กรมควบคุมโรค เตือนระวังอุบัติเหตุจากการจุดพลุ ประทัด ดอกไม้ไฟ ช่วงวันลอยกระทงปีนี้ อาจทำให้ได้รับบาดเจ็บทำให้สูญเสียอวัยวะสำคัญต่างๆ ในร่างกายได้
วันนี้ (8 พฤศจิกายน 2565) นายแพทย์ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ในวันที่ 8 พฤศจิกายนนี้ เป็นวันลอยกระทง ซึ่งรัฐบาลอนุญาตให้จังหวัดต่างๆ สามารถจัดงานเทศกาลต่างๆ ได้ โดยมีมาตรการรักษาความปลอดภัยของประชาชนผู้มาร่วมงาน และทุกปีที่ผ่านมาในช่วงเทศกาลลอยกระทง มักเกิดอุบัติเหตุจากการจุดพลุ ประทัด และดอกไม้ไฟ ทำให้ได้รับบาดเจ็บตามอวัยวะต่างๆ ของร่างกาย หากบาดเจ็บรุนแรงอาจสูญเสียอวัยวะสำคัญหรือถึงขั้นเสียชีวิตได้
จากข้อมูลระบบเฝ้าระวังการบาดเจ็บของกรมควบคุมโรค ปี 2564 มีผู้ได้รับบาดเจ็บจากพลุ ประทัด และดอกไม้ไฟ จำนวน 594 ราย พบมากในเดือนมกราคม ธันวาคม ตุลาคม พฤศจิกายน ตามลำดับ ซึ่งสอดคล้องกับช่วงเทศกาลในประเทศไทย โดยกลุ่มอายุที่พบมากที่สุดคือ 1-14 ปี (ร้อยละ 23.4) รองลงมา 15-29 ปี (ร้อยละ 22.7) อวัยวะที่ได้รับบาดเจ็บรุนแรง 3 อันดับแรก คือ มือ และนิ้ว (ร้อยละ 58.4) ตา (ร้อยละ 7.5) หัวและคอ (ร้อยละ 6.6)
นายแพทย์ปรีชา เปรมปรี รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวเพิ่มเติมว่า คำแนะนำในการป้องกันการบาดเจ็บจากพลุ ประทัด ดอกไม้ไฟ ดังนี้
- ไม่ควรให้เด็กจุดพลุ ประทัด ดอกไม้ไฟด้วยตนเอง
- ออกห่างจากบริเวณที่จุดประทัดหรือพลุ
- สอนเด็กให้รู้ถึงอันตรายของพลุ ประทัด และดอกไม้ไฟ เช่น อาจทำให้ตาบอด หูตึง นิ้วขาด พิการ หรือเสียชีวิตได้
- ห้ามโยนพลุ ประทัด และดอกไม้ไฟใส่ผู้อื่น
- ไม่ควรจุดซ้ำหากจุดแล้วไม่ติด
- หากจำเป็นต้องใช้ในงานพิธีควรจุดให้ห่างจากตัวประมาณ 1 ช่วงแขน ควรจุดในที่โล่งไม่จุดใกล้วัตถุไวไฟ ใบไม้แห้งอาคารบ้านเรือน และไม่ควรจุดครั้งละจำนวนมาก
- ห้ามเก็บไว้ในกระเป๋าเสื้อ กางเกง หรือที่มีอากาศร้อน เพราะอาจระเบิดได้
- ควรเตรียมภาชนะบรรจุน้ำไว้ใกล้ๆ ไว้ใช้กรณีที่เกิดเหตุฉุกเฉิน
ทั้งนี้ หากพบเห็นหรือเกิดอุบัติเหตุ การปฐมพยาบาลเบื้องต้น และรีบโทรแจ้งขอความช่วยเหลือจากทีมแพทย์กู้ชีพ โทร.1669 อย่างไรก็ตาม ขอย้ำเตือนว่า การเล่นดอกไม้ไฟจนเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายหรือทำให้เกิดเพลิงไหม้จะถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วน กรมควบคุมโรค โทร.1422
ขอบคุณข้อมูลกรมควบคุมโรค
อ่านข่าวเพิ่มเติม