เทรนใหม่วัยรุ่น? “ฆ่าตัวตาย” ด้วยของกินสุดอร่อย!
By : Teerapat Lohanan
ในปัจจุบันนี้มีของกินหลายอย่างที่เป็นที่นิยมตามกระแสของวัยรุ่น ไม่ว่าอะไรออกมาใหม่ๆ ก็ต้องไม่พลาดตามไปลองชิมกันให้ถึงที่ให้ได้ ทั้งอิ่มอร่อย แถมยังได้ถ่ายรูปเกร๋ๆไปอวดเพื่อนในโซเชียลกันอีกด้วย
แต่ช้าก่อนนะวัยรุ่น! ถ้าคิดจะไปลิ้มลองอาหารเหล่านั้นแล้วละก็ มารู้ข้อมูลเหล่านี้กันก่อนจะตัดสินใจกันดีไหม?
เริ่มจาก
1. ชานมไข่มุก
ชานมไข่มุกหนึ่งแก้ว มีปริมาณแคลอรี่รวมๆ อยู่ประมาณ 400 แคลอรี่! โดยตัวชานมแค่อย่างเดียวก็มีปริมาณแคลอรี่อยู่ที่ 230 แคลอรี่แล้ว รวมเข้ากับไข่มุกที่เพิ่มเข้ามาอีกในหนึ่งแก้ว ประมาน 160 แคลอรี่ รวมๆแล้วก็อยู่ที่ 400 แคลอรี่พอดีเป๊ะ
และชานมไข่มุกก็คือเครื่องดื่มที่อุดมไปด้วยน้ำตาล ไม่ว่าจะเป็นตัวของชานมเอง หรือไข่มุกก็ตาม ซึ่ง ตามทางการแพทย์แล้วในหนึ่งวัน คนเราไม่ควรบริโภคน้ำตาลเกิน 6 ช้อนชา (ประมาณ 24 กรัม) ซึ่งชานมไข่มุกแก้วนึงก็มีปริมาณน้ำตาลปาเข้าไป 25.50 – 36.45 กรัม ไปแล้ว
ซึ่งจะส่งผลให้เราเป็นโรคต่างๆดังนี้
1. โรคอ้วน
2. โรคหลอดเลือดหัวใจ
และยังไม่รวมไปถึงโรคมะเร็งที่อาจเกิดขึ้นได้จากเม็ดไข่มุกที่มีสารก่อมะเร็งเจือปนอยู่เป็นจำนวนมาก
2. บิงซู
เจ้าน้ำแข็งใสสุดอร่อยที่นัดเพื่อนไปกินกันบ่อยๆ ต้องบอกก่อนเลยว่า ในปริมาณต่อหนึ่งถ้วยเนี่ย มีแคลอรี่ปาเข้าไปแล้ว 300 – 750 กิโลแคลอรี่!!! เพราะจากส่วนประกอบของมันเอง ที่อุดมไปด้วย ทั้งน้ำตาล ทั้งนมข้น ทั้งท็อปปิ้ง ที่ไหนจะเป็นช็อคโกแลต หรือแยมสีสันต่างๆ ซึ่งเมื่อเทียบกับของหวานไทยๆอย่างข้าวเหนียวทุเรียนหรือข้าวเหนียวมะม่วงเนี่ย แคลอรี่ของบิงซูถือว่าแซงไปไกลมากๆ
3. ฮันนี่โทสต์
ฮันนี่โทสต์เป็นอีกหนึ่งเมนูของหวานที่วัยรุ่นยุคนี้ต้องชวนกันไปกินหลังทานมื้อหนักๆกันสักตั้ง เพราะด้วยความเย็นฉ่ำของไอศกรีมที่เป็นท็อปปิ้งยอดฮิตของมัน สามารถทำให้มันกลายเป็นของหวานยอดนิยมหลังทานข้าวไปได้เลย
แต่ทว่า แคลอรี่ก็ชุ่มฉ่ำไม่แพ้ความอร่อยของมันเลยทีเดียว เพราะว่า มันให้พลังงานสูงถึง 500 – 1300 แคลอรี่เลย ซึ่งก็ไม่ค่อยน่าแปลกใจสักเท่าไหร่ ด้วยส่วนประกอบของมันที่ประกอบไปด้วยทั้ง ขนมปังอบเนย ไอศกรีม น้ำตาล น้ำเชื่อม ท็อปปิ้ง บลาๆๆ
4. เครปเย็น
เครปเย็นก็เป็นอีกหนึ่งเมนูที่หน้าตาน่าทานเป็นอย่างมาก ก็ไม่น่าสงสัยกันเลยว่าทำไม เพราะด้วยวิปครีมที่ราดอยู่บนเครปนุ่มๆ ไอศกรีมเย็นๆ และท็อปปิ้งที่โรยไปทั่วแผ่นแป้ง แค่นึกภาพตามใครๆก็ต้องน้ำลายสอกันทั้งนั้น
และก็ด้วยหน้าตาที่น่ารักน่าเอ็นดูของมันนี่ล่ะ เมื่อตกลงไปอยู่ในท้องของเราเมื่อไหร่ มันก็จะแปรเปลี่ยนเป็นพลังได้ถึง 450 แคลอรี่กันเลยทีเดียว ซึ่งนี่ยังไม่นับรวมกับท็อปปิ้ง ที่อาจจะถูกเพิ่มเข้ามา ไม่ว่าจะเป็นช็อคโกแลต หรือซอสราดต่างๆ ใครที่อยากอ้วนบอกเลยว่าไม่พลาด เพราะได้อ้วนกันแบบแน่นๆไปเลย
เมื่อรู้อย่างนี้กันแล้วก็ดูเหมือนว่าจะต้องควบคุมทั้งปริมาณในการกินทั้งหมั่นออกกำลังกายเพื่อเผาผลาญพลังงานส่วนเกิน เพื่อเป็นการดูแลสุขภาพให้ดีขึ้นอีกด้วย มิเช่นนั้น อาจจะเป็นการฆ่าตัวตายทีละน้อยโดยที่เราไม่รู้ตัว ก็เป็นได้!!
ภาพประกอบ : Pinterest