กทม. 1 มี.ค. –ตร.ไซเบอร์ ทลายเว็บพนันรายใหญ่ ยึดทรัพย์กว่า 100 ล้าน พบมีเงินหมุนเวียนต่อปีกว่า 240 ล้านบาท
กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) – 1 มีนาคม 2568 พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ ผบช.สอท. พร้อมด้วยพล.ต.ต.ทินกร รังมาตย์ รอง ผบช.สอท., พล.ต.ต.ศุภกร ผิวอ่อน ผบก.สอท.5, พ.ต.อ.ธีระ เชื้อสุวรรณ ผกก.4 บก.สอท.5 ร่วมกันแถลงผลทลายเว็บพนันรายใหญ่ พบมีเงินหมุนเวียนกว่า 240 ล้านบาทต่อปี ตรวจยึดทรัพย์กว่า 100 ล้านบาท อาทิ เงินสด ทองคำ เครื่องประดับหรูอีกจำนวนมาก
สืบเนื่องจาก กก.4 บก.สอท.5 ได้รับการร้องเรียนจากประชาชนว่ามีการลักลอบเปิดเว็บไซต์การพนันออนไลน์ เครือข่ายเบทฟลิกซ์กัน (betflixgun) ได้เปิดให้บุคคลทั่วไปสมัครเป็นสมาชิกและเข้าเล่นพนันออนไลน์จนเกิดการเสียทรัพย์สินกันจริง ต่อมา พ.ต.อ.ธีระ เชื้อสุวรรณ ผกก.4 บก.สอท.5 ได้นำเจ้าหน้าที่ตำรวจในสังกัดร่วมกันสืบสวนจนพบว่าเครือข่ายเว็บพนัน ดังกล่าวมีเงินหมุนเวียนนับ 20 ล้านบาทต่อเดือน และอาจสูงถึง 240 ล้านบาทต่อปี จึงร่วมกันรวบรวมพยานหลักฐาน จนศาลอาญารัชดาออกหมายจับผู้ร่วมขบวนการได้เบื้องต้น จำนวน 12 คน
จากนั้นวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2568 เวลาประมาณ 15.00 น. ตำรวจไซเบอร์ได้ขอหมายค้นจากศาลเข้าตรวจค้นเป้าหมายพร้อมกัน 3 จุด ดังนี้
จุดที่ 1 บ้านหลังหนึ่ง ย่านถนนสรรพาวุธ แขวงบางนาใต้ เขตบางนา กรุงเทพฯ ตรวจยึดธนบัตรไทย ฉบับละ 1,000 บาท รวมมูลค่า 7,260,000 บาท เครื่องคอมพิวเตอร์พร้อมอุปกรณ์ส่วนควบ และวัตถุคล้ายทองคำ และพระเลี่ยมทอง จำนวนหลายรายการ ซึ่งคาดว่ามีมูลค่านับร้อยล้านบาท
จุดที่ 2 บ้านหลังหนึ่ง ในซอยพัฒนาการ 38 แขวงสวนหลวง เขตสวนหลวง กรุงเทพฯ ตรวจยึดธนบัตรไทยฉบับละ 1,000 บาท รวมมูลค่า 3,300,000 บาท, โทรศัพท์มือถือ 10 เครื่อง, เครื่องคอมพิวเตอร์ โน้ตบุ๊คและอุปกรณ์ส่วนควบ 5 เครื่อง, สมุดบัญชีเงินฝาก, บัตรกดเงินสด หลายรายการ, รถยนต์ 1 คัน มูลค่าประมาณ 10 ล้านบาท และทรัพย์สินคล้ายทองคำแท่ง กำไลทอง แหวนเพชร และอื่นๆ ซึ่งคาดว่ามีมูลค่านับ 10 ล้านบาท
จุดที่ 3 ห้องพักในอพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่ง ในพื้นที่ หมู่ 3 ซอยร่วมจิตรพัฒนา เทพารักษ์ จ.สมุทรปราการ ได้ตรวจยึดเครื่องคอมพิวเตอร์ โน้ตบุ๊ก พร้อมอุปกรณ์ส่วนควบ 10 เครื่อง, โทรศัพท์มือถือ 6 เครื่อง, เครื่องส่งสัญญาณไวไฟ เราเตอร์ 6 เครื่อง, กล้องวงจรปิดและอื่นๆ อีกหลายรายการ รวมมูลค่าทรัพย์สินที่ตรวจยึดได้ทั้งหมดกว่า 100 ล้านบาท
ตำรวจไซเบอร์ยังได้จับกุมบุคคลซึ่งทำหน้าที่ “แอดมิน” ในการให้บริการลูกค้าเว็บพนันออนไลน์ของ betflixgun 5 คน และได้จับกุมตัวนายกิตติศักดิ์ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา รัชดา ที่ 1331/2568 ลง 26 ก.พ.68 ในข้อหา ร่วมจัดให้มีการเล่นการพนันและร่วมกันฟอกเงิน ซึ่งมีหน้าที่กดถอนเงินสด โดยสามารถควบคุมตัวได้ขณะกำลังถอนเงินที่หน้าตู้ ATM ในห้างสรรพสินค้าชื่อดัง ย่านศรีนครินทร์ แขวงหนองบอน เขตประเวศ กรุงเทพฯ
พล.ต.ท.ไตรรงค์ กล่าวว่า การปฏิบัติการในครั้งนี้เป็นหนึ่งในการปฏิบัติการตามนโยบายของตำรวจไซเบอร์ ตั้งแต่รับตำแหน่งมาได้จัดตั้งสายตรวจตำรวจไซเบอร์ เพื่อรับเรื่องร้องเรียนทั้งเว็บการพนัน เว็บการกู้เงิน เว็บไซต์หลอกลวงต่างๆ ฯลฯ ซึ่งแต่ละสัปดาห์จะมีการคัดเลือกเว็บไซต์ ผิดกฎหมายจำนวน 25 เว็บ เพื่อทำการตรวจสอบ ที่ผ่านมาพบเว็บไซต์ผิดกฎหมายไปแล้ว 310 เว็บไซต์ ในครั้งนี้สามารถจับกุมผู้กระทำความผิดได้ 6 ราย และตรวจยึดทรัพย์สินเป็นเงินสด 10,500,000 บาท วัตถุคล้ายทองคำแท่ง 10 แท่ง น้ำหนักรวม 25 บาท พระเครื่อง นาฬิกาแบรนด์เนม สมุดบัญชี 18 เล่ม บัตรเอทีเอ็ม 85 ใบ รวมมูลค่ากว่า 100 ล้านบาท โดยนำเงินที่ได้จากเว็บพนันมาเปลี่ยนแปลงเป็นวัตถุมงคล ทองคำแท่ง เครื่องประดับ ส่วนจะมีการเทรดเป็นเงินคริปโตด้วยหรือไม่อยู่ระหว่างการตรวจสอบ ยืนยันว่าตำรวจไซเบอร์จะทุ่มเทการทำงานอย่างเต็มที่
พ.ต.อ.ธีระ กล่าวว่า จากการตรวจสอบพบว่าเว็บไซต์นี้เปิดมา 5 ปี มีบอสใหญ่เป็นคนไทย โดยผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมได้ให้การรับสารภาพ เคสนี้หลังได้รับเบาะแสได้สืบสวนใช้ระยะเวลานานมากกว่าเคสอื่นๆ เนื่องจากว่ากลุ่มกระบวนการนี้มีการระมัดระวังในการไปกดเงินตามสถานที่ต่างๆ มีการย้ายเปลี่ยนสถานที่ทุก 2 เดือน
ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ได้ตรวจยึดของกลาง พร้อมผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน กก.4 บก.สอท.5 ดำเนินคดีตามกฎหมาย และขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างสืบสวนขยายผล เพื่อติดตามจับกุมผู้ต้องหาที่ร่วมขบวนการมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
สำหรับคดีอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ทุกประเภทได้จับกุมเพิ่มขึ้น 337 คดี คดีการพนันออนไลน์จับกุมเพิ่มขึ้น 298 คดี รวมจับกุมคดีเพิ่มขึ้น 635 คดี ส่วนการปิดกั้นเว็บไซต์ผิดกฎหมายตั้งแต่ พ.ย.67-ม.ค.68 เสนอให้มีการปิดกั้นเพิ่มขึ้น 9,394 url ส่วนการรับคดีปี 2564 มีการทำสำนวน 102 คดี สั่งฟ้องทั้งหมด 102 คดี, ปี 2565 มี 712 คดี สั่งฟ้อง 658 คดี สั่งไม่ฟ้อง 1 คดี, ปี 2566 มี 1778 คดี สั่งฟ้อง 974 คดี สั่งไม่ฟ้อง 1 คดี, ปี 2567 มี 1408 คดี สั่งฟ้อง 520 คดี และปี 2568 (ถึง 20 ก.พ.68) มี 1226 คดี สั่งฟ้อง 21 คดี.-419-สำนักข่าวไทย