โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

หุ้น การลงทุน

ทรู เปิดผลประกอบการไตรมาส 1/2567 กำไร 802 ล้านบาท EBITDA เพิ่มขึ้น 5 ไตรมาสติด

The Bangkok Insight

อัพเดต 03 พ.ค. เวลา 13.19 น. • เผยแพร่ 03 พ.ค. เวลา 13.19 น. • The Bangkok Insight
ทรู เปิดผลประกอบการไตรมาส 1/2567 กำไร 802 ล้านบาท EBITDA เพิ่มขึ้น 5 ไตรมาสติด

"ทรู" รายงานผลประกอบการไตรมาสแรกปี 2567 มีกำไรภายหลังการปรับปรุงหลังหักภาษี จำนวน 802 ล้านบาท เหตุ EBITDA โต 5 ไตรมาสติด แรงหนุนจากธุรกิจมือถือ ออนไลน์ และธุรกิจโทรทัศน์บอกรับสมาชิก พร้อมการรับรู้ผลประโยชน์จากการควบรวม และการเพิ่มประสิทธิภาพในเชิงโครงสร้างที่ส่งผลดีต่อค่าใช้จ่ายในการดำเนินธุรกิจ

นายมนัสส์ มานะวุฒิเวช ประธานคณะผู้บริหาร บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ทรู คอร์ปอเรชั่นสามารถพลิกสถานการณ์กลับมามีกำไรได้ภายในเวลาเพียง 12 เดือน หลังการควบรวมกิจการของทรูและดีแทค ซึ่งการเติบโตในเชิงคุณภาพของจำนวนผู้ใช้บริการ และรายได้ในระยะยาว ส่งผลให้รายได้จากการให้บริการ เติบโตอย่างสม่ำเสมอในทุกไตรมาส พร้อมทั้ง EBITDA เพิ่มขึ้น 5 ไตรมาสติดต่อกัน

ทรู
ทรู

ทางด้านนายชารัด เมห์โรทรา รองประธานคณะผู้บริหาร ทรู กล่าวว่า ทรูและดีแทคยังคงเป็นแบรนด์ยอดนิยมของกลุ่มนักท่องเที่ยว และกลุ่มแรงงานต่างด้าว โดยในไตรมาส 1/2567 บริษัทยังมุ่งเน้นการพัฒนาเครือข่ายให้ทันสมัยอย่างต่อเนื่อง เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้นแก่ลูกค้าในไทย โดยได้พัฒนาเสาสัญญาณรวม 3,700 แห่งจนถึงปัจจุบัน ส่งผลให้เกิดประสิทธิภาพด้านค่าใช้จ่ายดียิ่งขึ้นอีกด้วย

ทรู ยังมุ่งมั่นสู่การเป็นองค์กรที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี AI ตั้งเป้าหมายที่จะสร้างผู้เชี่ยวชาญที่มีความสามารถด้านดิจิทัลมากกว่า 5,000 คนภายในปี 2568 พร้อมทั้งเปลี่ยนการทำงานที่ทำเป็นประจำให้เป็นในรูปแบบอัตโนมัติ 100% ภายในปี 2570

ขณะเดียวกัน ยังคงพัฒนาประสบการณ์ลูกค้า ผ่านศูนย์ปฏิบัติการเครือข่ายอัจฉริยะ Business and Network Intelligence Center (BNIC) ที่ล้ำสมัย ซึ่งตรวจสอบการใช้งานเครือข่ายอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นการใช้งานดาต้า การบริหารความจุโครงข่าย ความสมบูรณ์ของระบบ และการเชื่อมต่ออุปกรณ์

ทางด้านนายนกุล เซห์กัล หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านการเงิน (ร่วม) ทรู ระบุว่า บริษัทสามารถพลิกฟื้นธุรกิจ โดยมีกำไรภายหลังการปรับปรุง 802 ล้านบาท พร้อม EBITDA เพิ่มขึ้น 5 ไตรมาสติดต่อกันในไตรมาส 1/2567

รายได้จากการให้บริการไม่รวมค่าเชื่อมต่อโครงข่าย หรือ IC เพิ่มขึ้น 6.2% เมื่อเทียบกับปีก่อน และ 1.5% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน โดยได้แรงหนุนจากการเติบโตของรายได้จากธุรกิจมือถือ ออนไลน์ และโทรทัศน์บอกรับสมาชิก รายได้รวมในไตรมาสแรกยังคงทรงตัวเมื่อเทียบกับปีก่อน แต่ลดลง 1.9% จากไตรมาสก่อน เนื่องจากยอดขายอุปกรณ์ลดลงจากปัจจัยฤดูกาล

รายได้จากบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ปรับตัวดีขึ้นทั้งเมื่อเทียบกับปีก่อนและไตรมาสก่อน จากจำนวนกลุ่มนักท่องเที่ยวและกลุ่มแรงงานต่างด้าวที่หลั่งไหลเข้ามาอย่างต่อเนื่อง พร้อมกับการมุ่งเน้นให้ความสำคัญกับฐานลูกค้าเดิม

ทรู
ทรู

รายได้จากการให้บริการออนไลน์เพิ่มขึ้น ทั้งเมื่อเทียบกับปีก่อน และไตรมาสก่อน ด้วยแรงหนุนจากการเพิ่มขึ้นของ ARPU จากการลดลงของการให้ส่วนลดและการยกระดับลูกค้าปัจจุบันไปสู่แพ็กเกจต่าง ๆ ที่มีมูลค่าสูงขึ้น ในขณะที่รายได้จากบริการโทรทัศน์แบบบอกรับสมาชิก (PayTV) ปรับตัวดีขึ้นทั้งจากปีก่อนและไตรมาสก่อน จากรายได้ที่เพิ่มขึ้นในส่วนของรายได้จากธุรกิจดนตรีและบันเทิง

ในไตรมาส 1/2567 ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานไม่รวมค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่าย (D&A) ลดลง 13.4% เมื่อเทียบกับปีก่อน และ 7.0% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน จากการรับรู้ผลประโยชน์จากการควบรวม และการมุ่งเน้นมาตรการเพิ่มประสิทธิภาพเชิงโครงสร้าง ในไตรมาสที่ 1/2567 ต้นทุนจากการขายลดลงสอดคล้องกับยอดขายสินค้าที่ลดลงในไตรมาสนี้

ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารในไตรมาสที่ 1/2567 ลดลง 28.8% จากปีก่อน และ 8.9% จากไตรมาสก่อน โดยได้ประโยชน์จากการควบรวมด้วยการบริหารต้นทุนค่าคอมมิชชั่นและค่าใช้จ่ายทางการตลาดที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น ตลอดจนหนี้เสียที่ลดลง ในขณะที่ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานอื่น ๆ ยังคงได้รับการควบคุมอย่างดีจากการขับเคลื่อนวัฒนธรรมการปฏิบัติงานที่มุ่งเน้นการบรรลุเป้าหมายในการดำเนินงานทั่วทั้งองค์กร

สำหรับ 3 เดือนแรกของปีนี้ EBITDA เพิ่มขึ้น 21.3% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้น 4.8% จากไตรมาสก่อน โดย EBITDA สำหรับไตรมาส 1/2567 ปรับตัวดีขึ้น 1,082 ล้านบาท จากไตรมาสก่อน เป็นผลมาจากการปรับตัวที่ดีขึ้นของรายได้ ในขณะที่การเติบโตประมาณ 40% เกิดจากการรับรู้ผลประโยชน์จากการควบรวม EBITDA ต่อรายได้จากการให้บริการดีขึ้นเป็น 57.2% สำหรับไตรมาสที่ 1/2567

ทรู
ทรู

ในไตรมาส 1/2567 ทรู บันทึกผลกระทบเชิงลบที่เกิดขึ้นเพียงครั้งเดียวจากการด้อยค่าสินทรัพย์ ที่มีความซ้ำซ้อนที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินการพัฒนาเครือข่ายให้ทันสมัย จำนวน 1,571 ล้านบาท ส่งผลให้มีขาดทุนสุทธิหลังหักภาษี จำนวน 769 ล้านบาท

หากไม่รวมผลกระทบที่เกิดขึ้นเพียงครั้งเดียว กำไรสุทธิหลังหักภาษีจะอยู่ที่ 802 ล้านบาท ปรับตัวดีขึ้น 1,182 ล้านบาทจากไตรมาสก่อน โดยมีปัจจัยหลักมาจากการปรับตัวดีขึ้นของ EBITDA ทั้งนี้ ค่าใช้จ่ายด้านการลงทุน (CAPEX) สำหรับไตรมาสแรกของปี 2567 อยู่ที่ 3,557 ล้านบาท เป็นผลมาจากการรับรู้ผลประโยชน์จากการควบรวม”

ทั้งนี้ บริษัทยังคงแนวโน้มสำหรับปี 2567 ตามเดิม โดยคาดว่ารายได้จากการให้บริการไม่รวมรายได้ค่าเชื่อมต่อโครงข่าย (IC) จะมีการเติบโต 3-4% EBITDA จะมีการเติบโต 9-11% และค่าใช้จ่ายลงทุนรวมงบลงทุนเพื่อให้ได้มาซึ่งประโยชน์จากการควบรวม หรือ CAPEX ประมาณการณ์ไว้ที่ 3 หมื่นล้านบาท โดยคาดว่าจะสามารถทำกำไรภายหลังการปรับปรุง (Normalized) ได้ในปี 2567

ตัวเลขทางการเงินที่สำคัญในไตรมาส 1 ปี 2567

  • รายได้จากบริการไม่รวมค่าเชื่อมต่อโครงข่าย หรือ IC จำนวน 41,268 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.2% (YoY) และ 1.5% (QoQ)
  • EBITDA อยู่ที่ 23,602 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 21.3% (YoY) และ 4.8% (QoQ)
  • อัตราส่วน EBITDA ต่อรายได้จากการให้บริการ อยู่ที่ 57.2%
  • กำไรสุทธิภายหลังการปรับปรุง (Normalized) จำนวน 802 ล้านบาท ปรับตัวดีขึ้นจากไตรมาสก่อน 1,182 ล้านบาท

อ่านข่าวเพิ่มเติม

ติดตามเราได้ที่

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0