ตลาดหุ้นนิวยอร์ก ของสหรัฐ ซื้อขายช่วงเช้าวันนี้ (15 ก.ค.) ตามเวลาท้องถิ่น โดยที่ "ดาวโจนส์" ทะยานขึ้น 294.10 จุด ท่ามกลางการคาดการณ์ว่า ตลาดจะปรับตัวขึ้น หาก "โดนัลด์ ทรัมป์" คว้าชัยชนะในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในเดือนพฤศจิกายน เพราะพรรครีพับลิกันมีนโยบายที่เป็นมิตรต่อภาคธุรกิจ ซึ่งจะทำให้กำไรของบริษัทจดทะเบียนเพิ่มขึ้น และส่งผลบวกต่อตลาด
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ล่าสุดอยู่ที่ 40,295.00 จุด ทะยานขึ้น 294.10 จุด หรือ 0.74% ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ที่ 5,643.31 จุด เพิ่มขึ้น 27.96 จุด หรือ 0.50% และดัชนีแนสแด็กที่ 18,485.82 จุด เพิ่มขึ้น 87.38 จุด หรือ 0.47%
นักวิเคราะห์ชี้ว่า ที่ผ่านมา ทรัมป์มักมีนโยบายที่เอื้อต่อตลาด ขณะที่มีการคาดการณ์ว่า ทรัมป์จะชนะการเลือกตั้งอย่างถล่มทลายในครั้งนี้ ซึ่งจะช่วยให้ตลาดคลายความวิตกเกี่ยวกับความไม่แน่นอนในการเลือกตั้ง
มีการคาดการณ์ว่า ทรัมป์จะได้รับการประกาศอย่างเป็นทางการจากพรรครีพับลิกันให้เป็นตัวแทนของพรรคในการชิงชัยตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐ โดยการประชุมใหญ่ของพรรครีพับลิกันจะมีในสัปดาห์นี้ระหว่างวันที่ 15-18 กรกฎาคม
นอกจากนี้ นักลงทุนจับตาถ้อยแถลงของนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่สมาคมเศรษฐกิจแห่งวอชิงตัน ดีซี ในวันนี้ เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้กำหนดเวลาในการลดดอกเบี้ยครั้งแรกของเฟดในปีนี้
การกล่าวสุนทรพจน์ของนายพาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะมีขึ้นที่สมาคมเศรษฐกิจแห่งวอชิงตัน ดีซี ถือเป็นการแสดงความเห็นของนายพาวเวลเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนที่เจ้าหน้าที่เฟดจะเริ่มเข้าสู่ช่วงงดเว้นการแสดงความเห็นเกี่ยวกับนโยบายการเงิน (Blackout Period) ในวันเสาร์นี้ (20 ก.ค.) และก่อนที่เฟดจะจัดการประชุมกำหนดนโยบายการเงินในวันที่ 30-31 กรกฎาคม
นักลงทุนคาดการณ์ว่า เฟดจะลดดอกเบี้ย 3 ครั้งในปีนี้ โดยจะเกิดขึ้นในเดือนกันยายน พฤศจิกายน และธันวาคม จากเดิมที่คาดว่าจะลดดอกเบี้ยเพียง 2 ครั้งในเดือนกันยายน และธันวาคม หลังสหรัฐเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ที่ต่ำกว่าคาดเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งจะเป็นปัจจัยหนุนการลดดอกเบี้ย
ล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 89.9% ที่เฟดจะลดดอกเบี้ย 0.25% มาอยู่ที่ระดับ 5.00-5.25% ในการประชุมเดือนกันยายน หลังจากที่ให้น้ำหนักเพียง 71.0% เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว และให้น้ำหนัก 59.2% ที่จะลดดอกเบี้ย 0.25% มาอยู่ที่ 4.75-5.00% ในการประชุมเดือนพฤศจิกายน หลังจากที่ให้น้ำหนักเพียง 33.5% เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
ขณะเดียวกัน นักลงทุนให้น้ำหนัก 52.6% ที่เฟดจะลดดอกเบี้ย 0.25% ลงมาอยู่ที่ระดับ 4.50-4.75% ในการประชุมเดือนธันวาคม หลังจากที่ให้น้ำหนักเพียง 26.0% เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- 'แบงก์ชาติสหรัฐ' คงดอกเบี้ยตามคาด ส่งสัญญาณปี 2567 'ลดดอกเบี้ย' ครั้งเดียว
- 'ไอเอ็มเอฟ' เตือนสหรัฐ 'ดอกเบี้ย' สูงนาน ทำ 'เสถียรภาพการเงินโลก' เสี่ยง
- 'เจอโรม พาวเวล' ชี้ 'แบงก์ชาติสหรัฐ' ยังไม่มั่นใจ 'ลดดอกเบี้ย' เหตุเงินเฟ้อยังสูง
ติดตามเราได้ที่
เว็บไซต์: https://www.thebangkokinsight.com/
Facebook: https://www.facebook.com/TheBangkokInsight
X (Twitter):https://twitter.com/BangkokInsight
Instagram: https://www.instagram.com/thebangkokinsight/
Youtube:https://www.youtube.com/channel/UCYmFfMznVRzgh5ntwCz2Yxg
ความเห็น 0