“ชาแนล” (Chanel) แบรนด์แฟชั่นหรูสัญชาติฝรั่งเศส ประกาศปรับขึ้นราคาสินค้าทั่วโลกอีกครั้งในปี 2567 โดยอ้างถึงต้นทุนการผลิตที่เพิ่มสูงขึ้นและอัตราเงินเฟ้อ ชาแนลจึงจำเป็นต้องปรับราคาสินค้าเพื่อรักษาอัตรากำไร การปรับราคานี้ส่งผลกระทบต่อสินค้าหลายประเภท รวมไปถึงราคา“กระเป๋า” อันเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์
ล่าสุด ราคากระเป๋ารุ่นคลาสสิก Small Classic Flap เพิ่มขึ้น 17.08% จากปี 2566 ทำให้ปัจจุบันมีราคาอยู่ที่ 11,240 ดอลลาร์ เท่ากับว่าภายใน 10 ปี ราคากระเป๋ารุ่น “Classic Flap” พุ่งสูงขึ้นมากกว่า 100% เพราะหากย้อนกลับไปเมื่อ 10 ปีก่อน มีราคาอยู่ที่ 9,300 ดอลลาร์ในปี 2557
ถือว่ามีราคาเพิ่มขึ้นมากกว่าสินทรัพย์ที่มั่นคง หากเทียบกับราคา“ทองคำ”สปอต ในเดือน พ.ค.2557 อยู่ที่ 1,287 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งเพิ่มขึ้น 83.8% จนถึงราคาปัจจุบัน ณ วันที่ 10 พ.ค. 2567 เคลื่อนไหวที่ 2,349 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ฟิลิป บลองดิโอ หัวหน้าฝ่ายการเงินของชาแนลกล่าวว่า "คาดว่าจะมีการปรับราคาเพิ่มขึ้นอีกในปลายปีนี้ ซึ่งชาแนลมักจะปรับราคาสินค้าสองครั้งต่อปีและทำแบบนี้มาเสมอและจะยังคงทำต่อไป"
กระเป๋าใบเดียวราคาพุ่งเกือบ 5,000%
อันที่จริงชาแนลมีกระเป๋าหลายรุ่นที่เป็นที่ต้องการของหลายๆคน แต่ Chanel 2.55 ถูกยกให้เป็นไอคอนของแบรนด์ เพราะกระเป๋าคาดลำตัวใบนี้ถูกออกแบบจาก "โคโค ชาเนล"
Chanel 2.55 วางจำหน่ายครั้งแรกในปี 2498 ในราคา 220 ดอลลาร์ หรือราว 7,700 บาทผ่านไป 69 ปีจนถึงปัจจุบัน กระเป๋าใบเดียวกันนี้วางจำหน่ายในราคา 10,800 ดอลลาร์ หรือราว 378,000 บาท ซึ่งเพิ่มขึ้นมากกว่า 4,800%
ส่วนอีกใบคือ กระเป๋า Chanel Classic Flap ยอดฮิต วางจำหน่ายครั้งแรกในปี 2526 ในราคาประมาณ 1,000 ดอลลาร์ หลังจากการปรับราคาในปีนี้ ทำให้กระเป๋าใบนี้มีราคา 10,800 ดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 980% ภายในช่วง 41 ปีที่ผ่านมา
อะไรทำให้ Chanel กล้าขึ้นราคาขายทุกปี
ตั้งแต่ปี 2559 เป็นต้นมา ราคากระเป๋าของชาแนลปรับขึ้นอย่างน้อยปีละ 1 ครั้งอย่างสม่ำเสมอสำหรับทุกรุ่นคลาสสิค ด้วยอัตราการปรับราคาแบบนี้ กระเป๋าChanel ClassicFlap อาจวางขายในราคาเกิน 20,000 ดอลลาร์ ภายในระยะเวลาไม่ถึง 5 ปี
อะไรกันที่ทำให้กระเป๋าแบรนดด์หรูที่ทำจาก “หนังคาเวียร์” และ “หนังแกะ” มีราคาเพิ่มขึ้นทุกปีๆ ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมาราคาปรับขึ้นเร็วและแรง โดยแบรนด์อ้างถึงต้นทุนการผลิตที่เพิ่มขึ้นและปัญหาห่วงโซ่อุปทานที่เกิดจากการล็อกดาวน์โควิดส่งผลต่อต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้น
แต่ทว่าต้นทุนที่เพิ่มขึ้นไม่ใช่เรื่องเดียวที่ส่งผลต่อราคา เพราะความต้องการกระเป๋าชาแนลทั่วโลกที่เพิ่มขึ้นก็เป็นอีกปัจจัยสำคัญ เพราะแม้ว่าแบรนด์หรูจะปรับราคาสินค้าขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่ความต้องการก็ไม่ได้น้อยลงเลย เห็นได้จากตลาดขายของมือสองที่แข็งแกร่งและผลกำไรของบริษัทที่แบรนด์หรูชั้นนำรายงานออกมา
Chanel ทลายกฎ ‘ดีมานด์ซัพพลาย’
การปรับราคาครั้งนี้สร้างความไม่พอใจให้กับลูกค้าบางกลุ่ม แต่ผู้เชี่ยวชาญด้านแฟชั่นหลายคนมองว่า ชาแนลสามารถปรับขึ้นราคาสินค้าได้ เพราะแบรนด์มีฐานลูกค้าที่เหนียวแน่น และสินค้าของชานแนลถือเป็นสินค้าที่ "ใฝ่ฝัน"
ทั้งนี้การขึ้นราคาของชาแนลในปี 2567 สะท้อนถึงการเปลี่ยนแปลงที่น่าสนใจของ"กลไกอุปสงค์อุปทาน" ในกลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือย โดย"ธอร์ชไตน์ เวเบลน" นักเศรษฐศาสตร์และนักสังคมวิทยาชาวอเมริกันในช่วงปลายศตวรรษที่ 19 อธิบายถึง ทฤษฎี "สินค้าเวเบลน" (Veblen Goods) โดยระบุถึงประเภทของสินค้าฟุ่มเฟือยที่ท้าทายกลไกอุปสงค์อุปทาน ผ่านหนังสือ "The Theory of the Leisure Class"
ปกติแล้ว เมื่อราคาสินค้าเพิ่มขึ้นความต้องการก็จะลดลง แต่สำหรับสินค้าฟุ่มเฟือยสุดหรูเหล่านี้กลับตรงกันข้าม ยิ่งราคาของสินค้าเวเบลนเพิ่มสูงขึ้น ความต้องการก็ยิ่งมากขึ้น กล่าวคือ “เมื่อราคาที่สูงขึ้นทำให้สินค้าฟุ่มเฟือยมีความพิเศษมากขึ้น บรรดาเศรษฐีระดับสูงก็ยิ่งให้คุณค่ากับสินค้าเหล่านั้นมากขึ้นและยินดีที่จะจ่ายเงินในราคาที่สูงขึ้นเพื่อรักษาความพิเศษนั้นไว้”
ราคากระเป๋าแบรนด์หรู ในตลาดรีเซลสูงขึ้นกว่าเท่าตัว
เมื่อกระแสความยั่งยืนมีมากขึ้น ความต้องการชาแนลวินเทจก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน ในขณะเดียวกัน บางคนก็เก็บกระเป๋าชาแนลสวยๆ ไว้ในตู้แทนที่จะนำออกมาใช้ โดยมองว่าเป็นของสะสมที่มีมูลค่าทางการลงทุน มากกว่าที่จะเป็นแค่กระเป๋าแฟชั่น
ด้วยความต้องการกระเป๋าชาแนลที่มากขึ้น แต่สต็อกที่มีน้อยส่งผลให้ราคากระเป๋าชาแนลในตลาดขายของมือสองปรับตัวสูงขึ้นตามราคาขายปลีก เช่น กระเป๋า Chanel Classic Flap รุ่น Medium ใบเก่าจากยุค 90 ถูกประมูลที่ซอเธบีส์ (Sotheby’s) บริษัทประมูลงานศิลปะและของสะสมชั้นนำระดับโลก ในราคาเกิน 6,000 ดอลลาร์ ซึ่งในยุคนั้นกระเป๋าใบนี้วางจำหน่ายในราคาประมาณ 1,200 ดอลลาร์เท่านั้น
การปรับราคาที่รุนแรงในช่วงที่ผ่านมา อาจทำให้กระเป๋าชาแนลที่คุณซื้อจากบูติกเมื่อไม่กี่ปีที่แล้ว ตอนนี้อาจมีมูลค่ามากกว่าตอนซื้อเสียอีก โดยเฉพาะกระเป๋าหายากจากฤดูกาลก่อนๆ และรุ่นยอดนิยมที่ขายหมดเกลี้ยงตั้งแต่ในบูติก
อย่างไรก็ดี ผู้บริโภคยินดีที่จะจ่ายเงินเพิ่มเกือบเท่าตัวสำหรับกระเป๋าชาแนลใบเดียวกันในอีก 5 ปีหรือไม่ หลังจากการปรับราคาแบบสองหลักทุกครั้ง มารอดูกันว่าการปรับราคาขชึ้นแรงแบบนี้จะยั่งยืนไปได้ตลอดหรือไม่
อ้างอิง madisonavenuecouture , sothebys
ความเห็น 3
Op@£🍀789⭐369⭐156⭐🙏🙏🙏
ยังไงทองก็ดีกว่า ไฟไฟม้ทองก็ยังอยู่ได้
12 พ.ค. เวลา 06.18 น.
11
14 พ.ค. เวลา 03.17 น.
อภิรัตน์
เก็บของสะสมเก็งกำไรต้องเก็บ ทองคำแท่ง เดือดร้อนเงินเมื่อไรเอาออกขายที่ร้านค้าทองได้เงินสดๆๆทันที
12 พ.ค. เวลา 14.45 น.
ดูทั้งหมด