ขอพูดถึงหนังออสการ์เรื่องสุดท้าย เพราะ JOKER (2019) เป็นอีกเรื่องนึงที่ไม่พูดถึงไม่ได้จริงๆ
ถ้า PARASITE โดดเด่นในเรื่องของบท
1917 โดดเด่นในเรื่องของเทคนิคการถ่ายทำ
JOKER ก็เป็นเรื่องที่โดดเด่นในเรื่องของการแสดงอย่างเห็นได้ชัด
ในเรื่องจะพุ่งเป้าไปที่ตัวละครเอกตัวเดียวไปเลย ว่าต้องประสบพบเจอกับอะไร ถึงทำให้เขากลายเป็นฆาตกรวายร้าย ที่เป็นผู้นำทางสัญลักษณ์สร้างความปั่นป่วนให้กับเมืองก็อดแธม ซึ่งเวอร์ชั่น 2019 มากับการตีความใหม่
ทั้งหมดทั้งมวลคือเขาไม่ได้คิดทำอะไรยิ่งใหญ่เลยแม้แต่นิดเดียว
เรื่องจะเริ่มให้เห็นว่าเมืองก็อดแธมเป็นเมืองที่เหมือนผู้ป่วยเรื้อรังใกล้ตาย เต็มไปด้วยชยะที่กำลังล้นเมือง มีแต่มลพิษ กลิ่นเหม็น เสียงดัง เต็มด้วยคนตกงาน อาชญากรรม (แม๊… มันช่างคุ้นเคยซะเหลือเกิน ว่ามั้ย) และโจ้กเกอร์ ก็เป็นแค่คนธรรมดาคนหนึ่งที่อาศัยอยู่ในเมืองที่สิ้นหวังนี้
ถ้าเขาเป็นคนปกติ ก็จะปรับตัวและอาศัยอยู่กับมันอย่างกลมกลืนอย่างที่ควรจะเป็น แต่เขาเริ่มจากการเป็นผู้ป่วยที่มีอาการทางจิต ที่โดยปกติแล้ว ถ้าเขามีความพร้อมซักหน่อย หรืออย่างน้อยที่สุด ถ้ามีใครซักคนที่เข้าใจ พร้อมจะปลอบโยนและชี้นำไปในทางที่ถูก จะพอผ่านพ้นไปได้
แต่โจ้กเกอร์ไม่มีสิ่งเหล่านั้น เขายากจนไร้อนาคต ความฝันมีแต่คนรอหัวเราะเยาะ แม่ที่เป็นครอบครัวเพียงคนเดียวก็ไม่เป็นที่ยึดเหนี่ยว ไม่มีเพื่อน ไม่มีใครเข้าใจเสียงหัวเราะที่เกิดจากการควบคุมไม่ได้ สังคมพร้อมจะทำร้ายเมื่อเขาผิดพลาด หรือ กระทั่งตอนที่เขาไม่ทันได้ทำอะไร
แม้แต่สวัสดิการรัฐเพื่อการรักษาอาการทางจิตยังทอดทิ้งเขา
ยิ่งเมื่อรวมกับปัจจัยเสริมต่างๆมันยิ่งบีบให้คนที่ผิดปกติ ไม่สามารถกลับเข้าไปในสังคมได้ โจ้กเกอร์เริ่มพังทลายและบ้าคลั่งขึ้นเรื่อยๆ ยิ่งเมื่อขาดยาที่รัฐควรจะต้องให้ เขาก็ยิ่งขาดการควบคุม กลายเป็นฆาตกรขึ้นมา
อย่างที่กล่าวตอนแรก ว่าก็อดแธมเป็นเมืองที่ใกล้ตาย คนที่เป็นเหมือนโจ้กเกอร์จึงไม่ได้เป็นคนเดียว แต่เป็นเหมือนก้านไม้ขีดที่ยังไม่ได้จุดสูบ พอมีใครซักคนนึงที่จุดไฟติดแล้ว ก้านไม้ขีดอันต่อๆไปก็ติดไฟได้ไม่ยาก
กลายเป็นว่าไม้ชีดที่สิ้นสุดความอดทนพวกนั้นได้เผาเมืองจนวอดวายในตอนจบ
และโลกก็พลิกกลายเป็นว่าคนปกติต่างหากที่อยู่ไม่ได้
พูดแล้วอยากไปดูอีกรอบเลยเนี่ย
แต่ถ้าใครที่จิตใจไม่พร้อมขอและนำว่าอย่าเพิ่งดูเลยนะ เพราะเรื่องมันค่อนข้างจะกดดันและดำดิ่งมาก
ไม่ใช่หนังที่ดูเพื่อผ่อนคลายแน่ๆ
ติดตามบทความใหม่ ๆ จาก ละครสะท้อนอะไร ได้ทุกวันพฤหัสบดี บน LINE TODAY และหากสามารถอ่านบทความอื่นได้ที่เพจละครสะท้อนอะไร
ความเห็น 12
Jade
แต่ถ้าโจ๊กหมูก็อร่อยเลย ไอ่สัส
12 มี.ค. 2563 เวลา 14.42 น.
สะท้อนเรื่องจริงแต่มนุษย์ผู้เขลาส่วนมากมิอาจรับได้
12 มี.ค. 2563 เวลา 08.36 น.
Lavanaporn
สะท้อนว่า คนเขียนก็แค่เขียนเพื่อระบาย ความเป็นจริง ของประชาธิปไตยมาจากใคร เป็นคนเลือก ก็ประชาชนเป็นคนเลือก และพอคนที่ถูกเลือกไปืำล่ยระบบทุกอย่าง ก็คน ทีเลือกๆม่ยอมออกมาต่อต้านเองแบะปล่อยให้โดนทำลาย พอมีอะไรเขเามาช่วยกลับไม่ขอบบอกว่าไม่ดี ถ้่ตอนนั่นคนทีเลือกคนที่เข้ามาทำลายระบบตั่งแต่ต้นออกมา เพืีอกำจัดออกไป ปัญหา ของละครที่ผู้เขียนคงไม่เกิดขึ้นใช่หรือไม่ อย่าคิดแต่ด้านเดียว เพราะทุกอย่างคนในเป็นคนเลือก ใข่หรือไม่ถามใจ ตัวเอง
12 มี.ค. 2563 เวลา 09.02 น.
Gian
โจ๊กเกอร์แสดงให้เห็นถึงความเน่าเฟะในสังคม
สังคมที่เน่าเฟะเปลี่ยนแปลงให้คนกลายเป็นปีศาจ
หลายเหตุการณ์ไม่ดีที่เกิดขึ้นในบ้านเรา ก็เกิดจากความเน่าเฟะในสังคมเรานี่แหละ
12 มี.ค. 2563 เวลา 14.44 น.
Lavanaporn
และประชาธิปไตยมันโดนทำลายสมัยไหนเป็นละ อย่ายอกนะว่าไม่รู้ ใช้ไม่นักข่าว
12 มี.ค. 2563 เวลา 09.03 น.
ดูทั้งหมด