โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ภูมิภาค

คณบดีคณะแพทย์เผยเคสน้องวีน ตรวจสอบแล้วจนจริง ไม่ปิดกั้นโอกาสเข้าศึกษาต่อที่คณะแพทย์

ข่าวเวิร์คพอยท์ 23

อัพเดต 25 ม.ค. 2566 เวลา 08.08 น. • เผยแพร่ 25 ม.ค. 2566 เวลา 08.08 น.

คณบดีคณะแพทย์เผยเคสน้องวีน ตรวจสอบแล้วจนจริงๆ ไม่ได้จนทิพย์ ส่งทีมอาจารย์ตามไปดูถึงบ้าน ไม่ปิดกั้นโอกาสเข้าศึกษาต่อที่คณะแพทย์ เพราะได้มาด้วยความรู้ ความสามารถ คาดน้องวีน ยังคงไม่ละทิ้งความตั้งใจเดิมแม้เจอกระแสดราม่า

วันที่ 25 ม.ค. 66 ที่ห้องประชุมคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ (ม.อ.) อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ได้มีการจัดพิธีลงบันทึกข้อตกลงโครงการพัฒนาระบบอัจฉริยะสำหรับแลกเปลี่ยนและประยุกต์ใช้ข้อมูลทางด้านสุขภาพ เพื่อยกระดับบริการทางสาธารณสุข สำหรับสถานพยาบาลขนาดต่างๆ ใน จ.สงขลา หรือ Hospital Information Exchange : HIE

โดยเป็นความร่วมมือระหว่างคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสงขลา และ องค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา ซึ่งการจัดทำระบบในครั้งนี้ได้รับการสนับสนุนทุนการดำเนินงานจากกองทุนพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม สำนักงานคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ

สำหรับพิธีลงนามในครั้งนี้มีผู้เข้าร่วมประกอบด้วย นายเจษฎา จิตรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา เป็นประธาน , รศ.นพ.เรืองศักดิ์ ลีธนาภรณ์ คณบดีคณะแพทยศาสตร์ , นพ.สงกรานต์ ไหมชุม นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสงขลา , นายไพเจน มากสุวรรณ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา และ รศ.ดร.วศิน สุวรรณรัตน์ รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตหาดใหญ่

นอกจากนั้นภายหลังเสร็จสิ้นพิธีลงนามในครั้งนี้ ผู้สื่อข่าวได้สอบถามกับทาง รศ.นพ.เรืองศักดิ์ ลีธนาภรณ์ คณบดีคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ เกี่ยวกับประเด็นของน้องวีน หรือ นายกันตภณ เต่าจันทร์ อายุ 18 ปี นักเรียนชั้น ม.6 โรงเรียนปัญญาวุธ จ.พัทลุง ที่สอบผ่านการทดสอบรอบพิเศษเข้าศึกษาต่อที่คณะแพทย์ศาสตร์ แต่ปรากฏเป็นกระแสดราม่าในสังคมเกี่ยวกับเรื่องการเปิดรับบริจาคหาทุนเรียน และหลายคนมองว่า ครอบครัวนี้จะจนทิพย์หรือไม่ รวมทั้งกระแสข่าวว่า ทางมหาลัยหรือคณะอาจจะไม่รับเข้าศึกษาต่อนั้น

รศ.นพ.เรืองศักดิ์ ลีธนาภรณ์ คณบดีคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ เปิดเผยว่า ต้องแยกเป็นประเด็นๆไป โดยน้องวีน สอบได้จริง ซึ่งมาจากความรู้ ความสามารถ ของน้อง และสกิลการเป็นหมอมี และผ่านการทดสอบมาตามขั้นตอน ไม่ได้ลัดขั้นตอนใดๆทั้งสิ้น ซึ่งถือว่า เป็นผู้มีความสามารถที่จะเข้ามาเป็นนักเรียนแพทย์ได้

ส่วนประเด็นเรื่องจนจริงหรือไม่นั้น ต้องบอกว่า จนจริงไม่ได้แค่อ่าน หรือฟังคำบอกเล่าของใครมา แต่ทางคณะแพทยศาสตร์ ได้ส่งทีมอาจารย์ลงพื้นที่ไปพบกับเด็ก และครอบครัว รวมทั้งสอบถามจากญาติ คนใกล้ชิด และผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในพื้นที่ ซึ่งมีข้อมูลหลักฐานยืนยันได้ว่า ครอบคัวของน้องวีน จนจริงๆ ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ และหากต้องมาเรียนแพทย์ก็คงจะไม่มีกำลังทรัพย์ที่เพียงพอ ซึ่งทั้งหมดเรื่องความจนยืนยันได้ว่า เป็นข้อมูลจริง

คณบดีคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ กล่าวอีกว่า ในส่วนเรื่องการเปิดรับบริจาคนั้นไม่น่าจะเป็นประเด็นที่จะไม่รับเข้าศึกษาต่อแต่อย่างใด ซึ่ง น้องวีน และครอบครัว เมื่อรู้ว่าสอบได้ก็ดีใจมาก และเชื่อว่า เมื่อรู้ว่าสอบติด และต้องเรียนแพทย์ จึงอาจจะมีความกังวลเรื่องค่าใช้จ่าย และอาจจะไม่มีเงินไปเรียน จึงพยายามขวนขวายหาหนทาง ซึ่งสิ่งที่ทำก็ไม่ได้เป็นการโกหกหลอกลวง และสิ่งที่น้องวีน และครอบครัวพูด ก็เป็นความจริง

ขณะที่ในเรื่องเงินทุนการศึกษานั้น ทางคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ มีบุคลากร และองค์กรภายนอก ที่คอยสนับสนุนทุนการศึกษาให้กับนักศึกษาแพทย์ตั้งแต่ปี 1- ปี 6 อีกทั้งยังมีทุนการศึกษาจากมูลนิธิโรงพยาบาลสงขลานครินทร์ อีกส่วนหนึ่งที่จะมอบให้กับนักศึกษาที่เรียนดี ประพฤติดี แต่ขาดแคลนทุนทรัพย์ ด้วย ซึ่งกรณีของน้องวีน หรือนักศึกษาคนอื่นๆ ที่มีปัญหาเรื่องค่าเล่าเรียนนั้น ทางคณะแพทยศาสตร์ มีขบวนการที่จะเข้าไปช่วยเหลือนักศึกษาเหล่านี้อยู่แล้ว

คณบดีคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ กล่าวทิ้งท้ายว่า จากข้อมูลล่าสุดที่ได้ส่งทีมอาจารย์เข้าพบน้องวีน และครอบครัว ที่บ้านพักนั้น คาดว่าน้องวีน น่าจะมาเข้าศึกษาต่อที่คณะแพทย์ ซึ่งน้องมีความมุ่งมั่นตั้งใจที่จะเรียนมาตั้งแต่ต้น และคาดว่าน้องวีน คงจะไม่ล้มเลิกความตั้งใจนี้

สำหรับการยืนยันสิทธิ์เข้าศึกษาต่อที่คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ จะมีขึ้นในวันที่ 7-8 ก.พ.66 และจะมีการพิจารณาพร้อมกับประกาศผลผู้ที่ได้รับการคัดเลือดเข้าศึกษาต่อในวันที่ 11 ก.พ.66 นี้

.
ติดตามเพจข่าวเวิร์คพอยท์23 ที่ https://www.facebook.com/NewsWorkpoint

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0

ความเห็น 34

  • chainarong.
    ปัญหาไม่ใช่ความจนของเด็ก ประเด็นคือ จริยธรรมเหมาะสมไหม พฤติกรรมเห็นๆ คุณจะเอาคนแบบนี้มาผลิตเป็นแพทย์ให้สังคมหรือ สุดอนาถใจ คณะแพทย์มีอาจารย์ ต่อมจริยะธรรมเสื่อม แบบนี้ สังคมจะหวังอะไรกับ คณะแพทย์ หรือมหาวิทยาลัยแบบนี้ ต่อมจริยธรรม เสื่อมทั้งคณะ ขาดจิตสำนึกที่ดีต่อสังคมโดยรวม
    25 ม.ค. 2566 เวลา 11.25 น.
  • ♋️เฏ้ย♋️
    ให้ไปเรียนคณะอื่นเถอะ หมอไม่น่าจะเหมาะแล้ว
    25 ม.ค. 2566 เวลา 11.10 น.
  • Toy
    จนแต่ใช้ของแพงเชียว ถึงแม้บอกว่าผ่อนเราลูกเราทำงานแล้วยังไม่กล้าผ่อนโทรศัพท์ราคา 20,000 ขนาดนั้นเลย เราใช้ราคาไม่ถึง 10,000 แค่8,000 เอง นี่นะจน เฮ้อ!
    25 ม.ค. 2566 เวลา 11.39 น.
  • อาจารย์บอกว่ามีทุนในอยู่แล้ว แล้วทำไมยังเปิดรับบริจาคล่ะ คนที่รับบริจาคได้มีแค่หมอหรือไง คนอื่นที่เค้าจนไม่มีเงินเรียน เค้าไม่ได้เปิดรับ บริจาค เพราะคำว่าละอายใจนี่แหละ
    25 ม.ค. 2566 เวลา 11.39 น.
  • SW
    ครับ จนมาก
    25 ม.ค. 2566 เวลา 11.23 น.
ดูทั้งหมด