Resume (เรซูเม่) หรือประวัติส่วนตัวของผู้สมัครงานที่เป็นเหมือนปราการด่านแรกที่ใช้ในการสมัครงาน ดังนั้นเรซูเม่จึงมีความสำคัญมาก
อย่างที่บอกว่าเรซูเม่คือด่านแรก จะได้ไปต่อหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับเจ้าเรซูเม่นี่แหละ ว่าบอกเล่าอะไรเกี่ยวกับตัวคุณบ้าง ดึงดูดความสนใจของบริษัทหรือองค์กรต่าง ๆ ให้ตอบรับเรียกเข้าสัมภาษณ์ได้มากแค่ไหน เพราะฉะนั้นการเขียนเรซูเม่จึงไม่ใช่แค่การยัด ๆ สิ่งที่มีลงไป แต่เป็นการคิดแล้วคิดอีก ว่าสิ่งที่เรามี ดึงดูด HR ของบริษัทนั้น ๆ หรือไม่
วัตถุประสงค์หลักของเรซูเม่ก็คือ การบอกเล่าประวัติส่วนตัวและประสบการณ์ที่ผ่านมาของผู้สมัคร ทั้งการทำงาน การศึกษา รวมถึงทักษะความสามารถที่จำเป็นในงาน เพราะฉะนั้นเรซูเม่ของคุณก็ต้องตอบโจทย์ตรงนี้ให้ได้ ที่สำคัญต้องมีแค่ 1 หน้าเท่านั้น!
ถามว่าความสวยงามจำเป็นไหม..คำตอบคือจำเป็น แต่ไม่เท่ากับ 5 พอยท์สำคัญเหล่านี้ ที่ต้องมีอยู่ในนั้น เพราะนอกจากสิ่งที่รู้กันอยู่แล้วว่าต้องมีในเรซูเม่อย่าง ชื่อ-สกุล ข้อมูลติดต่อ (อีเมล เบอร์โทรศัพท์) ประวัติการศึกษา ประวัติการทำงาน 5 พอยท์นี้ก็สำคัญไม่แพ้กัน
ความจริง
โกหกอะไรก็โกหกได้ แต่โกหกตัวเองมันยาก..การเขียนเรซูเม่ก็เช่นกัน ทุกอย่างที่บรรจุอยู่ในนั้นต้องเป็นความจริง อย่าลืมว่านี่คือโลกโซเชียล ทุกอย่างออนไลน์ถึงกันได้หมด อย่าพยายามโกหกเลยจะดีที่สุด
บางคนไม่รู้จะเขียนอะไรดี ประสบการณ์การทำงานก็ไม่มี กิจกรรมก็ไม่เคยร่วม คิดอะไรไม่ออกเลยใส่มั่ว ๆ ไป ทั้งงานอาสาสมัคร ทั้งกิจกรรมติ๊ดต่าง คิดแต่ว่าบริษัทคงไม่เสียเวลามาเช็กเรื่องพวกนี้หรอก
แต่จริง ๆ แล้ววิธีเช็กไม่ได้ยากเลย HR ขั้นเทพแค่คุยกับคุณเรื่องพวกนี้แป๊บเดียว ก็บอกได้แล้วว่าเรื่องจริงหรือแค่ฝอย เพราะฉะนั้นไม่มีก็คือไม่มี ไม่จำเป็นต้องหาอะไรมาใส่ให้วุ่นวาย เสียเวลาโกหก..ความจริงและทักษะความสามารถของเรานี่แหละ จะช่วยให้เราได้งานเอง
ประสบการณ์การทำงาน
อย่างที่บอกว่าวัตถุประสงค์หลักของเรซูเม่ก็คือ การบอกเล่าประวัติส่วนตัวและประสบการณ์ที่ผ่านมา แต่ไม่ได้หมายความว่าคนไม่มีประสบการณ์จะไม่มีสิทธิ์ได้งาน เพราะถ้าหากนำเสนอสิ่งที่สั่งสมไว้ออกมาได้ทั้งหมด โอกาสที่จะได้งานก็มีไม่แก้คนที่มีประสบการณ์เลย
นอกจากนี้ เรซูเม่ของคนที่มีประสบการณ์กับคนที่ไม่มีประสบการณ์จะมีการนำเสนอที่ค่อนข้างต่างกัน สำหรับคนที่มีประสบการณ์การทำงานมาแล้ว สิ่งที่ต้องทำก็คือ พยายามบอกถึงรายละเอียดของานที่ผ่านมาให้มากที่สุด
การที่กระดาษแค่ 1 หน้า จะบอกประสบการณ์ที่สั่งสมมาทั้งหมดได้นั้น เป็นเรื่องยาก ดังนั้นจึงไม่ใช่ยัด ๆ ลงไปหมดทุกอย่าง แต่ควรทำก็คือเลือกผลงานที่โดดเด่นแล้วนำเสนออย่างชาญฉลาด ความน่าสนใจของเรซูเม่ของคุณก็จะมีมากขึ้น
แต่สำหรับคนที่ยังไม่มีประสบการณ์การทำงานหรือเด็กจบใหม่ ต้องวางแผนให้ดี อย่าบุ่มบ่ามยัดอะไรมั่ว ๆ ไปเด็ดขาด ถ้าเคยฝึกงานหรือทำงานพาร์ทไทม์ก็จัดเต็มใส่ไปได้เลย แต่ถ้าไม่มี ไม่เคยทำมาก่อน สิ่งที่ต้องมีในเรซูเม่ก็คือกิจกรรมที่เคยทำระหว่างเรียน งานอดิเรก ผลการเรียน ทักษะต่าง ๆ เช่น ผลคะแนน TOEIC, IELTS หรือทักษะทางคอมพิวเตอร์
สิ่งเหล่านี้สามารถบอกถึงตัวเราได้อย่างชัดเจน ทั้งความตั้งใจเรียน ความสนใจในเรื่องต่าง ๆ เพราะในเมื่อยังไม่มีประสบการณ์ ตัวชี้วัดคงเป็นอย่างอื่นไปไม่ได้นอกจากสิ่งที่อยู่ในมหาวิทยาลัย ดังนั้นควรพยายามพรีเซนต์ตัวเองออกมาให้ได้มากที่สุด ว่าเรามีทักษะอะไร มีความสามารถด้านไหน แม้จะไม่เคยทำงานมาก่อน แต่ทักษะความสามารถเหล่านี้เป็นแต้มบวกที่ช่วยเพิ่มโอกาสให้ได้ไม่น้อยทีเดียว
รูปแบบที่น่าสนใจ
รูปแบบในที่นี้ ไม่ได้หมายถึงดีไซน์ที่สวยงาม แต่เป็นการพูดถึงภาพรวมของเรซูเม่ที่ต้องน่าสนใจพอที่จะทำให้ HR หยิบขึ้นมาพิจารณา
ยิ่งเดี๋ยวนี้เรซูเม่ถูกพัฒนาให้มีรูปแบบที่หลากหลายมากขึ้น ทั้งไฟล์ เว็บไซต์ บล็อก ฯลฯ แต่ไม่ว่าจะรูปแบบไหน สิ่งที่สำคัญก็คืออย่าลืมวัตถุประสงค์หลักของเรซูเม่เด็ดขาด บางคนมัวแต่ให้ความสำคัญกับดีไซน์ ตกแต่งอย่างสวยงาม ซึ่งก็สวยจริง แต่ไม่ได้สื่อถึงประวัติส่วนตัวและประสบการณ์ที่ผ่านมา การทำงาน การศึกษา รวมถึงทักษะความสามารถที่จำเป็นในงานเท่าที่ควร
อย่างที่บอกว่าความน่าสนใจของเรซูเม่ไม่ได้ขึ้นอยู่กับดีไซน์หรือความสวยงาม จะเป็นไฟล์เวิร์ดหรือแพตเทิร์นตารางอย่างในอินเทอร์เน็ตทำกันก็ไม่ผิด และไม่ได้ทำให้ความน่าสนใจลดน้อยเลย
สั้นและได้ใจความ
อย่างที่รู้กันว่าเรซูเม่ควรมีแค่ 1 หน้า ดังนั้นสิ่งที่อยู่ในเรซูเม่จึงต้องสั้น กระชับ อ่านง่าย และมีเฉพาะใจความสำคัญเท่านั้น
การยัดทุกอย่างลงไปโดยไม่ได้จัดเรียงความสำคัญเลยเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำอย่างยิ่ง วิธีง่าย ๆ ก็คือลิสต์ออกมาให้หมดว่าควรจะใส่อะไรลงไปบ้าง ประวัติส่วนตัวอะไร ประวัติการทำงานอะไร ทักษะความสามารถมีอะไรบ้าง โดยต้องไม่เยิ่นเย้อ ไม่ใช่ว่ากว่าจะเข้าเรื่องได้ เกริ่นนำไป 3-4 ประโยค กลายเป็นเรซูเม่ที่มีแต่น้ำ
ทางที่ดีควรตัดทอนให้เหลือเฉพาะใจความสำคัญ และนำเสนอให้น่าสนใจ ตรงประเด็น ที่ผ่านมาทำอะไรบ้าง เคยทำที่ไหนมาก่อน ขั้นตอนการทำเป็นอย่างไร ชัดเจนเข้าประเด็นไปเลย จะทำให้เรซูเม่ของคุณน่าสนใจมากขึ้น
ความถูกต้อง
เรซูเม่ที่ดีต้องน่าสนใจ บอกเล่าประวัติส่วนตัวและการทำงานที่ผ่านมาของคุณได้ แต่ที่สำคัญไปกว่านั้นก็คือความถูกต้อง ทั้งสะกดถูกต้องและถูกหลักไวยกรณ์
อย่าลืมว่านี่คือปราการด่านแรกที่ HR จะทำความรู้จักกับคุณ ถ้าเริ่มต้นก็ผิดพลาดซะแล้ว คงไม่มีประโยชน์อะไรที่จะทำความรู้จักกันต่อไปในอนาคต เพราะฉะนั้นขั้นตอนการตรวจทานจึงมีความสำคัญมาก
โดยเฉพาะเรซูเม่ภาษาอังกฤษที่บางคนไม่ค่อยถนัดไวยกรณ์นัก ทำให้เกิดข้อผิดพลาดในส่วนนี้ค่อนข้างมาก ดังนั้น ยิ่งไม่ถนัด ยิ่งต้องให้ความสำคัญเป็นพิเศษ
เบื้องต้นอาจเช็กด้วยตัวเองก่อน ทั้งตัวสะกดและคำศัพท์ จากนั้นหาตัวช่วยที่ถนัดเรื่องไวยกรณ์ให้ช่วยเช็กอีกรอบว่าสิ่งที่เราเขียนไปนั้น ถูกต้องหรือไม่ เมื่อเช็กแล้วเช็กอีกเรียบร้อยแล้วถึงจะกลายเป็นเรซูเม่ที่ใช้งานได้
เรซูเม่ใครประกอบด้วยทั้ง 5 พอยท์นี้ รับรองว่าเป็นเรซูเม่ทรงพลังที่ดึงดูดความสนใจของ HR ได้อย่างแน่นอน เพราะฉะนั้นจะเขียนเรซูเม่ทั้งที ไม่ใช่แค่มีชื่อ เบอร์ติดต่อแล้วจบ แต่รายละเอียดต่าง ๆ เหล่านี้เป็นตัวตัดสินใจเลยแหละว่าคุณจะได้งานนั้นหรือไม่…
ความเห็น 5
สุดท้ายดูที่เงินเดือนค่ะ..
20 พ.ค. 2562 เวลา 00.43 น.
James:)
มีใครแนะนำที่รับทำ Resume ดีๆบ้างครับ
08 พ.ค. 2562 เวลา 16.11 น.
5พอยต์ควรแยกมาเป็นข้อๆ1,2,3,4 และ5
19 พ.ค. 2562 เวลา 22.37 น.
PRACHA
พรรณนา
24 พ.ค. 2562 เวลา 22.30 น.
W.Direk_666 🐮789🐉♍♑🇹
ไร้สาระดีวะ นี่หรือเรชูเม่ท๊อปแค่พื้นฐานการสมัครงานเฉยๆ แม้จะเช็กไปก็ไม่มีประโยชน์เพราะบางบริษัทเน้นที่คนทำงานได้ก็พอ..
08 พ.ค. 2562 เวลา 23.23 น.
ดูทั้งหมด