรับเชื่อมสัมพันธ์ทางสังคม โดยพวกมันสามารถสืบพันธุ์ได้ทั้งปี ไม่เว้นแม้กระทั่งช่วงที่มีประจำเดือน
คลิตอริส (Clitoris) เป็นส่วนหนึ่งของอวัยวะเพศภายนอกของเพศเมีย
ในมนุษย์ อวัยวะนี้มีลักษณะเป็นติ่งเล็กๆ อยู่ใต้เนินหัวหน่าว ยื่นออกมาจากหนังหุ้มซึ่งไวต่อประสาทสัมผัส หลายๆ คนเรียกมันว่า ‘ปุ่มกระสัน’
แท้ที่จริงส่วนที่มองเห็นได้ของอวัยวะส่วนนี้เทียบได้กับส่วนหัวขององคชาตในเพศชายที่เรียกว่า Glans penis ลึกลงไปข้างใต้ผิวหนัง คลิตอริสมีโครงสร้างอันประกอบด้วยเนื้อเยื่อฟองน้ำที่ขยายตัวได้เมื่อเกิดอารมณ์ทางเพศคล้ายกับส่วนที่เป็นลำขององคชาต
สาเหตุที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะคลิตอริสและองคชาตพัฒนามาจากเนื้อเยื่อกลุ่มเดียวกันในสมัยที่ยังเป็นเอ็มบริโออยู่ในครรภ์นั่นเอง
คลิตอริสของมนุษย์และไพรเมตกลุ่มอื่นๆ ได้รับการศึกษาและทำความเข้าใจเป็นอย่างดี แต่กับสัตว์น้ำแสนฉลาดขี้เล่นและเต็มไปกามารมณ์อย่างโลมายังไม่มีใครศึกษามากนัก
ทีมนักวิจัยนำโดย ดร.ดารา ออบาช จากวิทยาลัยเมานต์โฮลีโยก ศึกษากายวิภาคคลิตอริสจากซากโลมาปากขวดที่ตายตามธรรมชาติจำนวน 11 ตัว ภายใต้การดูแลของสำนักงานบริการประมงทางทะเลแห่งชาติ (Natural Marine Fisheries Service) สหรัฐอเมริกา โดยทีมนักวิจัยได้นำเสนอผลการศึกษาดังกล่าวในการประชุมวิชาการประจำปีของสมาคมนักกายวิภาคศาสตร์อเมริกัน (American Association of Anatomists) เมื่อต้นเดือนเมษายนที่ผ่านมา
ดร.ดาราและคณะได้ผ่าซากโลมาเพื่อศึกษาโครงสร้างของคลิตอริสที่อยู่ลึกลงไปใต้ชั้นผิวหนัง แล้วใช้เอ็กซเรย์สแกนเพื่อนำมาสร้างเป็นภาพสามมิติ รวมถึงตัดชิ้นเนื้อเยื่อเก็บไว้ใช้ศึกษาโครงสร้างด้วยกล้องจุลทรรศน์
ทีมนักวิจัยพบว่าคลิตอริสของโลมาประกอบไปด้วยเนื้อเยื่อฟองน้ำที่แข็งตัวได้ขนาดใหญ่ฝังตัวอยู่ในร่างกาย ส่วนปลายหลอมรวมกันและโผล่ออกมาด้านนอก ทั้งยังมีหนังหุ้มคล้ายกับของมนุษย์ โดยหนังหุ้มที่อยู่รอบๆ คลิตอริสพับทบกันไปมา สันนิษฐานว่าเพื่อรองรับคลิตอริสที่ใหญ่โตขึ้นเมื่อมีอารมณ์ทางเพศ
แต่ตำแหน่งคลิตอริสของโลมานั้นอยู่บริเวณปากทางเข้าช่องคลอด นั่นหมายความว่ามันจะสัมผัสกับองคชาตได้โดยตรง ต่างจากของมนุษย์ซึ่งอยู่เหนือช่องคลอด
นอกจากนี้ทีมนักวิจัยยังไม่พบกระเปาะโพรง (Vestibular bulb) ในโลมา ซึ่งปกติจะพบในมนุษย์
กระเปาะโพรงเป็นเนื้อเยื่อที่ขยายใหญ่ขึ้นได้เมื่อมีเลือดมาคั่งอยู่ภายใน สำหรับมนุษย์มันจะทำให้แคมเล็กขยายใหญ่ขึ้นเมื่อมีอารมณ์ทางเพศ โดยเฉพาะตอนที่ถึงจุดสุดยอด
ผศ.ดร.แพทริเซีย เบรนแนน หนึ่งในทีมวิจัย ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่าการศึกษาลักษณะทางกายวิภาคยืนยันว่าคลิตอริสของโลมามีหน้าที่สำคัญในจังหวะที่พวกมันกำลังสมสู่กัน แต่กลไกทางสรีรวิทยารวมถึงความสำคัญในเชิงพฤติกรรมยังคงต้องศึกษาเจาะลึกกันต่อไป
งานวิจัยนี้เป็นตัวอย่างที่ดีของการศึกษากายวิภาคศาสตร์ของระบบสืบพันธุ์เชิงเปรียบเทียบในกลุ่มสัตว์มีกระดูกสันหลัง ซึ่งช่วยตอกย้ำว่าการมีเพศสัมพันธ์ไม่ได้หมายถึงการสืบพันธุ์ทุกครั้งไป และปรากฏการณ์นี้ก็ไม่ได้พบแค่ในมนุษย์
“เรากำลังหยั่งถึงความเข้าใจที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้นเกี่ยวกับโครงสร้างและหน้าที่ของอวัยวะเพศมากขึ้นเรื่อยๆ” ดร.ดารา กล่าวปิดท้าย
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์
อ้างอิง: